บทที่1.สาวน้อยสุดอาภัพ..
“โรคคนแก่ล่ะซิ...”
“พ่ออย่าชวนนิดาคุยนอกเรื่องสิคะ ไหนบอกว่ามีข่าวดีมาบอกนิดาไง!!” บุตรสาวคนเล็กของผู้ใหญ่เที่ยงท้วงเสียงใส
นิรดาเหลียวมามองเพื่อน พร้อมกับเลิกหัวคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถาม
“เรื่องนั้นแหละ...หากนิดากลับมา เราจะได้ไปเรียนด้วยกัน” เพชรชมพูยิ้มแป้น หากนิรดาผ่านสัมภาษณ์ ได้ไปทำงานที่บิดาเธอแนะนำ เรื่องการเรียนต่อของนิรดาก็ไม่น่ามีปัญหา
หญิงสาวมีโอกาสจะได้เป็นนักเรียนโคต้า ผลการเรียนของเธอดีและอยู่ในเกณฑ์คนจนขาดทุนทรัพย์ มีทุนสนับสนุนให้นิรดาเลือก แต่เพราะเธอขัดสนเรื่องค่าใช้จ่ายเลยยังแบ่งรับแบ่งสู้อยู่ หากจะไปเรียนต่อ ก็สงสารยายสร้อย ยายจะอยู่อย่างไรคนเดียว หมู่นี้ยิ่งไม่ค่อยแข็งแรง...และหากเธอเลือกที่จะเรียน ยายคงทำงานหนักเพิ่มขึ้นอีก เพื่อให้เธอมีเวลาเรียน ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย
“ใช่เลยหนูนิดา ทางอำเภอเขามีงานน่าสนใจ รายละเอียดลุงจะอธิบายให้ฟังอีกที” ผู้ใหญ่เที่ยงเอ่ยเสียงทุ้ม เวทนาเด็กสาวตรงหน้า เมื่อบุตรสาวร้องขอให้หาทางช่วย ผู้ใหญ่เที่ยงเลยหาทางให้ และน่าจะดีกับนิรดาด้วย
โครงการของกระทรวงแรงงาน หาคนงานไปทำงานที่เบลเยียม เป็นคนงานเก็บผลไม้ รายได้ต่อเดือน70,000-80,000 บาท ช่วงปิดเทอมของนิรดาก่อนเริ่มต้นใหม่ในฐานะนักศึกษา นิรดามีเวลามากกว่าสี่เดือน เงินเก็บสักสองแสน คงพอดีสำหรับคนอดออมอย่างเพื่อนของเธอ เพชรชมพูเลยรีบนำมาเสนอให้เพื่อนรับรู้
สาวอาภัพห่อปากทำตาโต หลังได้ยินรายละเอียดทั้งหมด หัวใจเธอเต้นตึกตัก ความหวังเรืองรองขึ้นมาทันที
“เราไม่มีสตางค์ค่าเดินทางหรอกนะเพชร” หญิงสาวกล่าวเสียงอ่อย เมื่อคิดถึงค่าใช้จ่าย
“นิดา...ถ้าไม่มีทางทำได้ เราไม่มาบอกเธอหรอกนะ...ไปกับกระทรวงแรงงาน เราจะให้พ่อเซ็นรับประกันให้นิดาเอง พอทำงานได้ค่อยหักจากค่าแรงที่ได้รับ...เธอไปสัก4เดือน ก็มีเงินเก็บสำหรับเรียนต่อได้แล้วล่ะ”
เพชรชมพูรีบชี้แจงรายละเอียด ปัญหาหมดไปหนึ่งเปลาะ แต่นิรดาก็ยังกังวลอยู่ดี
“เราเป็นห่วงยายอะเพชร!!” หญิงสาวหน้าม่อยลง เมื่อคิดถึงยายสร้อยที่พักนี้จะเจ็บป่วยบ่อยขึ้น
“เราอยู่ทั้งคนนะนิดา...เราจะช่วยดูแลยายแทนเธอเอง” เพราะรักและหวังดีกับเพื่อน เพชรชมพูจึงรีบเสนอตัว
