[6] หนูอยากเสียตัว
6| หนูอยากเสียตัว
“เอาเป็นว่าต้องบอกพ่อก่อนทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นพ่อจะไม่ตามใจหนูอีกเลย!!”
“ค่ะ แต่คุณพ่อขาหนูอยากอยู่คอนโดบ้าง คุณพ่อเข้าใจไหมคะ เวลามีงานกลุ่ม แล้วก็คอนโดคงใกล้มหาลัยมากกว่า ให้หนูอยู่เถอะนะคะ!!”
“พ่อขอคิดดูก่อน แล้วถ้าอนุญาต จะถามลุงตินของหนูให้!!”
ลุงตินว่าที่สามีนั้นทำเกี่ยวกับอสังหาก็คงต้องถามเขาหน่ะถูกแล้ว
“ขอบคุณค่ะ หนูรักคุณพ่อที่สุดในโลกเลย!!”
“ใช่หรือป่าว อีกหน่อยพอมีแฟนพ่อก็กลายเป็นหมาหัวเน่าแน่ๆ!”
“ไม่จริง หนูเอาหัวเป็นประกันว่าคุณพ่อจะไม่หัวเน่า!”
“หึ!!”
“ตอนเย็นหนูก็มีทำงานกลุ่มนะคะที่จริง มันชั่งยุ่งยากมากเลยค่ะคุณสมิธขา ทำยังไงดีน๊า!!”
“เอาเถอะ คืนนี้พ่อจะยอมหนูอีกสักวันแล้วกัน แต่วันนี้ไม่ต้องดื่มนะ เข้าใจหรือป่าว?”
ฟอดดด!
“เย้!ขอบคุณค่ะ น่ารักแบบนี้สเป็คสาวๆสวยๆทั้งนั้น เดี๋ยวจะหาแม่เลี้ยงให้นะคะคุณสมิธ!”
และนั่นก็เป็นบทสนทนาทั้งหมดที่ฉันคุยกับคุณพ่อในตอนเที่ยงวัน ในระหว่างที่ท่านไปส่งฉันที่มหาวิทยาลัย
ส่วนจูลี่เปลี่ยนใจเอารถไปเอง และอย่างที่บอกว่าคุณสมิธตามใจลูกสาวอย่างฉันมาก ถึงมากที่สุด จนฉันเป็นแบบนี้ไง ดื้อ เอาแต่ใจ
ตอนเย็นฉันเลิกเรียนแล้ว พี่เดลมารับ เห็นรถตู้เบนซ์คันสีดำจอดอยู่ตรงหน้า ฉันจึงบ๊ายบายจูลี่แล้วกำลังจะก้าวขึ้นรถ ก็ต้องชะงักไปในทันที
ด้วยความที่ตาดี แอบไปเห็นรถหรูคันสีเทาของลุงติน แน่นอนว่าคันนี้เห็นเขาจับบ่อยมากที่สุด
ฉันจำทะเบียนรถเขาได้แม่นเลย จะให้ท่องไหม และทุกอย่างที่เกี่ยวกับลุงติน วิเวียนคนนี้เมมเข้าไปหัวสมองหมดเรียบร้อยแล้ว
แต่ตอนนี้เลือดในกายมันกำลังสูบฉีด เมื่อเห็นร่างสวยของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินนวดนาดไปเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถของคุณลุงอย่างหน้าตาเฉย อ๊ายยย!!!
มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ฉันยังไม่ทันได้ทำอะไรก็จะโดนคาบไปแดกในน้ำแล้วหรอ ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ววิเวียน เธอจะรอช้าแบบนี้ไม่ได้แล้ว
“รีบพาหนูกลับบ้านด่วน!!”
กระฟัดกระเฟียดขึ้นรถมา ใจมันร้อนรุ่มอยากตบคน ฉันนะมือตบสังหารนะจะบอก
มัธยมก็คนนึง มหาลัยก็คนนึง ก็นี่แหล่ะที่ไม่มีใครคบด้วย ดีหน่อยที่ช่วงนี้ดีขึ้นเพราะโฟกัสเเค่เรื่องรักๆใคร่ๆ ที่แอบรักคุณลุง แต่เวลานี้คันมือยิกๆแล้วหล่ะ
ฉันเปิดหายาดมแล้วหยิบขึ้นมาสูดดมเติมพลัง ไอเท่มประจำกายที่ช่วยให้ใจเย็นลงนิดหน่อย
พอถึงบ้านฉันรีบไปเก็บเสื้อผ้าแต่ไม่ได้เปลี่ยนชุด และขออนุญาตคุณพ่อใช้รถส่วนตัวของฉัน เป็นมินิคูเปอร์สีขาวคู่ใจ รีบแจ้นลงมายังชั้นล่างแล้วไปที่รถ
สตาร์ทเครื่องและรีบไปยังที่หมาย แน่นอนว่าไม่ใช่คอนโดของจูลี่
รถหรูแล่นไปบนท้องถนน ใจฉันร้อนรุมไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คันมือมาก ทั้งที่คันอย่างอื่นมานานแต่เวลานี้คันมือมันแผลงฤทธิ์หนักกว่า
ฉันไม่ได้ขับไวมากหรอก ถ้าเกิดเป็นอะไรมามันไม่คุ้ม แต่ก็ไวพอที่ทำให้ฉันถึงบ้านหรูสไตล์โมเดิร์น ภายในเวลา20นาที ไม่ไวเลยจริงๆ แต่อย่าบอกคุณพ่อนะ ไม่งั้นฉันตายแน่...
