บทย่อ
เมื่อรักแปรเปลี่ยนเป็นแค้น อันเหมยลุกขึ้นท้าทายสวรรค์เพื่อทวงคืนสิ่งที่สูญเสีย แต่ในความมืดมนของไฟแค้น ศัตรูผู้ถูกส่งมาหยุดยั้งนาง กลับกลายเป็นแสงสว่างเดียวที่แตะต้องหัวใจของนางเสียเอง เรื่องย่อ อันเหมย หญิงสาวผู้เคยเปี่ยมด้วยความรักที่บริสุทธิ์ต่อ แต่ความรักกลับถูกตอบแทนด้วยการทรยศอันโหดร้าย ชายที่รักประหารครอบครัวของนางจนสิ้น และแม้แต่ตัวอันเหมยเองก็ไม่อาจหลบหนีชะตากรรมอันโหดร้ายนั้น ความตายครั้งนั้นไม่ได้ทำให้นางดับสูญ แต่กลับปลุกนางให้ฟื้นคืนมาในฐานะจอมมารหญิง ผู้ครองความแค้นที่สั่นคลอนทั้งสวรรค์และปฐพี พันปีผ่านไป อันเหมยกลายเป็นตำนานที่โลกทั้งใบหวาดกลัว เรื่องเดือดไปถึงสวรรค์ เยว่หัว เทพหนุ่มผู้ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ทำลายจอมมาร ภารกิจของเขาคือการปลิดชีพนางและยุติภัยพิบัติที่ครอบงำแผ่นดิน แต่เมื่อเยว่หัวได้พบกับอันเหมย เขากลับพบว่าความโหดร้ายที่โลกกล่าวถึง เป็นเพียงเปลือกนอกของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยบาดแผล เมื่อเส้นทางของทั้งสองต้องโคจรมาพบกัน ระหว่างหน้าที่และสายใยที่ยังไม่ขาดลง ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะนำพาไปสู่อะไร? เยว่หัวจะสามารถทำลายหญิงที่เขารัก หรือจะเลือกฝ่าฝืน ชะตากรรมที่สวรรค์ลิขิตไว้? ในโลกที่ความรักและความแค้นทับซ้อนจนแยกไม่ออก ชะตากรรมของพวกเขาจะลงเอยเช่นไร… ติดตามได้ในเรื่อง เมื่อข้ากลายเป็นมาร
บทที่ 1 ชะตากรรมแห่งการสิ้นใจ
“ประหารนางซะ!!”
เมื่อเสียงคำสั่งประหารมาถึง ตระกูลจางเต็มไปด้วยบรรยากาศอันน่าสะพรึงกลัว เสียงฝีเท้าของทหารที่เดินขบวนดังย่ำลงบนพื้นหินในลานกว้าง
ตึง ตึง !
เสียงกลองประหารดังก้องสะท้อนทั่วหุบเขา เหล่าขุนนางและประชาชนที่รวมตัวกันอยู่ในสนามประหารต่างยืนเงียบในความตึงเครียด สายตาทุกคู่จ้องไปที่หญิงสาวผู้ยืนอยู่บนแท่นประหาร นางคือ “อันเหมย” บุตรสาวของตระกูลจาง ผู้ที่เคยมีชีวิตอันสงบสุขและบริสุทธิ์
ร่างบางในชุดขาวบริสุทธิ์ที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของความงามและความสง่างามในหมู่ชนชั้นสูง ขณะนี้กลับดูบิดเบี้ยวด้วยโซ่เหล็กหนักที่พันธนาการข้อมือของนางไว้ อันเหมยยืนนิ่ง พยายามข่มความเจ็บปวดจากการถูกทรมานมาตลอดหลายวัน แต่ใบหน้าของนางยังคงสงบ และดวงตาแฝงไปด้วยความเจ็บปวดที่ไม่อาจปกปิดได้ นัยน์ตาสีนิลมองไปที่ผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า นางจับจ้องไปยัง “อวี่กง” ผู้ที่เคยเป็นทั้งคนที่รักและเคารพ บัดนี้เหลือเพียงความเจ็บปวดและความเกลียดชัง
อวี่กงยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยท่าทางสงบนิ่ง ใบหน้าของเขามีแววเคร่งเครียด แต่สายตาของเขากลับไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อการประหารครั้งนี้
“อันเหมย เจ้ากลายเป็นคนที่ไม่สามารถให้อภัยได้แล้ว”
อวี่กงกล่าวเสียงเรียบแต่แข็งกร้าว
คำพูดของเขาคล้ายเป็นการประกาศประหาร นางไม่สามารถห้ามปรามตัวเองได้อีกแล้ว คำพูดที่อวี่กงพูดราวกับตีหัวใจของนางให้แตกสลาย
“ท่าน…ท่านทำกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไร?”
