เมีย (ห้าม) รัก

83.0K · จบแล้ว
อักษรสีทอง
62
บท
21.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

วันที่‘มินชยา’อายุครบ 25 ปี ชีวิตที่แสนเรียบง่ายของหล่อนก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ความบังเอิญชักนำให้หล่อนต้องเข้าไปพัวพันกับคดีลักพาตัวเด็ก และกลายเป็น‘ผู้ต้องสงสัย’โดยไม่รู้ตัว อีกทั้งยังถูกพาตัวไปพบ‘ปฏิพัทธ’ผู้ปกครองเด็กคนนั้นซึ่งเป็นรักแรกของหล่อน…ผู้ชายดิบเถื่อนที่วาจาร้ายกาจ กิริยาจาบจ้วงเถื่อนถ่อย แต่ทว่าเขากลับเป็นเพียงคนเดียวที่ช่วยให้หล่อนพ้นจากอันตรายทั้งปวงที่ถาโถมเข้ามา****“ผมเป็นเจ้าของไร่สตอเบอรี่…” จู่ๆเขาก็โพล่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงขรึมเครียด ดวงตาคู่คมจับจ้องมองหน้าหวานไม่วางตาเมื่อเอ่ยประโยคถัดมาว่า “และก็เป็นผัวของคุณด้วย”“เมื่อไหร่คุณจะปล่อยฉันไปสักที ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้เรื่อง ฉันไม่ได้ทำร้ายน้องไปรยา”“ผู้ร้ายปากแข็งแต่เนื้อตัวนุ่มนิ่มน่ากอดอย่างคุณนี่ ผมควรจะทำยังไงดีนะ” ชายหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อย ขณะที่หล่อนส่ายหน้าหวือ “ไม่นะ…อย่าตบตีฉันเลย ได้โปรด”“คุณเห็นผมเป็นผู้ชายแบบไหนกัน” รอยยิ้มประหลาดจุดขึ้นตรงมุมปากได้รูป นิ้วแข็งแรงเชยคางมนให้แหงนเงยขึ้นสานสบกับดวงตาแข็งกร้าวของเขา“ผู้ชายป่าเถื่อนไง”“ถึงผมจะเถื่อน แต่ผมไม่เคยทำร้ายผู้หญิง เพราะผมถนัด‘ทำรัก’มากกว่า คุณคงรู้ใช่ไหมว่าผู้หญิงสวยๆอย่างคุณจะโดนผมลงโทษยังไง”ถามโดยไม่รอฟังคำตอบ เขาก็รวบคนตัวเล็กเข้ากอดพร้อมจูบไซร้ที่ซอกคอระหง ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากบดจูบที่เรียวปากอิ่มอย่างเร้าร้อน ขณะที่มือก็สาละวนกับการนวดคลึงถันอวบ จัดการถอดเสื้อตัวบางของหล่อนออกแล้วใช้ปลายลิ้นและเล็มชิมความหอมหวานจากยอดปทุมมินชยาเม้มปากแน่น ดวงตาเอ่อคลอด้วยม่านน้ำใส…เมื่อไหร่หนอที่หล่อนจะหลุดพ้นจากตำแหน่งเมียเชลยเสียที

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันประธานพลิกชีวิตรักหวานๆเศรษฐีโรแมนติก

บทนำ

บทนำ

ฉันเชื่อในพรหมลิขิตเสมอ ตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อสาว ฉันเฝ้ามองท้องฟ้า…บนโลกกว้างใบนี้ที่ประกอบไปด้วยผู้คนนับแสนนับล้าน คงจะมีใครคนหนึ่งที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน…และฉันก็เป็นของเขา

แม่เคยเล่าตำนานโรแมนติกให้ฟังว่า ทุกคนล้วนเกิดมาโดยมีด้ายแดงที่มองไม่เห็นเชื่อมโยงจากปลายนิ้วก้อยของเรากับคู่ครอง แม้จะเกิดคนละที่ อยู่ห่างไกลกันเหลือแสน แต่เมื่อถึงเวลา…เราจะต้องได้พบกัน

บุพเพจะทำให้คนแปลกหน้าสองคนได้พานพบ กามเทพจะยิงลูกศรให้หวั่นไหว ทุกอย่างจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม…ฉันชอบฟังเรื่องราวเหล่านี้นะ และอดจินตนาการไปตามประสาวัยรุ่นที่เริ่มสนใจเรื่องความรักไม่ได้ว่า…ใครหนอจะเป็นเนื้อคู่ของฉัน