ปี๊นนนๆ!!
อะ! ทักทายสักหน่อยด้วยการบีบแตร เอาให้แตกตื่นไปให้หมด ฉันสวมบทนางร้ายในทันทีเมื่อเห็นใบหน้าสวยแต่พลาสติกเต็มหน้ายืนยิ้มหวานกำลังจะเข้าไปในบ้านของลุงติน ใบหน้าหล่อเองไม่ทันได้ยิ้มตอบ หันมาขมวดคิ้วให้กับฉันที่มาใหม่
จะว่าไปฉันก็มาไวมากนะ เพิ่งจะคลาดกันที่มหาวิทยาลัย ฉันกลับบ้านไปเอาชุด แต่สองคนนี้เพิ่งถึง ไปไหนกันมานะ
แน่นอนฉันอยากทำความรู้จักกับหล่อนคนนี้มาก จึงเปิดประตูรถและปิดดังปั้ง! สาวท้าวเข้าไปหาด้วยความเร็วไว
“บังเอิญจังเลยนะคะที่วิมาปุ๊บก็เจอคุณลุงปั๊บ อ้าวนี่ใครหรอคะ?”
“พิมพ์นี่วิเวียนลูกสาวเพื่อนอาเอง วิเวียนนี่พิมพ์หลานสาวอา!!”
หลานจริงป่าวเหอะ!! ฉันถามเขา ทำไมเขาต้องแนะนำให้ยัยนี่รู้จักฉันก่อนฉันด้วยหล่ะ แค่นี้ก็น้อยใจแล้วนะ อย่าให้ต้องแรงนะคุณลุง
ฉันไม่ได้ยิ้มให้ยัยพิมพ์เพราะเป็นคนตรงๆไง
หล่อนยิ้มเก้อ แล้วหันไปทางหน้าหล่อแทน ฟ้องลุงตินของฉันด้วยหรอแค่นี้ ฉันดูออกนะ
“หนูคิดว่าคุณลุงไม่มีแขก งั้นหนูกลับก่อนก็ได้ค่ะ!!”
“ไม่เป็นไร ลุงว่าจะชวนหนูทานข้าวเย็นด้วยกัน แล้วนี่ทำไมมาเวลานี้ได้ พ่อหนูยอมปล่อยมาได้ไง!!”
“พูดอย่างกับหนูเป็นสัตว์เลี้ยงคู่ใจเลยนะคะ ใช้คำว่าปล่อย!!”
“อย่างอนหน่อยเลยหน่า!”
“คุณอาคะหนูคงอยู่ทานข้าวกับคุณอาไม่ได้แล้ว พอดีว่ามีธุระสำคัญหน่ะค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะที่เปย์ไม่อั้น!!”
เอ๊ะ ไปเปย์ยัยนี่มาหรอที่หายไปพักใหญ่อะ ร้ายนักนะ
“อ้าวหรอ งั้นเดี๋ยวอาให้คนไปส่งนะ!!”
“ขอบคุณค่ะ ไว้วันหลังจะมาฝากท้องด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ!!”
“ไปก่อนนะคะคุณวิเวียน!”
“ค่ะ!!” ฉันยิ้มเป็นมิตรมากเวลานี้ ยังไม่ได้ทำอะไรก็มีโอกาสเหมาะสะแล้ว คงเป็นเพราะผลบุญที่สั่งสมมาสินะที่ทำให้ไม่ต้องเปลืองแรง
ฉันไถสมาทโฟนในเวลาต่อมาเมื่อนั่งรออาหารให้เต็มโต๊ะ เราอยู่กันสองต่อสองคือดีมาก ฉันจะเตาะเขาวันนี้ แต่กำลังปรึกษายัยจูลี่ในโทรศัพท์อยู่จึงไม่ได้มองใบหน้าหล่อของคุณลุงเลย
“ถ้าจะติดโทรศัพท์แบบนี้ วันหลังไม่ต้องมาทานข้าวด้วยกันหรอก!”
