บทที่2 (5)
“ไม่ค่ะ” แม้จะหิวจนท้องแสบ แต่เธอก็สะบัดหน้าหนีไปอีกทางด้วยแรงทิฐิ “ถ้าไม่แก้มัดให้ฉัน ฉันก็ไม่กิน”
ชายหนุ่มหรี่ตามองคนดื้อดึง สักพักก็ยิ้มเย็น “ถ้าเช่นนั้นก็ตามใจ อยากนอนตายก็ไม่ว่า ที่ดินบ้านฉันกว้างขวาง คงหาที่ฝังศพเธอได้ไม่ยากนักหรอก”
“โหดร้าย อาจารย์พูดดีๆกับผู้หญิงไม่เป็นเหรอไง”
“ฉันพูดดีกับผู้หญิงทุกคน ยกเว้นเธอ” พูดจบก็ลุกยืน หยิบหมวกมาถือไว้ ปรายตาไปทางจุไรพรก่อนแนะนำให้เธอฟังว่า “นี่ป้าจุน”
“รู้แล้วค่ะ เธอชื่อจุไรพร”
“เคยเป็นหัวหน้าคนรับใช้ แต่เพราะหัวได้รับความกระทบกระเทือนเลยทำให้ป้ำๆเป๋อๆ ถึงจะพูดจาเล่นคำเหมือนพวกลิเก แต่สติการรับรู้ยังดีเยี่ยมนะ ป้าจุนเป็นคนสนิทของพ่อฉัน”
“พ่อของอาจารย์…?”
“ใช่ แกเป็นคนแก่ที่ขี้โมโห เพราะรถไถลตกข้างทางทำให้ขาหักเป็นพิการ พ่อทำไร่ต่อไม่ได้ ฉันเลยต้องลาออกจากอาชีพครูมารับหน้าที่ทำไร่ต่อ พ่อขี้โมโหและขี้หงุดหงิด มีเพียงป้าจุนเท่านั้นที่พ่อยอมเปิดใจให้ด้วย” ชายหนุ่มร่ายยาวทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงอยากอธิบายให้เธอฟัง
“แล้วผู้หญิงที่เอาข้าวมาให้ฉันล่ะคะ …?”
“นั่นชื่อวารินทร์ รับหน้าที่เป็นหัวหน้าคนรับใช้ต่อจากป้าจุน ถึงจะพูดมากไปหน่อยแต่ก็เป็นคนดี ว่าแต่ไม่คิดจะกินข้าวต่อแน่นะ”
“ไม่ค่ะ” เธอตอบอย่างหมางเมิน “ฉันทรมานจนอยากบีบคออาจารย์”
“เห็นสภาพเธอแล้วก็ชวนให้น่าสงสารซะจริง เอาละ…เห็นแก่ลูกตาดำๆของเธอ ฉันจะให้พรสามข้อ เธออยากได้อะไรจะจัดหามาให้ แต่ยกเว้นขอให้ปล่อยเธอเป็นอิสระนะ มีเพียงข้อนี้ที่ฉันไม่มีวันตามใจเธอ”
“ค่ะ อาจารย์ช่างเป็นคนดีซะเหลือเกิน” เธอว่าแกมประชด “แค่สามข้อจะพออะไร”
“อย่าเรื่องมาก” เขาทำตาดุใส่ “เอาละ…รีบพูดมาซะถึงสิ่งที่เธอต้องการ อ้อ…ขอบอกก่อนนะว่าฉันไม่คิดช่วยโจรฟรีๆ โดยไม่คิดค่าตอบแทน”
“อาจารย์จะเอาอะไร ทั้งเนื้อทั้งตัวฉันมีตังค์ติดตัวแค่ 120 เองนะ” เธอรีบบอกอย่างร้อนตัว เล่นเอาเขาถึงกับหัวเราะหึ
“เงินไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ”
“แล้วอาจารย์จะเอาอะไร” ถามทันควัน และก็ได้รับสายตาเจ้าเล่ห์ส่งกลับมา
“เธอคิดว่าฉันจะอยากได้อะไรจากโจรกระจอกๆ ที่มีเงินพกติดตัวแค่ร้อยกว่าๆ ละ”
“ฉันไม่มีอะไรจะให้อาจารย์”
“เธอยังมีสมบัติอยู่นะ ไม่รู้หรือ ?”
“สมบัติอะไร” มินชยาถามอย่างหวาดระแวง
“ร่างกายของเธอไง”
สิ้นคำตอบจากเขา หญิงสาวก็ฮึดฮัด พยายามดิ้นให้หลุดจากผ้าที่มัดไว้แต่ไม่สำเร็จ “สาบานเลยว่าถ้าหลุดไปได้ ฉันจะข่วนหน้าอาจารย์ให้ยับ”
“งั้นถือเป็นความโชคดีของฉันที่มัดเธอไว้แน่นหนา เอาละ…ตอนนี้น้องไปรยังไม่รู้ชะตาชีวิต ฉันคงไม่มีอารมณ์พิศวาสเธอหรอก” ไม่เพียงพูดเปล่า ดวงตาคู่คมยังหลุบลงมองเรียวปากอิ่มราวจะสื่อถึงความหมายบางอย่าง “ขอแค่จูบเท่านั้นก็พอ…”
มินชยาแก้มแดงระเรื่อเมื่อนึกถึงจูบจากเขา…ผู้ชายอะไรอันตรายจริงๆ แค่โดนเขาจุมพิตอย่างดูดดื่มเมื่อช่วงสาย เธอก็แทบหลอมละลายเหมือนขี้ผึ้งลนไฟ เขาคงเห็นเธอเป็นของเล่นที่น่าสนุก แต่คงไม่รู้หรอกกระมังว่าได้ทำลายความรู้สึกของเธอจนย่อยยับไปมากแค่ไหน
“ตอนนี้ฉันยังไม่อยากได้พรจากอาจารย์หรอกค่ะ”
“ก็ดี” เขาสวมหมวกลงไปที่ศีรษะ ปรายตามองเธอแว่บเดียวก็เมิน “ฉันจะออกไปที่ไร่ วารินทร์จะเป็นคนดูแลเธอ มีอะไรก็บอกเขาละกัน” พูดจบก็เดินจากไป ปล่อยให้หญิงสาวถอนหายใจเฮือกอย่างระอา
เอาอีกแล้ว…เธอต้องเจอกับหัวหน้าคนรับใช้ที่ทำหน้าบูดแถมขี้บ่นอย่างวารินทร์อีกแล้วอย่างนั้นหรือ…!
จุไรพรขยับเดินมาเกาะขอบเตียงมินชยา ดวงตากลมที่กรีดอายไลเนอร์ไว้ไม่เท่ากันจับจ้องมองเธอเขม็ง ก่อนจะหัวเราะ
“ไม่เคยเจอโจรที่สวยขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ เจ้าช่างวาสนาดีนัก หารู้หรือไม่ว่าสตรีทุกคนล้วนแล้วแต่อยากได้รับจุมพิตจากเจ้าชายคนนี้กันทั้งนั้น”
มินชยายิ้มแค่น…มองหลังหญิงเพี้ยนที่เดินไป รำไป จนกระทั่งออกจากห้องกักขังเธอแล้วนั่นละ ถึงค่อยผ่อนลมหายใจออกมาอย่างอึดอึด
ปฏิพัทธไม่ใช่เจ้าชายหรอก ทว่าเป็นมารร้ายที่มีเสน่ห์จนน่ากลัว … !