ตอน 4
“ตัวมึงร้อนแล้วว่ะรุจ” ไอ้เจ้าเล่ห์ยอมใจมึงเลย
“ดีๆ ช่วยพากูไปหาหมอด้วย ทำห้องให้รกๆ ไม่ต้องเก็บอะไรนะเว้ย ยกเว้นของที่ทำให้กูป่วย เก็บให้ดี” รุจยัดไดร์เป่าผมใส่ในลิ้นชัก เสื้อผ้าเปียกน้ำกองเกลื่อนพื้นเอาไว้ ร้องเท้าเดินในบ้าน สะเปะสะปะ เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ด้วยอาการดีใจสามารถทำให้ตัวเองป่วยได้
“ส่งกูเข้าโรงบาลแล้ว มึงรอระยะเวลาสักพัก ช่วยโทร.หาไข่มุก พูดยังไงก็ได้ให้กูดูน่าสงสาร รันทด เหมือนว่ากูกำลังจะตายวันนี้พรุ่งนี้”
ในขณะนั้นไข่มุกกำลังประชุมทัวร์จีนกับลูกน้องอยู่ เสียงโทรศัพท์ตั้งสั่นดังครืดคราด หญิงสาวมองหน้าจอ พบว่าเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก เธอคิดเพียงแค่ว่าอาจจะเป็นลูกค้าต้องการจองทัวร์ จึงปัดหน้าจอจิ้มรับ
“ไข่มุกค่ะ”
“คุณไข่มุกหรือครับ ผมเอ็มเป็นเพื่อนของรุจครับ”
“เอ่อ...ทำไมคะ มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ” เล่นให้เพื่อนโทร.มาหาเธอเลยหรือ ตลอดเวลาสิบกว่าวันไข่มุกไม่ยอมรับสายจากรุจ ต่อให้เขาไปดักรอเธอที่ไหนหญิงสาวไม่ยอมพูดคุยด้วย แม้พ่อแม่จะออกปากคุยกันให้รู้เรื่อง ถึงแม้จะต้องเลิกกันจริงๆ ก็อย่าได้มีอะไรค้างคาใจ นั่นหญิงสาวกลับไม่ยอมทำตามคำบอกจากพ่อกับแม่ หรือแม้แต่คำแนะนำจากเพื่อนๆ ก็ตาม
“ผมจะแจ้งเรื่องไอ้รุจครับ”
“งั้นฉันขออนุญาตวางนะคะ”
“เดี๋ยวสิครับคุณไข่มุก”
“ฉันให้เวลาคุณสองหนึ่งนาที”
“ผมเข้าใจนะครับปัญหาของคุณสองคน”
“เหลือ 55 วินาทีแล้วค่ะ”
“โอเคครับ คือไอ้รุจมันป่วย ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล อาการมันดูแย่มาก ไม่ยอมคุยกับใคร ผมไปเจอมันนอนซมอยู่ที่ห้อง สงสารเลยพามันมาส่งโรงพยาบาล” เอ็มบอกชื่อโรงพยาบาลห้องที่รุจนอนรักษาตัว
“แค่นี้ใช่มั้ยคะ”
“ครับธุระผมมีเท่านี้”
ไข่มุกตัดสายทันที หญิงสาวถอนหายใจยืดยาว ท่ามกลางสายตาลูกน้อง ต่างจ้องมองมายังบอสของพวกเขา ไข่มุกหันมองทุกคน “เลิกประชุม สรุปตามนั้น ใครทำหน้าที่อะไรรู้นะอย่าให้พูดซ้ำ”
ทุกคนพยักหน้ารับ ในเนื้อหาประชุมรายละเอียดที่ผ่านมา ทราบและเข้าใจดีกันเป็นที่เรียบร้อย ทุกคนทยอยออกจากห้องประชุม ทิ้งไข่มุกอยู่ลำพัง เธอกำลังใช้ความคิดในการตัดสินใจไปเยี่ยมรุจตามคำบอกของเพื่อนเขา หรือปล่อยให้ทุกอย่างจบด้วยการไม่ติดต่อพบเจอกันอีกเลยตลอดชีวิต
“แกเพื่อนของรุจโทร.มาบอกว่ารุจป่วย นอนอยู่โรงพยาบาลว่ะ” ไข่มุกกดโทรศัพท์หาไพลิน
“แกจะโทรมาถามฉันว่าควรไปเยี่ยม หรือควรอยู่เฉยๆ”
“อืม” เพื่อนคนนี้รู้ใจทุกอย่าง
“ในฐานะที่ฉันกับแกรู้จักกันมานาน ฉันรู้ว่าแกเป็นคนอย่างไร ไม่เจ็บก็จะไม่จำ แกลองคิดดูคนเราเป็นแฟนกันไม่ได้ แต่เป็นเพื่อนกันได้ แกลองคิดถึงอดีตสิ พวกแกสองคนรักกันมาก พอรุจผิดแกสาปส่งเขาเลยหรือไง”
“พูดแบบนี้คือฉันต้องไปเยี่ยมเขา”
“อย่างน้อยเลิกกันยังหลงเหลือความเป็นเพื่อน”
“เออ...” ไข่มุกไม่ใช่หมดรักรุจ เพียงแต่ถือทิฐิ อย่ามาคิดว่าเธอคือของตาย อะไรในโลกทนได้ แฟนนอกใจทนไม่ได้ มันหยามศักดิ์ศรีกันชัดๆ หรือวินาทีนี้ควรทิ้งศักดิ์ศรี เพื่อไปเยี่ยมเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเลิกกันจริงๆ จะได้ไม่เหลือความผิดค้างคาใจต่อกัน
ชั่วโมงต่อมาหลังจากจัดการงานต่างๆ ในสำนักงานจนเป็นที่เรียบร้อย ไข่มุกพาตัวเองมายืนอยู่หน้าห้องดังกล่าวในโรงพยาบาลที่เอ็มแจ้งไว้ หญิงสาวยืนลังเลอยู่หน้าประตู ถอยหลังไปสองก้าว จากนั้นก้าวกลับมายืนใหม่ สุดท้ายตัดสินใจเคาะประตู แล้วเปิดก้าวเข้าไป
ตอนเข้าไปเธอมองไปยังเตียง รุจยังหลับอยู่จึงหยุดยืนมองคนป่วยหน้าซีดเผือดอยู่ข้างเตียง ดูเขาแย่ทรุดโทรมมาก เป็นคนละคนกับเวลาปกติ คงป่วยจริงไม่ใช่เล่ห์เหลี่ยม แกล้งป่วย
“รุจไข่มุกมาเยี่ยม” หญิงสาวพูดกันคนป่วยเบาๆ “คุณเป็นยังไงบ้าง ป่วยเป็นอะไร”ถามทั้งๆ ที่เขาไม่ลืมตา อย่างน้อยถือว่ามาเยี่ยม เห็นรุจยังเฉยๆ หญิงสาวจึงควานหาปากกากับกระดาษในกระเป๋าสะพาย เพื่อจะเขียนโน้ตถึงเขา ยังไม่ทันได้จรดปากเขียนข้อความ คนบนเตียงขยับตัวลืมตา
“ไข่...มุก...เบบี๋คุณหรือ ผมไม่ได้ตาฝาดไปนะ” ทันใดที่รุจเห็นไข่มุกเปิดประตูเข้ามา เขาแทบจะกระโดดลงจากเตียงไปกอดหญิงสาว ด้วยความดีใจ
“รุจไข่มุกมาเยี่ยม รู้ข่าวจากเอ็มเพื่อนของคุณ” หญิงสาวพยายามปั้นหน้าเฉยๆ
“ไอ้เอ็ม บอกแล้วไงไม่ให้บอกใคร”
“นี่เป็นอะไร หมอบอกว่าเป็นอะไร”
“ไข้หวัดใหญ่ รอตรวจดูอาการอีกที่เป็นสายพันธ์อะไร” รุจแอบดีใจจนตัวสั่นหากแต่เก็บอาการดีใจไว้ ภายใต้สีหน้าเศร้า เท่าที่คนอย่างรุจจะเศร้าได้
“ไปทำอีท่าไหน ถึงได้ป่วย”
“ไม่รู้สิ ไม่รู้ตัว แค่ตากฝนกินอะไรไม่ลง นอกจากกินเหล้าแทนน้ำ นอนไม่ห่มผ้า น้ำไม่อาบ ใจท้อถอย รู้สึกแย่ๆ พอใจไม่ดี ร่างกายเลยอ่อนแอมั้ง” เขาทำให้มันดูรันทดที่สุด
“ทำไมต้องทำแบบนั้น ต้องกินข้าว ดูแลตัวเองสิ ทำไมไปเดินตากฝน”
“ไม่รู้ตัวว่าตาก รู้อีกทีก็เป็นไข้ ได้ไอ้เอ็มมันดูแล”
“คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีกนะ”
“ไม่รู้สิ มันท้อ ไม่อยากมีชีวิตอยู่”
“นี่ดีขึ้นแล้วใช่ไหม”
“กายดีขึ้นใจมันก็ไม่ดี” เขาทำตัวเป็นคนป่วยนอนติดเตียง
“ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม ไข่มุกกลับนะ” สภาพเขาดูแย่มากทั้งทำตัวเอง เธอไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม คนเราไม่รักตัวเองก็ไม่ต้องสนใจใส่ใจ หญิงสาวหมุนตัวก้าวขา ยังไม่ทันก้าวข้อมือถูกฉุดรั้งไว้ ดึงร่างของเธอเข้ามากอดรอบเอว
“เบบี๋ผมขอโทษ อย่าเลิกกันเลยนะ ต่อไปนี้ผมจะไม่นอกใจนอกกาย ไม่ทำเรื่องชั่วๆ อีกแล้ว รุจรู้แล้วว่าในชีวิตรุจขาดใครไม่ได้ ไข่มุกไงที่รุจขาดไม่ได้ เวลาที่ผ่านมารุจไม่มีความสุขเลยตอนข้างกายไม่มีไข่มุก” เขากอดรัดร่างหญิงสาวไว้แน่น ในที่สุดเธอใจอ่อนมาพบเขาจนได้ การลงทุนครั้งนี้นับไม่เสียเปล่า ฉะนั้นต้องฉวยโอกาสแบบนี้ง้อเธอให้สำเร็จ
“ปล่อยค่ะรุจ” หญิงสาวยอมรับว่ารักเขามาก หากปล่อยให้เขาพล่ามกล่าวคำขอโทษ เธอคงใจอ่อนยอมคืนดีกับเขา ปฏิญาณแล้วว่าถึงอย่างไรไม่ขอกลับไปคืนดี หรือแม้แต่ข้องแวะกับคนไม่ซื่อสัตย์ในความรักแบบรุจ ต่อให้รักกันมาห้าปีเจอก็ตาม
“อภัยให้รุจนะไข่มุก รุจขอโทษ ต่อไปนี้จะไม่มีเรื่องนี้อีก เราจะแต่งงานกันนะ ไม่เลิกกัน ไม่เลิกนะเบบี๋นะ”
“พอเถอะรุจ”