บทที่1.วันวิวาห์แสนร้าวราน 5/5
“ไม่คิดว่าจะบังเอิญได้เจอเจ้าบ่าวหมาดๆ มานั่งก๋งเหล่าอยู่ที่นี่คนเดียว แทนที่จะนอนอุ่นอยู่ในรังรักเมื่อมีเมียให้กกอย่างสบายอารมณ์” เสียงทักทายแบบคนยอมเสียมารยาท เมื่อโลแกนลงทุนเปิดห้อง VIP เขาต้องการความเป็นส่วนตัว เวลานี้ชายหนุ่มกำลังอารมณ์เสียสุดขีด
สายตาคมกริบเหลือบมองคนพูด จะเป็นใครล่ะที่กล้าแหย่หนวดเสือ ไม่มีใครกล้าโผล่หน้าเข้ามาหาเขา ถ้าไม่ใช่ เอแวน!!
“คุณอ่านหนังสือไม่ออกเหรอเอแวน หน้าประตูนั่น ไม่ได้ติดคำว่า private ไว้หรอกเหรอ?”
เป็นการไล่แบบอ้อมๆ เพราะตอนนี้โลแกนไม่อยากสร้างเรื่องฉาวให้ตัวเองอีก แค่เรื่อง ‘เจ้าสาวหนี’ เรื่องเดียวเขาก็ปวดกะบาลแทบแยก หากมีเรื่องชกต่อยกับหุ้นส่วนด้วยละก็ เขาไม่อยากคิดเลยว่าราคาหุ้นของโคล์อินดัสตรี้จะดิ่งลงเหวได้ขนาดไหน
หนุ่มหล่อน้องๆ แบรดพิตต์ตอบกลับทันควัน “ก็เห็นอะนะ แต่ผมมันคนชอบเสือก...คุณก็รู้”
มุมปากสีเข้มกระดกยิ้มหยัน เขาลืมไปได้ยังไงว่าเอแวนมันเป็นหมาบ้า มันกัดเขาไม่ปล่อยมาหลายปี ไม่รู้ว่าไปเผลอเหยียบตาปลามันเข้าตอนไหน “นั่นสินะ ผมก็ลืมไป สรุปเรื่องที่คาร่าหายตัวไป ฝีมือคุณงั้นสิ”
เอแวนนิ่งเขาไม่ตอบ เท่ากับมันยอมรับกลายๆ
“ผมไม่รู้นะว่าคุณทำเพราะต้องการอะไร” โลแกนหยุดพูด เขาฉวยแก้วบรั่นดีขึ้นกระดกอึกๆ “แต่ก็ต้องขอบคุณคุณนะเอแวน คุณช่วยทำให้ผมไม่ต้องติดคุก” แก้วเปล่าในมือ โลแกนยกชู เหมือนกำลังแสดงความยินดีกับอิสรภาพที่มีใครบางคนหยิบยื่นให้ “ข้อตกลงระหว่างผมกับแม่...จะไม่เปลี่ยน แม้ว่า ‘หล่อน’ จะไม่อยู่ เมื่อผมไม่ได้เป็นคนผิดข้อตกลง ทีนี้คุณรู้แล้วหรือยัง คุณไม่มีวันจะเขามากร่างในโคล์อินดัสตรี้ได้ ต่อให้คุณทุ่มหมดตัวก็เถอะ”
ไหนๆ ก็ได้โอกาสกระแทกสักที โลแกนเลยจัดหนัก กระแทกเสียจนเอแวนหน้าหัน ให้มันรู้เสียบ้างว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร เขาไม่ใช่ไก่อ่อนที่จะถูกมือใหม่เข้ามาลูบคม
หนุ่มหล่อพอฟัดพอเหวี่ยงกับแบรดพิตต์ ยิ้มย่อง “มันก็ไม่แน่...ตอนนี้คุณลำพองกับอิสระที่คุณเพิ่งได้รับ ในอนาคต คุณอาจจะอยากจับตัวเองยัดกลับเข้าไปในกรงทองเองก็ได้”
เอแวนได้พบเจอกับมรินญาแล้ว หล่อนมีเสน่ห์ไม่น้อยและหากมองกันดีๆ อีกหลายๆ ปีให้หลัง หล่อนจะต้องเพอร์เฟคกว่านี้ เขาไม่รู้ว่าโลแกนใช้อะไรมอง ถึงได้ไม่เห็นว่ามรินญางามพร้อมขนาดไหน...มาดามนับทองตาแหลม ท่านวางแผนอนาคตให้บุตรชาย ด้วยการหาคนที่ไว้ใจได้ให้มายืนขนาบข้าง แต่ความหวังดีของท่านถูกปัดทิ้ง เขาอยากสมน้ำหน้าโลแกน แต่รอเวลาอีกหน่อยก็ได้ เพราะหัวเราะตอนนี้ หรือในอนาคต เขาก็ย่อมหัวเราะได้เสียงดังกว่าแหงๆ
เอแวนถอยหลังกลับ แววตาของเขาจัดจ้า เขาอยากเห็นวันที่ไอ้เพื่อนแสนทะนงสัมผัสคำว่า ‘พ่าย’ เขาอยากเห็นโลแกนแพ้หมดรูป หากโลแกนได้สัมผัสคำว่า ‘ความรัก’
“ไม่มีวันนั้นแน่ เอแวน”
หนุ่มสุดทะนง รำพันเสียงแผ่วๆ เขาจมดิ่งในหุบเหวของความลำพอง ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าตัวเองป้ายรอยร้าวไว้ในหัวใจใครบ้าง เมื่อความเย็นชาถูกฉาบหน้า แถมด้วยความเห็นแก่ตัวของเพศชาย เขาสนุกกับการโปรยเงินตราลวงล่อเหล่าผีเสื้อแสนสวย ฉีกกระชากทำลายปีกอันบางเบานั่น และเดินเหยียบย่ำด้วยฝีเท้าหนักๆ ผ่านไป หลังหมดค่าความสวยงามนั่นแล้ว!! วันนี้โลแกนยังฮึกเหิมอยู่ได้ เพราะยังไม่มีสตรีนางใด สามารถทำลายปราการที่ชายหนุ่มสร้างไว้ป้องกันหัวใจตัวเองได้ แต่ในอนาคตล่ะ? คงมีสักคนล่ะที่สามารถเดินฝ่ากำแพงแข็งแรงอันนั้นเข้าไปได้...เพราะพระผู้เป็นเจ้าคงไม่กำหนดไว้ให้คนๆ หนึ่งลิ้มรสกับคำว่าชัยชนะฝ่ายเดียว...
หลังจากวันนั้นโลแกนก็ทำอย่างที่ตัวเองพูด เขาไม่เคยติดตามสืบหามรินญา ปล่อยให้หล่อนหายเงียบเข้ากลีบเมฆ เปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่น และทุกๆ คนก็ลืม...ลืมว่าโลแกนมีภรรยาตัวเป็นๆ แล้วในชีวิต