ตอนที่ 18 มาให้จัดการถึงบ้าน
สองสามีภรรยาหันมองตากันอย่างเบื่อหน่าย จางซิ่วอิงถอนหายใจเสียงดัง วันนี้เธอเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เพียงแค่อยากใช้เวลาร่วมกับสามีเล็กน้อยนี่มันยากเย็นจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นร่างบางก็เดินเข็นรถพาสามีออกมาหน้าบ้านด้วยกัน
หยางซีห่าวนั่งอยู่บนรถเข็นที่ภรรยาเป็นคนพามา ร่างบางให้เขาหยุดรออยู่ใกล้กลับประตูบ้าน ซึ่งห่างจากรั้วบ้านพอสมควร
ตอนนี้บริเวณด้านนอกรั้วมีชาวบ้านนับสิบคนมายืนรอชมความสนุก เพราะเสียงก่นด่าหยาบคายของสะไภ้ใหญ่บ้านหยาง
จางซิ่วอิงเห็นเช่นนั้นก็เข้าใจได้ทันทีว่าเรื่องราวเป็นเช่นไร ดูจากท่าทางฟาดงวงฟาดงาขนาดนี้ไม่แคล้วคงรู้เรื่องของแม่สามีและลูกชายแล้วแน่ ๆ
ร่างบางของเจ้าของบ้านเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงวัยกลางคน ก่อนจะยกมือหนึ่งขึ้นแคะหูด้วยท่าทางยียวน
หวงไฉ่หงที่เห็นท่าทางยั่วโมโหของหลานสะไภ้ก็ฉุนจัด ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธเกรี้ยว ก่อนจะชี้หน้าเด็กสาวและเริ่มด่าทอด้วยเสียงอันดังลั่น
“ออกมาแล้วเหรอ? มาให้ฉันตีแกเดี๋ยวนี้ นางแพศยา!!!”เสียงแหลมเล็กด่าทอหญิงสาวอายุน้อยกว่า พลางยกมือขึ้นชี้หน้า
หญิงสาวเจ้าของบ้านไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดมากไปกว่านี้ เธอเดินเข้ามาใกล้ป้าสะไภ้ ก่อนจะปัดมือที่ชี้หน้าอยู่ทิ้งอย่างไม่เกรงกลัว ดวงตาคู่เรียวจ้องเขม็งไปที่ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนโดยไร้ความหวาดกลัวเช่นเมื่อก่อน
เห็นเช่นนั้นหวงไฉ่หงโมโหจนเลือดขึ้นหน้า นางเริ่มอ้าปากเตรียมจะด่าทอหลานสะไภ้อีกครั้ง
ทว่าจางซิ่วอิงเป็นฝ่ายชี้หน้าป้าสะไภ้ใหญ่บ้าง จากนั้นจึงโต้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยวไม่แพ้กัน แววตาที่มองหญิงวัยกลางคนเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างชัดเจน เธอชักจะเริ่มโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว เหนื่อยมาทั้งวันแล้วยังต้องมารับมือกับมนุษย์ป้าไร้สมองอีก “หยุดค่ะ! มีอะไรก็รีบพูดให้จบ ถ้าหากจะมาแหกปากเหมือนสุนัขคลอดลูกก็ไปที่อื่นค่ะ หนวกหูมาก!!!”
ร่างบางพูดเพียงเท่านั้นก็เตรียมจะหันหลังกลับเข้าบ้าน เธอไม่คิดจะสนใจเรื่องไร้สาระของยายป้านี่อีกต่อไป แต่อีกฝ่ายนั้นเหมือนจะไม่ยินยอมให้เป็นเช่นนั้น เพราะฝีเท้าหนัก ๆ ของหวงไฉ่หงกำลังก้าวตามหลังจางซิ่วอิงมาติด ๆ
“กะ แก! แกทำให้แม่สามีกับลูกชายฉันติดคุกติดตาราง เพราะแกคนเดียว!! นางซิ่วอิง นางเนรคุณ!”เย็นวันนี้หัวข้อที่ชาวบ้านในหมู่บ้านพูดถึงล้วนเป็นเรื่องของแม่สามีและลูกชายเพียงคนเดียวของนาง เพราะนางแพศยานี่แท้ ๆ ทำให้ลูกชายของนางต้องจบอนาคตลง เห็นทีวันนี้ไม่ได้เอาเลือดหลานสะไภ้คนนี้ออกก็อย่าได้มาเรียกนางว่าสะไภ้ใหญ่บ้านหยางอีกเลย
“ใช่ค่ะ! แล้วมีอะไรหรือเปล่าคะ? ป้า-สะ-ไภ้-ใหญ่”เสียงใสกราดเกรี้ยวตอบรับอย่างไม่เกรงกลัว
เพี๊ยะ!!!!
