บทที่2.ก็เลือกที่จะเดินไป...จะสนทำไมกับทางที่ผ่านมา 3/5
“กาแฟค่ะ” หญิงสาวทรุดนั่งฝั่งตรงข้าม วันนี้เธอจะไม่หนี...แม้จะพ่ายแพ้ยับเยิน
“3ปีแล้วสินะ ที่ไม่ได้เจอกัน” ชายหนุ่มเอ่ยประโยคแรก เป็นคำทักทายของคนที่ไม่ได้เจอกันมาถึง3ปี
“ค่ะ คุณน้าเป็นอย่างไรบ้างคะ?” เธอถามถึงมาดามนับทอง ผู้ใหญ่ที่เธอนับถือประหนึ่งมารดา
“เธอใส่ใจแม่ฉันด้วยเหรอ? แปลกมาก!!...เพราะหากเธอห่วงใยท่านจริง... เธอควรแวะกลับไปให้ท่านเห็นหน้าบ้าง ไม่ใช่หลบมาไกลถึงที่นี่”
ชายหนุ่มพูดกระทบ เป็นเพราะหล่อน3ปีมานี่เขาถึงถูกมารดาพูดกรอกหูทุกวัน ท่านแข็งแรงดี ไม่มีทางแรงตก เพราะท่านอยากเห็นวันที่มรินญากับมาอยู่ในฐานะเดิม มาทวงการเป็นภรรยาเขานี่ล่ะ
“หนูขอโทษค่ะ ตอนนั้นหนูคิดอะไรไม่ออกจริงๆ” หญิงสาวก้มหน้าลง เธอเสียใจทุกครั้งหากย้อนนึกถึงอดีต แต่ให้เธอทนอยู่ในสภาพเช่นนั้น มันก็เท่ากับเป็นการทำร้ายตัวเองเหมือนกัน
“คาร่า...ใครพาเธอหนีมา?” เป็นข้อเดียวที่เขาอยากรู้ ถึงจะพอทราบเลาๆ แต่เขาอยากได้ยินคำยืนยันจากปากหล่อนมากกว่า
“เอ่อ...” หญิงสาวช้อนสายตามองโลแกน แววตาของหล่อนตื่นตกใจ แต่ก็ไม่ปริปากพูดเช่นเดิม เมื่อบุคคลผู้นั้นเป็นผู้มีพระคุณ เขาพาเธอออกมาจากวังวนของความเศร้าหมอง
“ไม่ต้องตอบก็ได้...ฉันพอรู้ แค่อยากแน่ใจ ฉันจะได้เอาคืนมันถนัดมือหน่อย!!”
ชายหนุ่มกระแทกเสียงตอบ เขาแสยะยิ้ม ปรายตามองแก้วกาแฟควันกรุ่นแต่ไม่คิดจะแตะ
“ฉันมาเพราะมีเรื่องอยากตกลงกับเธอ...สำคัญมาก!! และคิดว่าเธอคงต้องการเช่นกัน”
เวลาของเขามีจำกัด เขาไม่อยากให้เรื่องราวระหว่างตัวเองกับหล่อนเยิ่นเย่ออีกนาน เขาอยากเริ่มต้นใหม่ และเป็นของขวัญให้กับสาวคนรัก หล่อนคงดีใจไม่ใช่น้อยหากได้เปิดเผยตัวเองสักที หลังจากต้องหลบซ่อนมานาน เพราะเขาไม่ใช่คนตัวเปล่า
ทั้งๆ ที่ทำใจมาตลอดว่าวันนี้คงมาถึงเข้าสักวัน แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากันจริงๆ มรินญากลับรู้สึกโหวงๆ ในอก จากนี้ไปคำต่อท้ายของเธอคงไม่ใช่ ‘โคล์’ เธอแน่ใจ...ว่าโลแกนมาเพราะจุดประสงค์นี้ชัวร์
แต่ก่อนที่โลแกนจะเปิดปากพูด เขากลับถูกขัดจังหวะเสียก่อน
“พี่คาร่าคร๊าฟ...ขอเค้กช็อคหน้านิ่มกับสตอเบอรี่ชีสเค้กอย่างละชิ้นคร๊าฟ วันนี้ป๊าเลี้ยงผมกับแอนนาที่ได้ดาวห้าดวง”
เด็กชายวัย6ปีกับเด็กผู้หญิงอายุเท่ากันวิ่งตึงตังเข้ามาหา มือเล็กๆ เกาะขอบเก้าอี้ พวกเขาเงยหน้าขึ้นพูดกับมรินญาพร้อมกับฉีกยิ้มจนตาหยี ดวงตาพริบพราวสดใส
“ได้ค่ะ ไปนั่งโต๊ะรอได้เลย เดี๋ยวพี่คาร่าให้พี่เอม เขาเอามาเสิร์ฟให้ค่ะ”
หญิงสาวหันไปตอบ “ขอตัวสักครู่ค่ะ” หญิงสาวถอนใจยาวๆ เดินไปสั่งลูกน้อง และยกไปเสิร์ฟเด็กชายและเด็กหญิงด้วยตัวเองปล่อยให้โลแกนนั่งหน้าตึงเพราะธุระของเขาถูกขัดจังหวะ จากบุคคลที่สาม
มันคงไม่ได้ทำให้หนวดโลแกนกระตุกได้เท่ากับผู้ชายคนหนึ่ง... อายุอานามคงพอๆ กับเขาที่เดินตามเข้ามาทีหลัง ไอ้หมอนั่นส่งยิ้มให้มรินญาแบบหวานหยด!! และหล่อนดันยิ้มหวานฉ่ำตอบกลับเสียด้วย ทีกับเขาใบหน้าเล็กๆ ของหล่อนกลับเรียบกริบ (อิจนิดๆ)
“คาร่า...เหนื่อยไหมคะ?” แหมคำถามของมัน!! ถามเหมือนสนิทสนมกันเป็นอย่างดี ดูตามันก็รู้ ไอ้หมอนั่นหวังทาบ มรินญาแหงๆ โลแกนคิดเคืองๆ
“ไม่ค่ะ แขกซาๆ ไม่ยุ่งเหมือนทุกวันค่ะ แต่เอ...ทำไมวันนี้มากันแต่วันเลย โรงเรียนยังไม่เลิกนี่คะ?” หญิงสาวถามกลับ แต่โลแกนขมวดคิ้ว คำพูดหล่อนสื่อเป็นนัยๆ ว่าสามคนพ่อลูกนี่มาเป็นประจำทุกๆ วัน
“วันเกิดทีกับแอนนา สงสัยคาร่าคงลืม” ชายหนุ่มพ่อลูกติดเปรยยิ้มๆ
มรินญายกมือทาบอก เธอลืมวันเกิดของลูกค้าขาประจำได้ยังไง!!
“พี่คาร่าขอโทษค่ะ เอาเป็นว่า ขนม2 ชิ้นนี่พี่คาร่าเลี้ยงเอง แถมด้วยสมูทตี้ปั่นคนละแก้ว โอเคไหมคะ?”
หญิงสาวหันไปขอโทษขอโพยเด็กน้อย เธอทรุดนั่งข้างๆ เก้าอี้ ทำตาปริบๆ จนเด็กหญิง-ชายอมยิ้มชอบใจ
“ป๊าบอกว่าถ้าเชิญพี่คาร่าไปร่วมงานวันเกิดของพวกเราได้ ป๊าจะซื้อเครื่องบินบังคับให้ผมเป็นของขวัญ พี่คาร่าไปงานวันเกิดของผมนะครับ”