ครั้งหนึ่งฉันหนุนตักแม่อยู่ตรงสนามหญ้า เราแหงนมองดวงดาวด้วยกัน โดยมีพ่อนั่งเคียงแม่ไม่ยอมห่าง เราสามคนพ่อลูกมักอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าอย่างอบอุ่นหลังอาหารมื้อค่ำ

ฉันเคยถามแม่ว่า… “แม่คะ แม่มักเล่าตำนานโรแมนติกให้มิ้นฟังเสมอ แต่มิ้นสงสัยจังค่ะว่าหญิงอ้วนหน้าตาขี้ริ้วอย่างมิ้น จะมีโอกาสได้พบเนื้อคู่ไหมคะ”

แม่จะยิ้มให้ฉันอย่างปรานีแกมเอ็นดู แม้ว่าฉันจะเป็นลูกสาวที่ไม่ได้ความ แต่ในสายตาพ่อแม่ ฉันไม่ต่างจากนางฟ้าตัวอ้วนๆของพวกท่าน

“มีสิ สักวันเมื่อถึงระยะเวลาอันเหมาะสม ลูกจะได้เจอใครคนนั้นเอง”

“เหมือนที่แม่ได้เจอพ่อใช่ไหมคะ”

แม่หันไปสบตากับพ่อ สื่อความนัยบางอย่างที่ฉันอ่านไม่ออก แต่พอคาดเดาได้ว่า…ดวงตาของท่านทั้งสองยังคงเปี่ยมไปด้วยความรัก แม้เวลาจะผ่านไปนานจนฉันเริ่มแตกเนื้อสาวแล้วก็ตาม

“ใช่สิลูกพ่อ” มือใหญ่แต่ทว่าอบอุ่นเหลือเกินได้วางลงบนศีรษะของฉัน “ไม่น่าเชื่อว่าลูกของพ่อจะเริ่มโตเป็นสาวจนสนใจเรื่องเนื้อคู่”

“แล้วใครกันที่ว่ามิ้นขี้ริ้ว” แม่ลูบแก้มฉันบางเบา ฉันมองรอยยิ้มอ่อนโยนของแม่ราวจะสลักจดจำไออุ่นนี้ไว้ “มิ้นแค่เริ่มย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น มีสิวบ้าง อ้วนบ้างก็ไม่แปลก แต่ในอนาคต มิ้นจะต้องสวยแน่นอน”

“มันจะมีวันนั้นหรือคะ ?”

“ลูกน่ะคิ้วกับตาเหมือนพ่อ ส่วนสีผิวกับจมูกเหมือนแม่ หากเป็นสาวเต็มตัวเมื่อไหร่ ลูกคงเป็นสาวที่สวยที่สุดจนพ่อต้องไว้หนวดถือปืนเพื่อคอยกันท่าหนุ่มๆเป็นแน่”

ฉันจดจำได้ดีทุกบทสนทนานั้น ฉันหัวเราะ เหม่อมองดวงจันทร์ ยิ้มตาพราว…

“จำไว้นะมิ้น พ่อกับแม่ไม่สามารถอยู่กับมิ้นไปชั่วชีวิตได้ และเมื่อถึงเวลาที่มิ้นรักผู้ชายสักคน มิ้นต้องเข้มแข็ง กล้าที่จะบอกความรู้สึกตรงๆ อย่าผิดศีลธรรม และคอยสนับสนุนอยู่เคียงข้างคนที่มิ้นรักนะ” แม่สอนฉันเช่นนั้น และฉันก็รับฟังด้วยยิ้มที่เปิดกว้าง

“ค่ะ เมื่อถึงวันนั้น มิ้นจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนพ่อและแม่ รอดูมิ้นนะคะ”

แต่ฉันไม่คิดเลยว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราสามคนได้อยู่กันพร้อมหน้า เพราะวันต่อมา พ่อและแม่ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตคาที่ทั้งคู่

ฉันจำได้ว่าวินาทีที่รู้ข่าว…ฉันแทบช็อก เสมือนว่าโลกอันงดงามได้ดับวูบไป นับจากนั้นชีวิตฉันเต็มไปด้วยความหม่นหมองและเศร้าสร้อยจนแทบจะลืมเรื่องบุพเพสันนิวาสไปแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่ง…วันที่หัวใจฉันเริ่มฟื้นฟูอีกครั้ง ทันทีที่ได้เห็นหน้าอาจารย์หนุ่มฝ่ายปกครองที่เพิ่งย้ายเข้ามาทำงานโรงเรียนแห่งนี้เป็นครั้งแรก

พอสบตากับเขา…เธอก็บอกตัวเองว่า ใช่เลย นี่ละ…พรหมลิขิต