ขอบคุณที่ใส่ใจ(2)
หญิงวัยกลางกล่าวอย่างมีอารมณ์ เธอกับพ่อของชนาธิปเคยคบหากันมาก่อน แต่เพราะอีกฝ่ายไปทำแม่ของเมธาท้อง ทำให้ต้องไปแต่งงานกับฝั่งนั้น เธอจึงตัดสินใจแต่งงานใหม่กับผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก หลังจากคลอดชรัล ก็ตัดสินใจขอหย่ากับอดีตสามี
ส่วนพ่อของชนาธิปก็ทนความเอาแต่ใจและความร้ายกาจของภรรยาไม่ไหว จึงตัดสินใจฟ้องหย่าและกลับมาหาเธอ
ทั้งที่คิดว่าจะได้อยู่ด้วยกันอย่างราบรื่นแล้วแท้ๆ แต่สุดท้ายเขาก็พาเมธามาด้วย เพราะเด็กคนนั้นหน้าเหมือนผู้หญิงที่เธอเกลียด ทำให้เธอไม่เคยไว้ใจและไม่คิดจะฝากฝังบริษัทที่สร้างมากับมือให้อีกฝ่ายดูแล
“ที่ผ่านมาพี่เมธาไม่เคยสร้างปัญหา เขามีแต่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ ทำไมแม่ไม่มองส่วนดีของเขาบ้าง แม่ก็รู้ว่าเขารักแม่มากแค่ไหน”
แม่แท้ๆไม่เคยใส่ใจ เมธาจึงโหยหาความรักจากแม่เลี้ยง ครั้งหนึ่งที่ชายหนุ่มไม่สบายก็ได้แม่ของ ชนาธิปคอยดูแลเช็ดตัวให้ทั้งคืน ความดีในครั้งนั้นทำให้เด็กชายจดจำมาจนเติบโต
“พี่เมธารักแม่มาก ถ้าแม่ปล่อยวางได้แม่จะรู้ว่าเขานั้นคือคนที่แม่จะสามารถฝากฝังทุกอย่างไว้ได้”
หญิงวัยกลางคนได้แต่คิดตาม แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรเพราะท้ายที่สุดแล้วเธอก็ยังคาดหวังว่าลูกชายคนเล็กจะเปลี่ยนใจ
“ไม่รู้แหละ ถ้าในห้าปีนี้แกยังไม่เปลี่ยนใจ แม่ค่อยคิดหาทางออกใหม่”
หลังจากที่ผู้เป็นแม่วางสายไปชายหนุ่มก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขารู้สึกเหนื่อยที่ถูกกดดัน แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ทำให้เขามีกำลังใจในการใช้ชีวิต ก็คือการได้ช่วยเหลือผู้อื่น
แม่ของบัวชมพูกลับมาที่บ้าน เธอยังรู้สึกปวดหัวอยู่เล็กน้อยแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนเดิม วันนี้หญิงวัยกลางคนเปิดร้านหลังจากที่ปิดมานานหลายวัน
“เป็นยังไงบ้าง หายดีแล้วหรือ”
แม่ค้าร้านส้มตำที่อยู่ตรงข้ามตะโกนถาม ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะเดินเข้ามาในร้านเพื่อซื้อของ
“วันนั้นพวกฉันตกใจแทบแย่ เห็นคนอุ้มเธอไปเลือดเต็มหัวเลย”
หญิงชราพูดด้วยเสียงยังตกใจก่อนที่จะวางน้ำปลาและน้ำตาลงบนโต๊ะ
“ฉันแค่ลื่น แต่หลังจากนี้ก็จะระวังให้มากขึ้น”
“ดีๆ แล้วเจ้าบัวล่ะจะเรียนจบเมื่อไหร่”
“อีกปีเดียวก็จบแล้ว ถึงวันนั้นก็คงจะกลับมาอยู่บ้าน”
ความเป็นจริงเธอไม่ได้คาดหวังอะไร หากลูกสาวนั้นอยากจะอยู่ที่เชียงใหม่ต่อเธอก็ไม่ได้ห้าม บัวชมพูโตแล้ว และควรจะได้ใช้ชีวิตของตัวเองโดยไม่ต้องมาผูกติดกับแม่ขี้โรคอย่างเธอ
“จะว่าไปบัวเขาก็เก่งนะ สอบติดมหาลัยนั้นด้วย หันมาดูลูกสาวฉันตอนนี้ออกลูกเยอะแยะเต็มไปหมด ล่าสุดจะเอาลูกมาให้ฉันเลี้ยงฉันก็บอกไม่เอา แค่ขายของก็เหนื่อยจะแย่จะให้มานั่งเลี้ยงเด็กอีก ปวดหัวตายเลย”
หญิงชราบ่นตามประสา เห็นบัวชมพูประสบความสำเร็จในชีวิตการศึกษาแล้วก็ได้แต่สะท้อนใจ คงเป็นเธอที่เลี้ยงลูกสาวไม่ดีเองถึงได้ท้องตั้งแต่ยังเรียนอยู่มัธยมต้น ที่ยิ่งไปกว่านั้นยังเปลี่ยนผู้ชายไปเรื่อยๆ คบกับใครก็ท้องกับคนนั้นจนมีลูกเยอะแยะเลี้ยงไม่หวาดไม่ไหว
“เอาน่า ชีวิตคนเรามันไม่ได้หยุดแค่นี้ ใครจะไปรู้ ลูกป้าอาจจะร่ำรวยขึ้นมาก็ได้”
“ก็ขอให้มีวันนั้นเถอะ มันกับลูกจะได้ไม่ลำบาก”
บ่นเสร็จก็เดินกลับไปที่ร้านเพราะมีลูกค้ามายืนรอ หญิงวัยกลางคนส่ายหน้าเล็กน้อย ฟังเรื่องของ อีกฝ่ายแล้วก็เหนื่อยใจแทน แต่ถึงอย่างนั้นก็นึกขอบคุณลูกสาวที่มีจิตสำนึกที่ดี แม้สังคมรอบข้างจะไม่ดีเท่าไหร่นักแต่บัวชมพูก็เป็นคนใฝ่รู้ใฝ่เรียน