บท
ตั้งค่า

๒.๑ เมียเก่า

เมียเก่า

ร่างสูงเกือบหกฟุตแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตแบรนด์หรู ยัดชายเข้าไปข้างในกางเกงสแล็กเนื้อดี สวมทับด้วยเสื้อกาวน์สีขาว ก้าวออกมาจากห้องผ่าตัดพร้อมกับหมอและพยาบาลอีกหลายคนหลังจากการผ่าตัดคนไข้เสร็จสิ้นลงในเวลาใกล้เที่ยง เพราะการผ่าตัดเคสนี้เป็นการผ่าตัดใหญ่ จึงต้องใช้ทีมแพทย์และพยาบาลจำนวนหลายคน ซึ่งแม้การผ่าตัดจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ก็เกินเวลาที่วางแผนกันเอาไว้กว่าหนึ่งชั่วโมง

แพทย์พยาบาลแต่ละคนต่างเดินมุ่งหน้ากลับไปยังที่ทำงานประจำของตัวเอง เช่นเดียวกับปราณต์ที่กำลังมุ่งหน้าเดินกลับห้องพักของตนพร้อมด้วยหมอชัชวาลซึ่งเป็นหมออาวุโสวัยห้าสิบเศษ มีประสบการณ์สูงและเป็นหมอที่เก่งมากคนหนึ่ง ปราณต์ให้ความเคารพและสนิทกับหมอชัชวาลมากเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องผ่าตัดและมีเคสร่วมกันบ่อยครั้ง ซึ่งหมอชัชวาลเองก็เอ่ยปากชมอยู่บ่อยๆ ว่าหมอวัยสามสิบเศษอย่างปราณต์นั้นทั้งเก่งและเป็นหมอหนุ่มที่ฝีมือดีมากคนหนึ่งของโรงพยาบาล

หมอต่างวัยสองคนเดินคุยกันมากระทั่งเกือบจะถึงหน้าห้องพักของหมอชัชวาล พยาบาลหน้าห้องก็เดินตรงเข้ามาหาคล้ายกับมีธุระที่ต้องแจ้งให้ทราบ

“อาจารย์คะ ตัวแทนจากบริษัทยาที่อาจารย์นัดไว้มารอในห้องอาจารย์ได้เกือบสองชั่วโมงแล้วค่ะ”

“อ้าว...ตายจริง ผมลืมไปเสียสนิท พอดีเคสเมื่อกี้นี้ก็เกินเวลาด้วย นี่ผมต้องเข้ามหาวิทยาลัยไปประชุมกับอาจารย์ที่นั่นอีก” หมอชัชวาลพึมพำพลางพลิกนาฬิกาข้อมือดูเวลาอย่างเป็นกังวล เพราะนอกจากจะเป็นหมอประจำที่โรงพยาบาลแล้ว หมอชัชวาลยังเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์ที่มหาวิทยาลัยด้วย

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวหนูจะไปบอกให้เธอกลับไปก่อน แล้วค่อยมาพบอาจารย์วันหลังนะคะ” พยาบาลหน้าห้องของหมอชัชวาลพูดขึ้น เมื่อเห็นว่าหมอน่าจะไม่สะดวกที่จะพบตัวแทนจากบริษัทยาในเวลานี้

“ไม่ได้ๆ เกรงใจเขา ให้เขารอตั้งนาน แล้วจะมาบอกให้กลับไป งั้นเอางี้นะผมวานหมอปราณต์ให้ช่วยคุยรายละเอียดแทนหน่อย เป็นเรื่องยาตัวใหม่ของทางโรงพยาบาลนี่ล่ะ หมอปราณต์ตัดสินใจแทนผมได้เลยนะ ผมไว้ใจคุณ” อาจารย์หมอวัยห้าสิบเศษหันไปหาปราณต์และเอ่ยฝากฝังธุระของตัวเอง ปราณต์เป็นหมอที่เก่งและมีคลินิกของตัวเอง เพราะฉะนั้นเรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับคุณภาพและราคาของยา จึงเป็นเรื่องที่ปราณต์ต้องตัดสินใจได้อยู่แล้ว

