บทที่ 8 ดูถูก
ระเบียบนั่งสานกระโล่อยู่ใต้ต้นชมพู่ต้นใหญ่หน้าบ้าน กิ่งก้านชมพู่แผ่กว้างให้ร่มเงาเจ้าของบ้านนานหลายปี ดอกสีขาวนวลบานสะพรั่ง ช่อดอกร่วงโปรยตามพื้นสวยงาม แคร่ไม้ตั้งประจำอยู่โคนต้นชมพู่ ที่นี่เป็นที่พักผ่อนยามสาย ช่วงบ่ายแดดจัด เจ้าของบ้านเปลี่ยนมุมเข้าไปพักบนแคร่ใต้ถุนบ้าน ชีวิตชาวบ้านนอกเป็นชีวิตเรียบง่ายสุขสบายหากผู้อาศัยอยู่ไม่ทำให้ชีวิตยุ่งยากตามความโลภของตนเอง
รถมอเตอร์ไซค์วิ่งเข้ามาจอดใกล้ต้นชมพู่ คนขับส่งยิ้มทักทายเจ้าของบ้านตามปกติที่พบหน้ากัน ระเบียบบ้วนน้ำหมากลงกระโถนก่อนจะเอ่ยถามผู้มาเยือน
“วันนี้ลมอะไรหอบมาถึงนี่เชียวรึนังสมใจ”
“ลมคิดถึงน่ะสิพี่เบียบ ทำอะไรอยู่ล่ะ สานกระโล่รึ”
“เออ ว่างๆ ก็สานไปเรื่อยๆ ไว้ใช้ตากโน่นตากนี่ได้ มีธุระอะไรรึเปล่า มาถึงนี่”
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะมาเที่ยวหา พี่กำนันไม่อยู่หรือจ๊ะ”
“ไปหาตาปลั่งจะให้มาถากหญ้าสวนให้สักหน่อย มีธุระกับพี่พวงหรือ”
“เปล่าอีกนั่นแหละพี่ ฉันอยากมาคุยด้วย กลุ้มใจ เดี๋ยวนี้ผู้ใหญ่ไม่ค่อยเห็นความสำคัญของแม่เลยพี่ ห้ามอะไรก็เหมือนยุให้ทำอย่างนั้นแหละ”
คำว่าไม่มีอะไรของสมใจค่อยๆ เปิดออกมาจากปากและใบหน้า ระเบียบยิ้มระบายเต็มใบหน้าอวบอิ่มของหล่อน สมใจแวะเวียนมาบ้านกำนันไม่บ่อยนักแต่ละครั้งที่มาต้องมีเรื่องไม่สบายใจ มีบางครั้งเท่านั้นที่มาคุยเล่นแบบธรรมดาๆ
“ห้ามอะไรเขาล่ะ เขาโตแล้ว ก็คงคิดเองบ้าง อย่าไปว่าเขาเลย”
“ไม่ได้หรอกพี่ ฉันไม่อยากให้ผู้ใหญ่ชอบนังไม ลูกสาวนังชม มันไม่เหมาะสมกับลูกชายฉัน ฐานะก็ย่ำแย่ บ้านก็หลังเล็กเท่ารูหนู ฉันไม่เอามาเป็นสะใภ้หรอกจ้ะ”
ระเบียบรับฟังพร้อมเข้าใจความไม่สบายใจของสมใจ ผู้ใหญ่สมศักดิ์ชอบชไมพร เรื่องนี้ทำให้สมใจมาหาระเบียบถึงบ้าน
“เอ็งจะไปห้ามได้อย่างไร เขารักกันชอบกันก็ตามใจเขาสิ”
“ไม่ได้หรอกพี่ ฉันน่ะหมายหมั้นปั้นมือแม่รุ่ง ลูกสาวพี่อยู่ ฉันอยากได้แม่รุ่งไปเป็นสะใภ้”
“โอ๊ย.เอ็งคิดอย่างนั้นไม่ได้หรอก ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่นะสมใจ”
ระเบียบรู้ว่าสมใจชอบลูกสาวหล่อน อยากได้ไปเป็นสะใภ้แต่สมศักดิ์ไม่เคยมองรุ่งทิพย์อย่างหญิงสาวหน้าตาดีสักครั้ง เขามองรุ่งทิพย์เป็นน้อง พูดคุยธรรมดา ไม่มีเชิงชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้องสักครั้ง รุ่งทิพย์คนเดียวที่หลงใหลสมศักดิ์ พูดถึงเกือบทุกวัน ไปหาสมศักดิ์ทุกเย็น สมศักดิ์หลบบ้างบางวันและหนีออกทางหลังบ้านเมื่อรุ่งทิพย์เปิดเผยเจตนาการมาบ้านเขาตรงๆ แม่ของเขาต้อนรับเป็นอย่างดี สนับสนุนรุ่งทิพย์อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าสมศักดิ์จะไปไหนทำอะไร สมใจต้องให้รุ่งทิพย์ตามไปด้วยทุกครั้ง
“ไม่ได้จ้ะพี่ พี่ไม่ชอบลูกชายฉันหรือ ฉันชอบแม่รุ่ง ฉันจะมาขอแม่รุ่งไปเป็นสะใภ้เร็วๆ นี้แหละ หมั่นไส้พวกมัน แหม.ไอ้ทิวหายไปคืนเดียวร้องไห้เป็นวักเป็นเวร ทำยังกับลูกหายไปตายอย่างนั้นแหละ”
“เฮ้ย.พูดอะไรอย่างนั้นนังสมใจ ลูกหายมันก็เสียใจกันทั้งนั้นแหละ ลูกใครใครก็รัก เอ็งอย่าพูดอย่างนี้ ถ้าไอ้ทิวมันหายไปแล้วตายจริงๆ มันจะมาหลอกหลอนเอ็ง”
“ไม่หรอกพี่ มันไม่...”