เสียงฝ่ามือใหญ่กระทบลงบนซีกแก้มข้างหนึ่งของเด็กสาวจนทำได้กลิ่นสนิมคละคลุ้งในโพรงปาก ดวงตาคู่เรียวตวัดมองเจ้าของรอยมือด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในอก ก่อนจะสาวเท้าก้าวอาด ๆ เข้าไปประชิดตัวป้าสะไภ้
“หล่อนรนหาที่เองนะ!!”
จางซิ่วอิงคว้าเข้าที่มวยผมของสะไภ้ใหญ่ ก่อนจะฉุดกระชากลากมาใกล้เสาไม้ที่คิดว่าแข็งแรงที่สุดของรั้วบ้าน ขาเรียวเตะเข้าที่ข้อพับอย่างแรงจนหวงไฉ่หงคุกเข่าลงบนพื้นดิน จากนั้นจึงจับหัวของหล่อนโขกไปที่เสาไม้อีกหลายครั้ง
ความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสทำเอาสมองของสะไภ้ใหญ่มึนเบลอ นางไม่ทันคิดตอบโต้อะไรได้ หน้าผากของหล่อนก็โขกเข้าที่เสาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่ได้นับ แต่ถึงอย่างนั้นหล่อนก็พยายามเอาชีวิตรอด พยายามดิ้นรนจนหลุดจากการเกาะกุม จางซิ่วอิงมองผมกระจุกใหญ่ในมือตัวเองอย่างสาแก่ใจ แววตาเยือกเย็นจ้องมองใบหน้าของคนที่กำลังก้าวถอยหลังอย่างหวาดกลัว
“แก! นางปีศาจ ฉันฝากไว้ก่อนเถอะ!!”นางคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าหลานสะไภ้ที่เคยดูขี้โรคจะมีเรี่ยวแรงมากมายโต้ตอบมาได้ขนาดนี้ ขณะกำลังชี้หน้าด่าทออีกฝ่าย นางรู้สึกได้ถึงของเหลวที่ไหลลงมาจากมุมหน้าผาก เมื่อยกมือขึ้นเช็ดก็พบว่ามันคือเลือดจำนวนมากที่ไหลออกมาเป็นทางจนไหลย้อยลงมาถึงปลายคาง
มืออวบสั่นเทามองเลือดจำนวนมากที่ไหลออกมาไม่หยุดกำลังหยดลงบนพื้นหยดแล้วหยดเล่า ก่อนจะถอยหลังกลับบ้านไปด้วยความหวาดกลัว
“ฝากแล้วรีบมาเอาคืนล่ะ อย่าให้ฉันต้องเอาไปคืนถึงบ้านนะคะป้าสะไภ้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!!” คำพูดยียวนแกมข่มขู่พร้อมเสียงหัวเราะอย่างเลือดเย็นของสตรีร่างบางทำให้นางหวงไฉ่หงรีบวิ่งกลับบ้านแทบไม่ทัน
หยางซีห่าวที่มองการกระทำของภรรยาอยู่ตลอดก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเฝื่อน ในทีแรกเขารู้สึกร้อนใจมากทีเดียว ภรรยาเขาตัวเล็กแค่นี้จะสู้กับป้าสะไภ้ที่ตัวใหญ่กว่าเป็นสองเท่าได้อย่างไรกัน แต่พอเห็นตอนที่จางซิ่วอิงคว้าศีรษะป้าสะไภ้แล้วโขกเข้ากับเสารั้วโดยที่ตาไม่กระพริบนั่นแล้ว เห็นทีหลังจากนี้เขาคงไม่กล้าทำให้ภรรยาไม่พอใจ เพราะเวลาภรรยาของเขาโมโหขึ้นมาแล้วเธอดูน่ากลัวเกินไปแล้ว
“ขอให้ลุงป้าน้าอาทุกท่านเป็นพยานให้ฉันด้วยนะคะ ป้าสะไภ้มาหาเรื่องฉันถึงในรั้วบ้าน ถึงขั้นตบหน้าฉันก่อน ฉันเพียงแค่ป้องกันตัวก็เท่านั้น”
จางซิ่วอิงพูดขึ้นเสียงหวานผิดกับเมื่อครู่ที่ลงมือจับหัวป้าสะไภ้โขกกับเสาอย่างสิ้นเชิง จากนั้นจึงเดินเข็นสามีเข้าบ้านไปโดยไม่ได้สนใจสายตาหลายสิบคู่ที่กำลังมองอย่างพิจารณา บ้างก็รู้สึกทึ่งกับหญิงสาวบอบบางดูขี้โรคคนนี้
“คุณจะว่าฉันก็ได้นะคะ แต่ฉันคิดว่าฉันอดทนกับหล่อนถึงที่สุดแล้วเหมือนกัน”จางซิ่วอิงพูดขึ้นกับสามีทันทีที่เข้ามาในตัวบ้าน หวงไฉ่หงนับว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของสามีคนหนึ่ง การที่เธอลงมือเมื่อครู่อาจจะทำให้คนดี ๆ อย่างสามีมองเธอไม่ดี แต่เธอไม่ใช่จางซิ่วอิงคนเดิมที่เอาแต่ก้มหน้าปล่อยให้คนอื่นกระทำกับตนเองอย่างไรก็ได้คนนั้นอีกแล้ว