“ได้ครับอาจารย์”

“โอเคงั้นตามนี้ ผมฝากด้วยนะ” หมอชัชวาลยกมือขึ้นตบไหล่ของหมอหนุ่มเบาๆ ก่อนจะแยกตัวไปอย่างไม่มีความกังวลใดๆ อีก

ปราณต์ขยับไปยังประตูหน้าห้องของหมอชัชวาล ยกมือขึ้นเคาะตามมารยาท เพื่อให้คนข้างในรู้ว่ากำลังจะมีคนเข้าไป

ร่างบางที่นั่งรออยู่ในนั้นคลี่ยิ้มอย่างโล่งอกและสบายใจ หลังจากการรอคอยที่เลยเวลามาเกือบสองชั่วโมงนั้นได้สิ้นสุดลง เธอวางมือถือลงและลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ เตรียมจะยกมือขึ้นไหว้หมอชัชวาลซึ่งเธอเพิ่งจะนัดเจอเป็นครั้งแรก หลังจากที่ติดต่อกันทางโทรศัพท์อยู่หลายครั้ง

“สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ...”

มือเล็กที่กำลังจะยกขึ้นไหว้ต้องชะงักค้าง ปากหยุดการพูดอย่างกะทันหัน ตัวแข็งทื่อ เลือดในกายเหมือนจะหยุดไหลชั่วขณะ เมื่อสายตาปะทะกับคนที่ผลักประตูเข้ามา เธอเฝ้าภาวนามาตลอดทางว่าขออย่าให้เจอกัน แถมปลอบใจตัวเองว่าโรงพยาบาลออกจะใหญ่โต หากโชคชะตาไม่กลั่นแกล้งคงไม่ได้พบเขาง่ายๆ ทว่าดูเหมือนทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เธอพร่ำอธิษฐานและโชคชะตาต่างร่วมมือกันกลั่นแกล้ง เพราะคนที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุด ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว

ไม่ใช่แต่นัสรินที่อยู่ในอาการชะงักค้าง ปราณต์เองก็ชะงักไปครู่หนึ่งเหมือนกัน เพียงแต่เขาควบคุมตัวเองได้ดีกว่าเท่านั้นเอง จึงก้าวเท้าเข้ามายืนตรงหน้าคนที่ตัวเล็กกว่าได้ราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร

ตาคู่คมภายใต้กรอบแว่นราคาแพงจ้องมองผู้หญิงที่เป็นอดีตภรรยาอย่างสำรวจ และออกจะหงุดหงิดใจไม่น้อย เมื่อรู้สึกว่าเธอเปลี่ยนแปลงไปมาก หากจะเทียบกับตอนที่อยู่กับเขา ร่างเล็กที่เคยบอบบางนั้น ตอนนี้สะโอดสะองสมส่วน ดูมีน้ำมีนวลขึ้นจนกลายเป็นผู้หญิงหุ่นดีชวนมอง และดูเหมือนเจ้าตัวจะจงใจอวดหุ่นของตัวเองด้วยการใส่ชุดเดรสรัดรูปสีส้ม แม้จะมีเสื้อสูทเข้ารูปสีดำสวมทับอีกที แต่มันก็ไม่ได้ช่วยปกปิดส่วนเว้าส่วนโค้งที่เขาเคยลูบไล้ด้วยมือมาแล้วเท่าใดนัก หน้าตาที่เคยไร้เครื่องสำอางเติมแต่งบัดนี้ถูกตบแต่งอย่างประณีต แพขนตาที่งอนยาวเป็นธรรมชาติถูกดัดให้งอนขึ้นกว่าเดิม และปัดด้วยมาสคาราสีน้ำทะเลเข้ม เปลือกตาอ่อนบางเคลือบด้วยอายแชโดว์สีส้มอ่อนๆ เช่นเดียวกับพวงแก้ม ริมฝีปากอิ่มเอิบอยู่ภายใต้ลิปสติกเนื้อเนียนสีเข้ากับสีเปลือกตาและสีแก้ม ผมที่เคยดำขลับยาวสลวยเหยียดตรง เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนและถูกดัดให้เป็นลอนใหญ่ตรงช่วงปลาย

