บทที่2.ก็เลือกที่จะเดินไป...จะสนทำไมกับทางที่ผ่านมา 1/5
3ปีผ่านไป...
เวลาเดินเร็วเหมือนลมพัด ชั่วเวลาไม่นาน มรินญาก็เดินผ่านเวลาแสนนานนั่นมาเกือบ3 ปี หญิงสาวปิดหูปิดตาตัวเอง เธอไม่เสพสื่อ พยายามไม่หลงลงไปเวียนว่ายในอินเตอร์เนต เพราะไม่อยากให้ความเจ็บช้ำ ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองอีก เพราะต่อให้ ‘เขา’ อยู่เฉยๆ เขาก็ยังมีพลังอำนาจทำให้เธอน้ำตาร่วงได้เป็นอย่างดี
‘นาง’ คำนำหน้าชื่อของมรินญาเป็นคำว่า...นาง...หาใช่นางสาว เมื่อเธอเคยแต่งงานมาก่อน หญิงสาวไม่เคยป่าวร้อง แม้จะมีหนุ่มแวะเวียนมาถาม ตลอดช่วงเวลา3 ปี หญิงสาวเลือกที่จะนิ่ง เธอไม่ปริปากพูด นานๆ เข้าพวกเขาก็คร้านที่จะถาม แต่ไม่มีใครถอยทัพ เมื่อบุคคลที่เป็นสามีของหญิงสาว ไม่ปรากฏตัวขึ้นสักที
กรุ้งกริ้ง!!
เสียงกระพรวนที่มรินญาห้อยไว้เหนือประตูทางเข้าสั่นกราว หญิงสาวเงยหน้าขึ้นจากการมองเครื่องบดเมล็ดกาแฟ พรางส่งยิ้มให้กับลูกค้าคนใหม่ แต่รอยยิ้มนั้นกลับต้องค้างไว้บนเรียวปากอิ่ม พร้อมกับเธอที่ค่อยๆ เดินถอยหลังช้าๆเพราะคนที่เดินผ่านประตูร้านกาแฟของเธอเข้ามา เป็นคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี... แต่หาได้อยากพบเจอกับเขาไม่
‘โลแกน โคล์’
เจ้าของนามสกุลที่เธอใช้มากว่า3ปี!!
ชายหนุ่มกราดตามองรอบร้านกาแฟเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมถนนเขายิ้มเย็นๆ ส่งให้ทุกคนรอบตัว โดยเฉพาะคนที่เขาเจตนามาหา แม้จะอึ้งไปสักนิด เมื่อหล่อนไม่ใช่แบบที่เขาคิดไว้ โลแกนแอบทึ่ง!! หล่อนเลือกทำเลเหมาะในการค้าขายชลบุรีเป็นเมืองที่มีคนต่างชาติแวะเวียนมาเยอะที่สุด!! เนื่องจากมีทะเลสวย มีแหล่งท่องเที่ยวหลายที่ แถมยังไม่แออัดเหมือนในเมืองกรุง ธรรมชาติยังคงความสวยงาม แม้จะถูกทำลายไปไม่น้อย
โลแกนกระตุกยิ้มซ้ำ เขาทอดสายตามองผู้หญิงคนนั้น พรางใคร่ครวญเค้าหน้าหล่อนในใจ...ในความทรงจำของชายหนุ่ม มรินญาคือผู้หญิงแสนเฉิ่มเชย หล่อนมักจะสวมกระโปรงยาวกรอมเท้าสีหม่นๆ กับเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งและผมเปียสองข้างบนศีรษะ แว่นตากรอบโตหนาเตอะปิดใบหน้ากว่าครึ่ง และเมื่อได้พบหล่อนอีกครั้งในวันนี้ หลังเวลาผ่านไป 3ปี หล่อนแทบจะไม่เหลือเค้าเดิม...แม่มโคตรเหลือเชื่อ!!
ผู้หญิงสาวตรงหน้าเขา หล่อนสวยหวานขึ้น ใบหน้าเนียนใส หล่อนสลัดแว่นตาหนาเทอะทะนั่นทิ้งไปแล้ว ผมเส้นเล็กสีน้ำตาลอ่อนคลอเคลียไหล่ ดูเหมือนจะถูกดัดเป็นลอนเล็กๆ ทำให้ใบหน้าหล่อนดูอ่อนหวานมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ดวงตากลมโตใต้แพขนตางามงอน ไม่มีแว่นตาหนาเตอะที่เขาเคยแอบค่อนในใจ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อจนทำให้เขานึกถึงกลีบดอกไม้ชนิดหนึ่ง ‘ซากุระ’ โลแกนอยากรู้...รสสัมผัสของหล่อนจะหอมหวานดั่งเช่นกลีบละมุนของดอกไม้นั่นหรือไม่ สายตาแหลมคมของเขาไล่เรียงลงมาเรื่อยๆ พยายามทำตัวเนียนๆ ไม่กระโตกกระตากให้หล่อนรู้ เขาใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีก็สามารถจดจำรูปลักษณ์แบบใหม่ของหล่อนได้จนขึ้นใจ หล่อนถอดรูปจากคุณป้ายุค60 กลายมาเป็นสาววัยใสได้อย่างไม่มีที่ติ
เวลานี้โลแกนชักอยากจะเปลี่ยนใจ...
หากต้อง ‘หย่า’ กับหล่อนจริงๆ ขอเขา ‘ชิม’ หล่อนให้สมอยากก่อนคงพอไหว
เขาคุมเกมได้ และแน่ใจว่าไม่ยาก...กว่าที่สาวคนรักจะรู้ตัว เขาก็คงทิ้งมรินญาไปแล้ว
“สวัสดี คาร่า!!” เขาทัก หล่อนตระหนกจนเผลอทำแก้วกาแฟในมือหลุดมือ หล่นกระจายบนพื้น
เพล้ง!!
“ว้าย!!” เธอร้องเสียงหลง รนรานทรุดตัวลงเก็บเศษแก้วที่เกลื่อนกระจายเต็มพื้น จนเผลอหยิบแรงๆ เศษแก้วจึงกดลึกเข้าไปในผิว จนทำให้เลือดไหลซึมออกมา
“คุณคะ ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเอมเก็บเองค่ะ”
พนักงานในร้านสะกิดเจ้านาย เพราะหนุ่มสุดหล่อตรงหน้า ไม่ยอมขยับไปทางไหน เขาทำเหมือนรู้จักกับนายจ้างสาวเป็นอย่างดี
“ขอบใจจ้ะ พี่ขอตัวนะเอม ปวดหัวมาก” ทางเดียวที่มรินญาคิดออก เธอต้องหนีไปตั้งหลักก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง...
“เดี๋ยวสิคาร่า... เธอคิดจะหนีอีกหรือไงหะ ไม่ปัญญาอ่อนไปหน่อยเหรอ?”
โลแกนท้วง เขาเดินไปเกาะขอบเค้าน์เตอร์ชะโงกหน้าไปพูดใกล้ๆ หล่อน