“ป้าสะไภ้มาหาเรื่องคุณก่อนผมจะว่าคุณได้อย่างไร อย่าคิดมากเลยครับ”มือหนาตบลงบนหลังมือของภรรยาเบา ๆ เขาออกจะดีใจด้วยซ้ำที่ภรรยาเขาในตอนนี้รู้จักการโต้กลับและปกป้องตัวเอง ถึงแม้วิธีการของเธอจะดูน่ากลัวไปสักหน่อยแต่เธอก็ไม่ได้เริ่มก่อนสักหน่อย ตั้งแต่เรื่องย่าและญาติผู้พี่เมื่อตอนบ่าย ไหนจะเมื่อครู่อีก นับได้ว่าภรรยาจัดการปัญหาได้อย่างเด็ดขาดทีเดียว
“ขอบคุณนะคะที่เข้าใจฉัน”หญิงสาวยิ้มบาง
หลังจบมื้ออาหารที่เต็มไปด้วยอาหารคาวหวานสารอาหารครบถ้วนที่คนเป็นภรรยาตั้งใจทำเพื่อบำรุงสามีที่บาดเจ็บ ตบท้ายด้วยยาหลังอาหารอย่างเช่นทุกครั้ง ป้าสะไภ้ที่เข้ามาก่อกวนก็ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว จางซิ่วอิงจึงเริ่มล้างแผลให้คนเป็นสามีอย่างใส่ใจ
“แผลคุณดีขึ้นเยอะแล้ว อยากอาบน้ำไหมคะ?”
“ก็ดีครับ”เขาอาบน้ำครั้งสุดท้ายเห็นทีจะเป็นก่อนปฏิบัติภารกิจเห็นจะได้ เพราะตั้งแต่บาดเจ็บด้วยบาดแผลฉกรรจ์ทำให้เขาทำได้เพียงแค่เช็ดตัวเท่าที่จะทำได้เท่านั้น
จางซิ่วอิงพาสามีเข้ามาในมิติ เข็นรถเข็นคันใหญ่เข้าไปในห้องน้ำเดิมที่พาเขามาเมื่อเช้า เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์อาบน้ำเธอจึงให้เขารออยู่ที่นั่น ส่วนเธอเดินไปหยิบถังน้ำใบใหญ่ ขันและอุปกรณ์จำพวกสบู่ ยาสระผมและยาสีฟัน อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยคือ ฟิล์มแรปอาหาร
หยางซีห่าวนั่งลงบนชักโครกที่ปิดฝาเรียบร้อยแล้วด้วยการช่วยเหลือจากภรรยา ท่อนขาที่พันผ้าสีขาวสะอาดถูกยกขึ้นพาดบนเก้าอี้ที่หญิงสาวเตรียมมา จากนั้นแผลขนาดใหญ่ที่ถูกล้างไปเมื่อก่อนหน้าถูกฟิล์มบาง ๆ พันรอบหลายชั้นจนแน่นหนา หญิงสาวอธิบายสิ่งที่เธอเตรียมไว้ให้คนเป็นสามีเล็กน้อย จนเขาพยักหน้าเข้าใจและเตรียมตัวจะอาบน้ำ
“ให้ฉันช่วยถอดไหมคะ?”ริมฝีปากบางผุดรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม พลางส่งสายตาสื่อความหมายไปหาสามี
หยางซีห่าวที่ถูกภรรยากลั่นแกล้งด้วยวิธีนี้อีกครั้งก็รู้สึกใบหน้าเห่อร้อนเขาไม่เคยรู้สึกอยากจับภรรยามาตีก้นมากเท่านี้มาก่อน “ผมทำได้ครับ”
“เสียดายจัง อดเห็นเลยแฮะ!”หญิงสาวแสร้งทำใบหน้าแสนเสียดายออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“ภรรยา นี่คุณ!!!”เขาไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมากำราบความแสนซนของเธอจริง ๆ ได้แต่อดกลั้นไม่ให้รู้สึกอะไรกับสิ่งที่ภรรยากำลังหยอกเย้ามากนัก เพราะไม่เช่นนั้นเขาเองนี่แหละที่จะลำบาก
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ไม่แกล้งแล้วค่ะ ฉันออกไปรอข้างนอกนะคะ”
หยางซีห่าวมองภรรยาที่หัวเราะร่าเดินออกจากห้องน้ำไปด้วยความรู้สึกหมั่นเขี้ยว พลางมองไปที่ขาของตัวเองก็ถอนหายใจออกมา
“รอขาผมหายก่อนเถอะภรรยา ผมไม่ปล่อยคุณแน่!!”ชายหนุ่มคิดในใจอย่างหมายมาด นัยน์ตาคมกริบทอประกายวาวโรจน์ ก่อนจะลงมือทำความสะอาดร่างกายด้วยสิ่งต่าง ๆ ที่ภรรยาเตรียมไว้ให้