นายแพทย์หนุ่มยอมรับว่าอดีตภรรยาของตนดูสวยขึ้นจนเขายืนตะลึงงันไปชั่วขณะ แต่ให้ตายเถอะ! เขากลับไม่ชอบลุคนี้ของเธอเอาเสียเลย ผัวก็เคยมีมาแล้ว จำเป็นจะต้องทำตัวให้สวยให้เปรี้ยวขึ้นแบบผิดหูผิดตาขนาดนี้มั้ย หรือที่ต้องแต่งให้สวยขนาดนี้ก็เพื่อจะได้หาผัวใหม่ได้เร็วๆ หรือว่าตอนนี้มีไปแล้วก็ไม่รู้ หย่าจากเขามาเป็นปีแล้วนี่

ปราณต์หงุดหงิดตัวเองที่ความคิดนั้นทำให้เขาเกิดอาการร้อนรุ่มในใจแปลกๆ

‘เป็นบ้าอะไรวะปราณต์หยุดคิดเดี๋ยวนี้ นัสรินก็แค่ผู้หญิงมากเล่ห์ที่เคยร่วมมือกับปรัชญ์ล่อลวงเขาให้แต่งงานด้วยเท่านั้น ความรู้สึกเดียวที่เขามีให้เธอ นั่นก็คือรังเกียจการกระทำ ความรู้สึกอย่างอื่นมันไม่เคยเกิดขึ้น และจะไม่มีวันเกิดขึ้นแน่ๆ’

“สวัสดีค่ะหมอปราณต์” นัสรินเอ่ยทักทายเสียงติดจะสั่นๆ แม้จะเริ่มตั้งสติได้บ้างแล้วก็ตาม ทำไมเธอจะต้องตื่นเต้นในเมื่อเขาออกจะมองมาอย่างเย็นชาและดูเหมือนจะหงุดหงิดมากด้วยซ้ำที่เห็นเธอปรากฏตัวที่นี่ แต่เธอไม่ได้ตั้งใจมาพบเขา คนที่อยากพบมากที่สุดตอนนี้ก็คือหมอชัชวาลต่างหาก

“ผมอนุญาตให้เรียกผมว่าหมอปราณต์ได้ เฉพาะคนไข้ของผมเท่านั้น ส่วนคนที่ไม่ใช่คนไข้ ผมไม่อนุญาตให้เรียก” ปราณต์พูดเสียงแข็งกระด้าง

“ขอโทษค่ะ...คุณปราณต์” นัสรินจำต้องกล่าวขอโทษ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก้อนแข็งๆ แล่นขึ้นมาจุกในคอจนแทบจะกลืนน้ำลายไม่ลง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ปราณต์ก็ยังใจร้ายกับเธอไม่เคยเปลี่ยน คำว่า ‘หมอปราณต์’ ที่เธอเรียกเขานั้นออกจะเป็นคำพูดที่ให้เกียรติด้วยซ้ำ คนที่บ้านของเขาบางคนก็เรียกเขาแบบนี้ แต่คงจำเพาะแต่เป็นเธอกระมังที่ไม่ว่าพูดหรือทำอะไร ก็ดูผิดและไม่ถูกใจเขาไปเสียหมด

“มาทำอะไรที่นี่” ปราณต์ถามต่อเสียงห้วนๆ แม้จะพอเดาออก ว่าตัวแทนจากบริษัทยาที่นัดกับหมอชัชวาลเอาไว้ ก็คือนัสรินเมียเก่าของเขานั่นเอง