สมใจพูดต่อไม่ได้ ขนลุกชัน เสียวสันหลังและเย็นจนรู้สึก ลมพัดอู้ปะทะใบหน้าหล่อน หน้าเย็นวาบ เกสรชมพู่ร่วงพรู กิ่งไหวโอน ใบสะบัดพรึบๆ ระเบียบแหงนมองท้องฟ้า เมฆทะมึนครึ้มเหนือบ้าน ลมแรงกว่าเดิม หล่อนมองหน้าสมใจ ใบหน้าเพื่อนบ้านรุ่นน้องซีดขาว หล่อนเก็บตอกสานกระโล่ หอบเข้าใต้ถุนบ้าน
“เข้ามาก่อนสมใจ ฝนจะตกแล้ว ไม่รู้มาจากไหน เมื่อกี้ฟ้ายังโปร่งอยู่เลย”
“ไม่จ้ะพี่ ฉันกลับก่อนดีกว่า ประเดี๋ยวฝนตกหนักกลับไม่ได้ ฉันไปนะ”
“เออๆ รีบๆ เข้า ทำท่าจะหล่นแล้ว”
ระเบียบห่วงสมใจจะถูกฝน เร่งทั้งมือ ทั้งท่าทาง สมใจขี่รถออกพ้นรั้วบ้านระเบียบ เมฆคล้อยต่ำดำทะมึน หล่อนเร่งความเร็ว กลัวเปียกฝนแต่ยิ่งเร่ง รถกลับไม่เร็ว ลมกระโชกปะทะใบหน้าลืมตาแทบไม่ขึ้น หล่อนพาลด่าฝนร่วงหล่นลงมาถูกหน้า
“ไอ้ฝนบ้าเอ๊ย จะรีบตกทำไมวะ”
คำพูดจบลงด้วยเม็ดฝนกระหน่ำไม่ปรานี สมใจเจ็บใบหน้า แขน ขา ด้วยแรงของน้ำฟ้าพรูพร่างสาดใส่ หล่อนสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวดและเหน็บหนาว ครู่ใหญ่จึงกลับถึงบ้าน หน้าชา แขนและขาเจ็บระบม
“อย่ากล่าวหาคนอื่นอีก อีนังสมใจ”
เสียงใครบางคนกระซิบอยู่ด้านหลังตู้เก็บเสื้อผ้า หล่อนชะงักมือกำลังจะเปิดตู้ สามีของหล่อนออกไปตามประทิว ไม่มีใครอยู่ในบ้านนอกจากหล่อน ใครพูดกับหล่อน น้ำเสียงโกรธหล่อน เน้นหางเสียงอย่างตั้งใจ
“ใครวะ ใคร ออกมาเดี๋ยวนี้”
ไม่มีเสียงของใครตอบออกมา สมใจโมโหเสียงที่ได้ยิน หากเรียกอีกครั้งไม่ออกมาให้เห็นหน้า หล่อนจะตีด้วยไม้กวาด ใครจะกล้ามาล้อเล่นกับหล่อน สามีหล่อนเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน ลูกชายเป็นผู้ใหญ่บ้าน คนทั้งหมู่บ้านนับถือผู้ใหญ่แม้ว่าอายุยังน้อยก็ตาม
“ใคร กูถามว่าใคร มึงจะเล่นกับกูรึไงวะ มึงโดนแน่”