คุณหมอ(1)
ตอนที่ 2
คุณหมอ
ปรมะกำลังขับรถกลับบ้าน แต่เพราะความแออัดบนท้องถนน ทำให้เขานั้นติดอยู่ตรงนี้มานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ชายหนุ่มเปิดเพลงฟังเพื่อบรรเทาความเครียด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้เป็นคนที่มีอารมณ์สุนทรีถึงขั้นโยกตัวตามทำนองเพลง คุณหมอเพียงแค่ฟังเงียบๆและปล่อยใจให้ผ่อนคลาย
ขณะที่กำลังมองออกไปนอกตัวรถ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ตอนแรกคุณหมอปรมะตั้งใจว่าจะไม่รับสาย แต่เมื่ออีกฝ่ายโทรเข้ามาย้ำๆหลายครั้งเขาจึงจำใจรับ
“ครับพ่อ”
สำหรับคุณหมอกับพ่อ นี่เป็นครั้งแรกในรอบสามเดือนที่เขานั้นได้คุยกับผู้เป็นพ่อ หลังจากทะเลาะกันใหญ่โตจนคุณหมอตัดสินใจแยกตัวออกมาอยู่คอนโดคนเดียว ชายหนุ่มไม่ได้คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะโทรมาเพื่อขอโทษหรือง้ออะไร แต่คิดว่าน่าจะมีเรื่องอะไรบางอย่างถึงได้ตัดสินใจโทรมาหาเขาในวันนี้และมันก็คงจะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
“อยู่ที่ไหนลูกตอนนี้”
ปรมะไม่ไว้วางใจ ยิ่งอีกฝ่ายพูดดีทำดีด้วยมันทำให้เขายิ่งรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลกับการโทรมาครั้งนี้
“กำลังจะกลับคอนโดครับ”
ชายหนุ่มตอบตามความจริง ปกติแล้วหลังเลิกงานเขาไม่ค่อยเดินทางไปไหน แม้ว่าเพื่อนๆจะชวนไปสังสรรค์อยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็เลือกที่จะปฏิเสธเพราะไม่ค่อยชองสังสรรค์เท่าไหร่
“พ่อโทรมามีอะไรหรือเปล่า”
ชายหนุ่มเอ่ยถาม เขารู้สึกได้ว่าพ่อนั้นคงไม่ได้ตั้งใจที่จะโทรมาเพื่อไทยถามสารทุกข์สุขดิบ แต่คงมีเรื่องบางอย่างอยากให้เขาช่วยเหลือตามเคยเหมือนที่ผ่านมา
ชายหนุ่มรู้จักนิสัยพ่อตัวเองดี คนๆนี้ไม่เคยเป็นห่วงเป็นใยใครแม้กระทั่งลูกในไส้อย่างเขาก็ตาม
“พ่อก็แค่เป็นห่วง อยากให้กลับมาที่บ้านบ้าง”
นับตั้งแต่วันที่ปรมะย้ายออกไป เขาก็ไม่เคยกลับไปที่นั่นอีกเลย เวลาผ่านมาสามเดือนเเล้ว จนถึงตอนนี้เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตัวเองมีบ้านให้กลับ
“ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่าง งานผมยุ่งมาก”
คุณหมอปรมะอ้างทั้งที่ความจริงแล้วงานของเขาก็ไม่ได้รัดตัวขนาดนั้น เพียงแต่ปรมะไม่อยากกลับไปที่นั่น เนื่องจากเขาไม่ต้องการที่จะถูกพ่อบังคับให้ทำนู่นทำนี่ตามใจเขาเบื่อและไม่อยากกลับไปพบเจออีก
“ยุ่งอะไรกัน คนของพ่อบอกว่าที่คลินิกแกไม่ค่อยมีลูกค้า”
ชายหนุ่มถอนหายใจเมื่อรู้ว่าพ่อนั้นส่งคนมาตามดูเขาตลอดเวลา ปรมะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่อีกฝ่ายพยายามก้าวก่ายชีวิตของเขา ชายหนุ่มโตพอที่จะเลือกเส้นทางเดินของตัวเองไม่จำเป็นต้องให้ใครมาชี้นำ ฉะนั้นเขาจึงรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากเมื่อมีใครสักคนพยายามที่จะบงการและขีดเส้นทางชีวิตให้กับเขา
“ถ้าป่านนี้แกเปิดโรงพยาบาลคงจะรวยเละไปแล้ว จะมามัวแต่ทำงานเหนื่อยในคลินิกเล็กๆทำไม มันไม่คุ้มเลยนะ ลูกคิดผิดคิดใหม่ได้นะ ทำอะไรก็คิดให้มันยาว ๆ ”
ผู้เป็นพ่อพยายามเกลี้ยกล่อม ลึกๆยังหวังว่า ปรมะจะกลับมาและสานต่อสิ่งที่เขาวาดฝันมาทั้งชีวิต ปรเมศต้องการที่จะเป็นเจ้าของโรงพยาบาล เขาต้องการยืมมือลูกชายเพื่อเป็นใบเบิกทางในการตั้งธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์
“ผมพอใจกับธุรกิจเล็กๆแบบนี้”
คุณหมอตอบตามความรู้สึก พ่อเขาเองก็มีธุรกิจนำเข้าสินค้า แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงอยากจะสร้างโรงพยาบาลนัก มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะควบคุมดูแลทุกอย่าง ปรมะไม่ได้ต้องการเป็นนักธุรกิจ เขาแค่อยากเป็นแพทย์ที่ได้ใกล้ชิดคนไข้ทุกคนอย่างทั่วถึงแต่ดูเหมือนผู้เป็นพ่อจะไม่เข้าใจ