“ดุจังเลยนะคะ เก็บก็ได้ แต่ที่มาวันนี้หนูมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณลุงค่ะ!!” ฉันเก็บสมาทโฟนเข้ากระเป๋า มองคนหล่อวัวตายควายล้มของฉัน เขาหน้าบึ้งไม่ชอบให้ติดโซเชียลตั้งแต่ไหนแต่ไร ค่อนข้างหัวโบราณ แต่กลับยิ่งทำให้คนหัวสมัยใหม่อย่างฉันหลงรัก
“เรื่องอะไรเหรอ ทะเลาะกับพ่อหรือเปล่าเนี้ย?”
“เปล่าค่ะ หนูตั้งใจมาหาคุณลุงเพราะมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกจริงๆ แต่บอกตอนนี้ไม่ได้ค่ะ ทานข้าวกันก่อนนะ หนูตักนี่ให้ค่ะ!!”
ฉันตักแกงอะไรสักอย่าง แกงส้มมั้ง ใส่จานให้เขาที่ขมวดคิ้วดกดำนั้นอย่างกร้าวใจมองมาไม่วางตา
นี่ถ้าเป็นแฟนกันนะจะจับหอมแก้มสักฟอด ชอบทำหน้าหล่ออะ ชอบจัง...
ทานกันจนอิ่ม ฉันเลยขอให้เขาพาไปที่ห้องทำงานของเขาเพื่อคุยเรื่องสำคัญที่ฉันต้องการจะพูดในวันนี้
“มีอะไรก็ว่ามา แล้วรีบกลับบ้านได้แล้ว!!”
“ไม่ต้องรีบไล่เลยนะคะ หนูกลับแน่ แต่ช่วยให้คำปรึกษาหนูก่อนนะ!!”
ฉันหน้ามุ่ยทันทีเมื่อถ้อยคำถัดมาของคนตรงหน้าราวกับขับไล่ ไม่อยากเจอหน้ากันอย่างไงอย่างนั้น
“หนูอยากทำเรื่องอย่างว่ากับผู้ชายคนหนึ่ง คุณลุงว่าหนูปกติไหมคะ ที่มองเขาแล้วเกิดอารมณ์ คือหนูไม่รู้จะปรึกษาใครแล้ว คุณพ่อก็ไม่กล้า ส่วนเพื่อนก็ไม่รู้จะให้คำปรึกษายังไงเพราะอ่อนประสบการณ์!”
“และที่สำคัญ คุณลุงก็รู้ว่าหนูความอดทนต่ำ หนูอยากเสียตัวค่ะ!”
“…”
“พอจะมีอะไรแนะนำหนูบ้างไหมคะ??” ฉันเป็นคนตรงไปตรงมา ซึ่งคุณลุงคงทำใจยอมรับกับคำพูดของฉันได้ เขาจึงไม่บอกกับฉันว่า ‘พูดอะไรออกมารู้ตัวบ้างไหม’ อะไรทำนองนี้
เพราะคุณลุงเคยพูดแล้ว เมื่อหลายปีก่อน มันก็ไม่ได้ช่วยให้ฉันหายตรงไปตรงมาขึ้นมาหรอก
“ก็ถ้าเคยเรียนเพศศึกษา หนูก็ต้องรู้สิว่าต้องทำยังไงบ้าง!!”
พูดเหมือนเหลืออดกับฉันเลยนะนั่น
“ไม่ห้ามหน่อยหรอคะ?”
“ห้ามได้ด้วยเหรอ?” ร่างหนาเคาะนิ้วแกร่งลงบนโต๊ะทำงาน ดวงตาคมมองการกระทำของตัวเองโดยไม่หันมามองฉัน
“นี่หนูกำลังจะเสียตัวนะคะคุณลุง!”
“ก็เรื่องของหนูสิ ตัวของหนูเองยังไม่รักตัวเองเลย!”
“ได้ค่ะ ได้!” ก็ประชดประชันไปเลยสิคะ
“จะไปไหน?”
ฉันหันหลังให้ เตรียมจะก้าวเดินออกจากห้อง
“ไปหาผู้ชายคนนั้นไงค่ะ!!” โกหกนะสิไม่ว่า ผู้ชายคนที่พูดถึงก็อยู่ตรงหน้านี่ไง
“ลุงก็คงต้องทำหน้าที่ลุงที่ดีโทรฟ้องพ่อหนูไปตามระเบียบ!”
“คุณลุง!!!!”