น้ำเสียงของอันเหมยเริ่มแหบพร่า
“ข้ารักท่านมากกว่าสิ่งใด…ท่านกลับหักหลังข้าจนถึงที่สุด!”
อวี่กงหันไปมองดวงตาของอันเหมยอีกครั้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา แม้จะเคยมีความรักในอดีตแต่มันก็เป็นเพียงแค่ความทรงจำที่เขาทำลายลงเอง เพราะในตอนนี้ เขากำลังมองไปข้างหน้าเพื่ออนาคตที่มั่นคงยิ่งขึ้น
เขาไม่ตอบอะไร แต่โบกมือให้ทหารเพื่อนำตัวพ่อและแม่ของอันเหมยมาประหาร การกระทำที่โหดร้ายเช่นนี้ทำให้หัวใจของอันเหมยเจ็บปวดยิ่งนัก
“ท่านพ่อ!ท่านแม่!”
อันเหมยตะโกนอย่างสิ้นหวัง เมื่อเห็นผู้เป็นพ่อและแม่ถูกลากไปยังตำแหน่งประหาร นางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดสุดทนในใจ ความรักที่นางมีให้กับอวี่กงยังคงไม่หายไป แม้เขาจะทำสิ่งที่
น่าเกลียดร้ายแรงเช่นนี้
ทุกสิ่งเกิดขึ้นรวดเร็ว เกิดขึ้นพร้อมกับการตัดสินใจที่ไม่สามารถย้อนกลับ อวี่กงไม่ได้สนใจคำร้องขอของอันเหมย เขารู้ดีว่าเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เขาจะได้ผลประโยชน์จากการกำจัดตระกูลจางเพื่อให้ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น ในการแต่งงานกับหญิงที่มีฐานะสูงกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแต่งงานกับหญิงสาวจากตระกูลหลิว ที่เป็นตระกูลขุนนางชั้นสูงสุดในแคว้น
อวี่กงไม่เคยรักอันเหมยจริงๆ นับแต่แรก เขาเพียงแค่ใช้ความรักที่เธอมีเพื่อให้ตระกูลจางเชื่อใจและสนับสนุนเขาในเส้นทางการเมือง ในตอนนี้เมื่อทุกอย่างได้ถูกจัดการ เขาจึงมองว่าเวลาของอันเหมยสิ้นสุดลงแล้ว ความรักที่เคยมีไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ ในการเดินทางสู่ความสำเร็จของเขา
การประหารของพ่อและแม่ของอันเหมยเกิดขึ้นอย่างโหดเหี้ยม ทหารจับตัวพวกเขาให้นั่งคุกเข่า ก่อนที่ดาบจะสะบัดลงไป ดวงตาของอันเหมยเต็มไปด้วยน้ำตา แต่เธอก็ไม่อาจหยุดยั้งสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ร่างของบิดามารดาล้มลงในพริบตา ทั้งสองสิ้นใจโดยไม่ทันได้รู้ตัว
“อวี่กง… ข้าจะจดจำการกระทำของท่านในทุกชาติต่อไป!”
เสียงของอันเหมยตะโกนด้วยความแค้นเงียบ แต่ชัดเจน ทุกคำพูดของเธอดังสะท้านไปถึงหัวใจของทุกคนในสนามประหาร อวี่กงเหลือบมองเธอแต่ไม่ตอบ เขารู้ดีว่าความตายของหญิงสาวตรงหน้าคือสิ่งที่เขาต้องการ
ทันใดนั้น
มือหนาโบกมือให้ทหารประหารอันเหมยอย่างเด็ดขาด ดาบฟาดลงบนร่างของนางทันที เสียงดาบกระทบกันดังสนั่น ร่างของ
อันเหมยทรุดลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเลือดที่ไหลรินลงบนพื้น ดวงตาสีนิลส่องประกายแสงสุดท้าย ก่อนที่ร่างกายจะสูญสิ้นชีวิต
การสิ้นใจของอันเหมยไม่ได้เป็นการสิ้นสุดของเรื่องราว ในตอนที่วิญญาณของนางออกจากร่าง กลับไม่พบความสงบเงียบเหมือนกับที่หลายคนคาดหวังไว้
วิญญาณของนางลุกขึ้นจากร่างที่นอนราบ แผ่พลังมืดออกจากตัวเอง มันคือพลังที่ยากจะควบคุมและยิ่งเพิ่มขึ้นทุกขณะ วิญญาณของอันเหมยที่ตายไปแล้ว เริ่มมีกำลังที่แกร่งกล้า จิตใจที่เคยเต็มไปด้วยความรักกลับกลายเป็นความแค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุด

