อบอุ่นวาบหวาม(1)
ตอนที่ 4
อบอุ่น วาบหวาม
สำหรับเวลานี้ไม่ว่าจะมีกี่ปัญหาผ่านเข้ามา ม่านมุกก็เป็นคนเดียวที่อยู่เคียงข้างปรมะไม่เคยหายไปไหน หญิงสาวเป็นพนักงานที่ซื่อสัตย์และจริงใจ ที่ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังคอยช่วยเขาแก้ไขปัญหาภายในคลินิก ทำให้ทุกอย่างคลี่คลายและจบลงด้วยดี
เวลาผ่านมาหนึ่งปีคดีฟ้องร้องสิ้นสุดลง ศาลเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดพลาดของทางคลินิก จึงได้ตัดสินให้ฝ่ายจำเลยชนะ เดิมทีชายหนุ่มนั้นตั้งใจจะปล่อยผ่านไม่เอาเรื่องเอาราว แต่อีกฝ่ายก็ยังคงละรานไม่หยุดเขาจึงตัดสินใจฟ้องกลับในข้อหาหมิ่นประมาท
เพราะช่วงเวลาก่อนที่ศาลจะตัดสินนั้นตัวเขาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ลูกค้าลดลง รายได้ก็ลดลงตามไปด้วย หากเทียบมูลค่าความเสียหายแล้วก็ประมาณหลักล้านบาทแต่หลังจากที่พ้นความผิด คลินิกของเขาก็ได้รับความไว้วางใจกลับคืนมา แต่คู่กรณีนั้นก็ยังไม่หยุดโจมตี ทำให้เขาต้องตัดสินใจใช้กฎหมายเพื่อหยุดยั้งอีกฝ่าย
“คุณหมอคะ กินข้าวค่ะ”
ม่านมุกเปิดประตูก่อนเอ่ยเรียกชายหนุ่มให้ออกมากินอาหารกลางวันด้วยกัน วันนี้มีเมนูที่เขาชอบ นั่นคือปลาราดพริก หญิงสาวตั้งใจทำสุดฝีมือ ทั้งเธอนั้นยังเลือกปลาด้วยตัวเอง เลือกอยู่นานกว่าจะได้ตัวที่ดีที่สุดเพราะอยากให้คุณหมอได้กินของดีและอร่อย
“คุณนี่ทำอาหารเก่งจริงๆ เอาซะผมไม่อยากออกไปกินข้าวข้างนอกเลย ทำได้หลายเมนูอีก ”
หญิงสาวได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกว่าใบหน้าร้อนวูบวาบ เธอหลุบตาลง ก่อนจะตักข้าวเพิ่มให้อีกฝ่ายจนพูนจาน
“ถ้าอร่อยก็กินเยอะๆนะคะ จะได้มีแรงตรวจคนไข้”
คุณหมอหนุ่มพยักหน้า เขามองดูหญิงสาวที่คอยดูแลเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง มุมปากก็กระตุกยิ้มขึ้น เขารู้สึกดีที่มีเธอเคียงข้าง ม่านมุกเป็นผู้หญิงในอุดมคติแบบที่เขาตามหามาตลอดทั้งชีวิต เธอมีอะไรหลายอย่างที่ตรงใจในแบบที่เขาชื่นชอบ
“วันนี้ตอนเย็นคุณว่างหรือเปล่า”
ม่านมุกนิ่งก่อนครุ่นคิดเล็กน้อย เธอไม่แน่ใจว่าวันนี้แม่จะมาเยี่ยมหรือเปล่า แต่หญิงสาวไม่ได้คาดหวังอะไร ทุกครั้งที่แม่บอกว่าจะมาเยี่ยมก็ไม่เคยมาอย่างที่สัญญาไว้สักครั้ง
“ว่างค่ะ คุณหมอมีอะไรหรือเปล่าคะ”หญิงสาวเอยถามด้วยความสงสัย
“ผมอยากตอบแทนที่คุณทำอาหารมาให้ผมกินทุกวัน วันนี้ผมเลยอยากจะเลี้ยงอาหารคุณบ้าง”
คุณหมอถามเพราะเขาจองภัตตาคารที่ดีที่สุดเอาไว้และหวังว่าม่านมุกจะชอบ
“ได้ค่ะ”
หญิงสาวตอบรับคำเชิญชวนของชายหนุ่ม ก่อนที่เธอนั้นจะยกจานไปเก็บในอ่างด้านหลัง วันนี้มีตรวจคนไข้ช่วงบ่ายอีกหลายราย ทั้งม่านมุกและปรมะจึงยุ่งวุ่นวายกันมาก
“คุณแม่ใจเย็นๆก่อนนะคะ”
ม่านมุกรีบเข้าไปห้ามหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังใช้กระเป๋าฟาดลูกชายเต็มแรง เนื่องจากว่าเด็กชายนั้นซุกซนมากทำให้ผู้เป็นแม่โมโหจนทนไม่ไหว หญิงสาวเห็นว่านั่นไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องจึงรีบเข้าไปขวาง ทำให้เธอถูกกระเป๋าฟาดลงกลางหลังเต็มแรง
“คุณพยาบาล! ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
ปรมะที่เห็นความวุ่นวายเขารีบเข้ามาประคองม่านมุก เห็นเธอนิ่วหน้าก็เลยถามด้วยความเป็นห่วง หญิงสาวทั้งเจ็บทั้งจุกจนพูดไม่ออก เธอรู้สึกปวดร้าวไปทั้งหลังเนื่องจากกระเป๋าค่อนข้างหนักและมีเหลี่ยมคม
“เป็นยังไงบ้าง คุณไปพักก่อนดีกว่า”
หญิงสาวพยักหน้าก่อนที่แม่บ้านจะประคองขึ้นไปพักชั้นบน โดยปกติแล้วม่านมุกนั้นไม่ใช่คนอ่อนแอขนาดนี้ หากไหวจริงๆเธอไม่มีทางที่จะทิ้งงานเด็ดขาด ปรมะเองก็เข้าใจ เขาทำงานกับเธอมานานนับปีแล้วและรู้จักนิสัยของหญิงสาวดี
“ฝากดูแลมุกด้วยนะ”
คุณหมอปรมะเอ่ยกับแม่บ้านวัยกลางคนก่อนจะรีบจัดการตรวจคนไข้ แม่ของเด็กชายรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เธอจึงได้มอบเงินไว้ให้ปรมะจำนวนหนึ่งเพื่อชดเชยความผิด
“ขอโทษจริงๆนะคะคุณหมอฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่เป็นไรครับ แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังแก้ปัญหา เด็กวัยนี้กำลังซนซึ่งเป็นเรื่องปกติของเขา เราต้องพยายามอธิบายให้เขาฟังอย่างใจเย็นและทำความเข้าใจ เพราะถ้าเราเข้าใจเราจะไม่โมโหเขา ผมอยากให้คุณแม่ลองอ่านคู่มือนี้ดู”
ชายหนุ่มพูดอธิบายเพื่อหวังให้คนเป็นแม่ทำให้ถูกวิธี ก่อนยื่นสมุดเล่มบางให้หญิงสาว เมื่อพิจารณาแล้วดูเหมือนว่าหญิงสาวนั้นจะมีลูกตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เธอขาดวุฒิภาวะและจิตวิญญาณความเป็นแม่
“ขอบคุณนะคะคุณหมอ ช่วงนี้ฉันเครียดหลายเรื่อง ต้องเลี้ยงทั้งลูกต้องทำทั้งงาน บางทีฉันก็คุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้”