“เราเกรงใจเธอหน่ะ” นิรดากล่าวเสียงอ่อย
“ไม่ต้องเกรงใจ เราจะเก็บค่าจ้างจากเธอ เธอจะได้ใช้เราเต็มที่ไง” สาวรุ่นหาทางออกให้กับเพื่อนได้ตลอด
“เราคงต้องไปถามยายก่อนนะเพชร” เมื่อปัญหาหลายทางถูกขจัดออกไป นิรดาเริ่มมีความหวังอีกครั้ง
“อืม...มันไม่ได้ไปกันง่ายๆ หรอกนิดา แต่เราคิดว่าเธอมีสิทธิ์ เพราะว่าเธอหน่ะ พูดภาษาฝรั่งเศสได้”
ข้อได้เปรียบสำหรับนิรดาคือเธอมีพื้นฐานเรื่องภาษาอยู่แล้ว หญิงสาวเป็นตัวเต็งของห้อง เมื่อนิรดาเชี่ยวชาญภาษาฝรั่งเศสเป็นพิเศษ มันเป็นความสามารถพิเศษของเธอ หญิงสาวเรียนรู้ด้วยตัวเอง และหลงรักภาษาต่างชาติ จนทำให้เธอพยายามขวนขวาย วันนี้เองที่ความพยายามนั้น ทำให้โอกาสดีๆ เปิดทางให้สำหรับเธอ
ในขณะที่คนอื่นๆ จะต้องเรียนภาษาก่อนเดินทางไป
นิรดาจะมีโอกาสได้เดินทางก่อน เมื่อเธอสามารถตัดขั้นตอนนั้นออกไปได้ หญิงสาวจะมีเวลาทำงานนานกว่าทุกคน จนกว่าจะหมดฤดูเก็บผลไม้...สำหรับนิรดาแล้ว สี่เดือนก็เหลือเฟือสำหรับเธอ เงินก้อนนั้น เธอสามารถเปลี่ยนหลังคาใหม่ พายายไปหาหมอเช็คสุขภาพ และเก็บไว้สำหรับตัวเองใช้เรียนต่อจนจบ...
หลังเลิกเรียน เพชรชมพูบังคับให้นิรดากลับพร้อมกัน เพื่อไปฟังรายละเอียดที่ผู้ใหญ่เที่ยงอุตส่าห์ไปขอที่อำเภอมาอีกครั้ง และหากไม่ติดว่ารับปากนิรดาไว้ว่าจะคอยดูแลยายสร้อย เพชรชมพูเองก็อยากจะไปหาประสบการณ์พร้อมกับเพื่อนด้วย ได้เรียนรู้การสื่อสารกับเจ้าของภาษาโดยตรง และเป็นประสบการณ์ไปต่างแดนของตนเองครั้งแรก
“แหม...เสียดายจัง เพชรอยากไปด้วยจังเลย”
หญิงสาวบ่น ผู้ใหญ่เที่ยงยกมือขึ้นโยกศีรษะบุตรสาว “อย่างเราน่ะ พ่อให้ไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ ขี้คร้านจะร้องไห้คิดถึงบ้าน” บุตรสาวของท่านไม่เคยนอนค้างอ้างแรมที่ไหน ผู้ใหญ่เที่ยงไม่เคยให้เพชรชมพูลำบาก การไปทำงานเป็นคนงานเก็บผลไม้ในต่างแดนมันต้องใช้ความอดทน คนหยิบโหย่งอย่างบุตรสาวท่าน ไปก็เสียเที่ยวเปล่า
“พ่ออะ ดูถูกเพชรจัง!” ใบหน้าเล็กๆ งอลง พร้อมกับบ่นอุบอิบ
“แหงสิ...พ่อน่ะเลี้ยงเรามานะ ทำไมจะไม่รู้ ไปร้องไห้ขี้มูกโป่งอายยัยหนูนิดาแย่เลย”
คนโตกว่ายังไม่หยุดกระเซ้า
“เพชรอยู่ที่นี่แหละดีแล้ว เราจะได้ไม่ห่วงยายมากนัก”