“นัสมาพบอาจารย์หมอชัชวาล เพื่อคุยเกี่ยวกับยาตัวใหม่ที่จะเสนอขายให้โรงพยาบาลค่ะ” นัสรินบอกออกไปด้วยเสียงที่ยังสั่นอยู่เช่นเดิม เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองเลยสักนิด แม้ว่าจะผ่านชีวิตมาจนตอนนี้อยู่ในฐานะแม่หม้ายแล้วมันก็ไม่ได้ทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นแต่อย่างใด โดยเฉพาะยามที่ต้องมาเผชิญหน้ากับคนที่มีอิทธิพลกับหัวใจตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งตัวเช่นนี้

“แต่แต่งตัวเหมือนจะมาขายอย่างอื่นด้วยนะ”

“นัสมาขายยาค่ะ ไม่ได้มาขายตัว” นัสรินเผลอตอบโต้เมื่อรู้ดีว่าความหมายของปราณต์คืออะไร

“ก็ลองเสนอขายทั้งตัวขายทั้งยาสิ เผื่อว่าจะขายดีกว่าเดิม”

“คุณปราณต์! นัสขอร้องละนะคะเลิกพูดจาดูถูกนัสเสียที หากคุณไม่พอใจที่เจอนัส นัสก็ขอโทษด้วย แต่นัสเองก็ไม่ได้อยากจะเจอคุณ นัสมาพบอาจารย์หมอชัชวาลค่ะ” หญิงสาวเน้นย้ำวัตถุประสงค์ของตัวเองอย่างชัดเจน แต่นั่นยิ่งไม่ถูกใจคนฟังมากกว่าเดิม โดยเฉพาะที่เธอบอกว่า เธอเองก็ไม่ได้อยากพบเขา

“อาจารย์หมอไม่ว่าง ให้ผมมาคุยแทน”

“ถ้าคุณปราณต์ไม่สะดวกจะคุยกับนัสก็ไม่เป็นไร นัสจะรออาจารย์หมอว่าง แล้วค่อยมาคุยใหม่กับท่านเองค่ะ” นัสรินเสนอทางออก แล้วขยับไปหยิบเอาโทรศัพท์และกระเป๋าสะพายของตัวเองเพื่อจะกลับไปตั้งหลักใหม่

“อาจารย์ให้ผมมาคุยและตัดสินใจแทนแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าคุณ ‘อยากขาย’ ก็ต้องทำให้ผมพอใจ”

นัสรินหน้าแดงกับบางคำพูดที่เขาจงใจเน้นเพื่อเย้ยหยันเธอในเรื่องเก่าๆ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมปราณต์ถึงได้จงเกลียดจงชังเธอนัก ทั้งๆ ที่ในช่วงที่เข้าพิธีแต่งงานกันตอนเช้า เขาก็ยังไม่ได้มีท่าทีว่าจะโกรธเคืองหรือไม่พอใจใดๆ ออกจะมองเธอเหมือนเห็นใจด้วยซ้ำ แต่เขาคงคิดได้ทีหลังว่าเธอไม่มีศักดิ์ศรีเอาเสียเลยกระมัง ที่ยอมตกลงแต่งงานกับลูกชายเจ้าหนี้ถึงสองคน พอพลาดจากคนน้องก็แต่งกับคนพี่แบบแทบจะไม่คิดอะไร

“แล้วนัสต้องทำยังไงล่ะคะคุณถึงจะพอใจ”

“ผมหิวแล้ว”

คำตอบของเขาทำให้นัสรินถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะดูว่าปราณต์จะรวนเธอไปเสียทุกทาง หญิงสาวพยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นๆ อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวกับเรื่องงาน เธอเดินทางมาไกลจากกรุงเทพฯ อยากปิดจ็อบให้ได้ในวันนี้วันเดียว เพื่อจะได้ไม่ต้องเดินทางมาที่เชียงใหม่และเจอปราณต์อีก

“งั้นนัสจะรออยู่ที่นี่นะคะ คุณปราณต์ทานข้าวเสร็จ ค่อยกลับมาคุยก็ได้ค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel