บท
ตั้งค่า

ช่วงเวลาความสุขเพียงสั้นๆ

องค์หญิง แคว้นใต้ใบหน้างดงามรูปร่างอ่อนช้อยน่ารัก ก้าวเท้าลงจากเกี้ยวช้าๆ นางกำนัลพยุงเดินถึงสองคน

“อิงเผยถวายพระพร ไท่จือ”ร่างสูงที่เดินนำหน้าองครักษ์ออกมารับถึงหน้าประตูวัง

“เอ่อ เอ่อ...ข้าองค์ชายซงยี่รับหน้าที่แทนไท่จือมารับองค์หญิงแคว้นใต้แทนไท่จือที่กำลัง...เอ่อ เอ่อ ออกไป...ประพาส ป่าล่าสัตว์”

“ทำไม ล่าสัตว์ทั้งๆ ที่รู้ว่าอิงเผยจะมาถึงอย่างนั้นหรือ”

“เอ่อ ..เอ่อ ไท่จือออกไปก่อนหน้านั้นหลายวันเดิมไท่จือนิยม ประพาสป่าครั้งละหลายๆ วันอยู่แล้วตอนนี้ฝ่าบาทส่งองครักษ์ตามตัว”

“ทำไม องครักษ์ไม่ได้ตามตัวไท่จือไปอยู่แล้วหรือ”

“ไท่จือนิยมไปไหนเพียงลำพัง”

“ทำไมนิยมไปไหนเพียงลำพังแบบนั้นไม่เรียกว่าหนีไปหรือไร”

ซงหยางถอนหายใจ

(“หนีก็ได้ พ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยจนมุมแล้วไท่จือชอบหนีไปเที่ยว”) ความคิด

“ไม่เรียกว่าหนีไปในเมื่ออีกไม่นานไท่จือจะกลับมาอย่างแน่นอน”

ใจคิดอีกอย่างแต่ ปากกลับพูดไปอีกอย่างที่ถอนหายใจเพราะเบื่อระอากับความเสแสร้งของตัวเอง

“เช่นนั้นอิงเผย รอได้คงต้องรอจนกว่าไท่จือจะกลับมา”

แม้จะกระหน่ำกินกุ้งย่างจิ้มน้ำจิ้มชวงเจียจนอิ่มแปล้แต่ทว่ากลิ่นหอม ของแกงมันเทศกับกุ้งสีสดในน้ำแกงสีเหลืองที่ลอยอบอวลมันเทศหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมพอคำที่เปื่อยนุ่ม สีม่วงตัดกันกับกุ้งสีส้มขาว ส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่วโต๊ะกับข้าว ฮูหยินตักข้าวให้ทุกคนยกเว้นจูเจี่ย

“เจ้าจะต้องมีความหักห้ามใจ แม่ให้เจ้าตักข้าวเองจะได้รู้ว่า ความพยายามของเจ้ามีมากเพียงใดหากอยากจะผอมให้เร็วก็ตักแต่น้อยแต่ถ้าอยากจะผอมให้ช้าก็ตักให้มากหรือจะไม่อยากผอมก็ตักเท่าๆ กับคนอื่น”

แป๋มสูดลมหายใจเข้าลึกๆ คว้าทัพพีไม้ไผ่มาตักขาวสวยร้อนๆ เพียงทัพพีเดียว

“ท่านแม่จูเจียกินกับเล่นไม่อ้วนหรือไร”

“มันเทศกินเข้าไปก็อิ่ม ส่วนกุ้งไม่มีไขมันเท่าที่ควร เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้วจะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่มนาน ทำให้ไม่อยากรับประทานอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติม มันจึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการช่วยลดน้ำหนักทางอ้อมได้ มีส่วนช่วยชะลอวัย บำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสวยงามได้ หากว่ามันเทศจะดีเช่นนี้แม่ว่าจูเจี่ยคงไม่อยากจะกินอย่างอื่นแล้ว”

ท่านเจ้าบ้านเฉินยิ้มตักมันเทศเข้าปากเคี้ยว แป๋มใช้ช้อนไม้ตักเนื้อมันเทศเข้าปากบ้าง รสชาติหวานนุ่มน้ำแกงรสเผ็ดและเค็มซึมเข้าไปในเนื้อมันเทศ ผสมกับกลิ่นเครื่องเทศแทรกซึมเข้าไปจนรู้สึกถึงความลงตัว ในแต่ละคำที่เคี้ยวลงไปให้รสชาติสม่ำเสมอละลายในปาก แป๋มยิ้มย้อนเวลามาถูกที่เสียจริง รสชาติอาหารถูกปากจนไม่อยากจะกลับไปเสียแล้ว เสี่ยวซงตักเนื้อมันเทศเข้าปากบ้างคิ้วขมวดเข้าหากัน ด้วยความสงสัย

“ปกติมันเทศใช้ทำของหวานโดยเฉพาะไม่น่าเชื่อว่าท่านป้าจะนำมันมาทำอาหารคาวได้รสดีเพียงนี้”

“เนื้อของมันเทศ ดูดซับ รสชาติต่างๆ ได้ดีไม่ว่าจะหวานหรือเค็มฉะนั้นอาหารความที่ทำจากมันเทศจึงให้ความลงตัวมาก ตามธรรมดาคนส่วนมากจะไม่นิยมนำมาทำของคาวเพราะเชื่อว่านำมาเป็นทำอาหารหวานดีกว่า แต่เมื่อได้ลองชิมจะเปลี่ยนใจในทันทีเพราะมันเทศไม่ว่าจะทำอาหารหวานหรือคาวล้วนลงตัวที่สุด”

“ท่านแม่มันเทศมีประโยชน์ใดอีกบ้างอยู่ๆ ก็อยากรู้”

“ยังเป็นยาระบายช่วยลดอาการท้องผูก ขับพิษรักษาโรคตาที่มองไม่เห็นในที่มืดบำรุงกำลังอันนี้ต้องถามพ่อของเจ้าเขาชอบกินมันเพราะช่วยเพิ่มกำลังวังชา ส่วนจูจิ้นกินมันเทศเข้าไปมากเขาจึงความจำดี และหลับสบายทั้งคืน แต่ก่อนเจ้าไม่ชอบกินอะไรแบบนี้แม้แม่จะคะยั้นคะยอก็ตามจูเจี่ยนับว่าเจ้าเปลี่ยนไปจริงๆ ”

แป๋มยิ้ม ก็แหง๋ล่ะ ที่โลกปัจจุบันอะไรก็แพงผักตอนนี้แพงกว่าหมูด้วยซ้ำไป อีกทั้งอาหารจำพวกเนื้อสัตว์หาทานได้ง่ายกว่าและไม่ยุ่งยากมีขายทั่วไปจนกลายเป็นสร้างนิสัยให้คนทั่วไปนิยมอาหารปิ้งย่าง และของที่มีไขมันสูง แปลกพอนึกถึงอาหารย่างเนยของทอดหรือปิ้งย่าง ปกติแป๋มจะต้องน้ำลายไหล แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเฉยๆ กับมันหรือเป็นเพราะอาการเหล่านี้ที่กินอยู่ในตอนนี้รสดีกว่าสดกว่า

“จูเจี่ยอยากความจำดีกับฉลาดเหมือนข้าก็ต้องกินมันเทศกับเนื้อปลาเยอะๆ ปกติจูเจี่ยชอบกินไก่กับหมูจนอ้วนเหมือนหมูพวกนั้น”

“เจ้าค่ะนายท่านต่อไปแป๋ม...เอ่ยจูเจี่ยคนนี้จะกินนแบบที่จูจิ้นชอบกินจะได้คิดคำตอบโต้ที่เจ็บๆ คันๆ ตอบโต้จูจิ้นได้ไม่ด้อยไปกว่ากัน”

เสียงหัวเราสอดประสานเสี่ยวซงอมยิ้ม คิดถึงความสัมพันธ์กับพ่อและแม่ของตัวเองที่ไม่มีความอบอุ่นเหมือนดังเช่นตระกูลเฉิน

“นอนกันได้แล้ว อากาศหนาวพรุ่งนี้ พ่อจะพาพวกเจ้าไปหาหน่อไม้มาเตรียมไว้ส่งเข้าวังหลวงและมาเก็บไว้เป็นเสบียงต่อไปต้องเดินขึ้นเขา นานหน่อย จูเจียจะไม่ไปก็ได้ เพราะปกติก็ไม่ไปแต่คราวนี้พ่ออยากให้ไปจะได้ช่วยให้ ร่างกายเข้าที่ ใช้งานร่างกายเสียบ้างเจ้าจึงจะมีร่างผอมบางอย่างที่ต้องการ”

“หนูเอ๊ย ...ข้าอยากไปท่านพ่อให้ข้าไปด้วย”แป๋มรีบแสดงความจำนงกลัวว่าเขาจะไม่ให้ไป จูเจี่ยนี่ก็คงทำตัวเหมือนเแป๋มไม่มีผิดเพี้ยนกินนอน ไม่ยอมช่วยทำอะไรตอนนี้กลายเป็นนิวส์ จูเจี่ย

อากาศเหน็บหนาวยามค่ำคืน แป๋มนอนขดตัวผ้าห่มมีน้อยผืน แล้วอากาศยิ่งหนาวถึงเพียงนี้ใครกันจะทนไหวเกลียดอากาศหนาวที่สุด

เสี่ยวซง เร้นกายออกจากห้อง

“ไท่จือ ข้าน้อยมารับตัวไท่จือกลับตามบัญชาของฝ่าบาท”

ร่างูสูงชะลูดที่ด้านหลังมีกระบี่โผล่ออกมาให้เห็น

“ยังไม่อยากกลับ”

“ฝ่าบาททรงห่วงใยไท่จือไม่น้อย”

“เสแสร้งเลิกหลอกล่อข้าด้วยคำพูดเหล่านี้ไปได้แล้วจงต้าหมิง กี่ปีแล้วที่ใช้คำพูดเหล่านี้ให้ข้ายังต้องอยู่ในกรอบเช่นที่ผ่านมา”

“ไท่จือได้โปรดองค์หญิงแคว้นใต้กำลังจะมาอภิเษกเป็นไท่จือเฟย”

“นั่นคือกรอบที่ข้าถูกตีไว้อีกใช่หรือไม่ ข้าอยู่ที่นี่ได้เห็นความรักความผูกพันของคนในตระกูลเฉินล้วนไม่มีการตีกรอบบังคับไม่ว่าใครตั้งใจทำสิ่งใดล้วนแล้วแต่ความสมัครใจ”

“ฝ่าบาทเป็นฮ่องเต้ ไท่จือเป็นไท่จือ ชาติกำเนิดยิ่งใหญ่ ความรับผิดชอบก็ยิ่งใหญ่พวกเขาแค่ปลูกผักเลี้ยงสัตว์ไปวันๆ ความรับผิดชอบของพวกเขามีเพียงเท่านั้น ไท่จือจะนำมาเปรียบกันไม่ได้”

“ข้าถึงอยากจะเลือกทางเดินของตัวในเมื่อข้าเลือกชาติกำเนิดของตัวเองมิได้ แล้วยังไม่อาจไม่เป็นไท่จือเช่นนั้นช่วงเวลานี้ข้าขอเพียงความสุขเล็กน้อยก่อนที่จะต้องไปรับผิดชอบชาติกำเนิดของตัวเอง”

“แต่ฝ่าบาท ให้ตามไท่จือกลับทันทีที่พบตัว”

“หากยังตีกรอบให้ข้าอยู่แต่ในนั้นคาดว่าเจ้าจะต้องหาข้าอีกนานหน่อย”

“ไท่จือ ได้โปรดกระหม่อมทำตามพระประสงค์ของฝ่าบาท”

“จงต้าหมิงเจ้าอยู่กับข้ามานานแค่ไหน เห็นว่าข้าลำบากใจแค่ไหนช่วงเวลาความสุขเพียงสั้นๆ ให้ข้าไม่ได้หรือไร”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel