ตอน 5
“ไม่พอ รุจรักไข่มุก เบบี๋เป็นผู้หญิงคนเดียวที่รุจรัก ทั้งหมดที่เกิดขึ้นรุจยอมรับผิด รุจมันเลวเอง เอาความเหงาเป็นที่ตั้ง แทนที่คิดถึงไข่มุกทำงานลำบาก เหน็ดเหนื่อย แต่กลับเห็นแก่ตัวหาความสุขใส่ตัว”
“รุจจะทำได้อย่างที่พูดจริงๆ หรือ”
“ทำได้สิ รุจทำได้ ไข่มุกคือผู้หญิงคนเดียวที่รุจ คิดเรื่องอนาคต คิดเรื่องมีครอบครัว”
“ผู้หญิงคนนั้นซื้อกินจริงๆ นะ ไม่ผูกมัดไม่ซัมติง กันนะ”
“แน่นอนสิ รุจไม่เคยคิดอะไรนอกจากอารมณ์ผู้ชาย ก็แค่บังเอิญเจอกันเพราะความเมา ผู้หญิงคนนั้นง่ายกับรุจ คิดดูกับคนอื่นคงง่ายแบบนี้ อย่าใส่ใจเลยนะเบบี๋”
“คืนดีกันนะ” เขาโอบกอดแฟนสาวไว้ ไข่มุกคือที่หนึ่งของเขา เสียคนอื่นได้ ไม่ยอมเสียเธอเด็ดขาด รุจยื่นนิ้วก้อยขอเกี่ยวก้อยกับไข่มุก “นะนะเบบี๋ ดีกันนะ”
“สัญญาใช่ไหมจะไม่นอกใจไม่นอกกายอีก ถ้านอกใจอีกรับรองรอบนี้ได้ตัดทิ้งทั้งพวง” ไข่มุกอ่อนในที่สุดยอมนิ่งฟังคำแก้ตัว คำขอโทษจากรุจ ต่างจากก่อนหน้านั้น ไม่รับการติดต่อใดๆ กับรุจเลย ไม่ว่าเขาเข้าทางไหนก็ตาม
“สัญญา” รุจสัญญากระดิกนิ้วก้อยหวังเกี่ยวก้อยขอคืนดี ในขณะมือที่โอบเอวไข่มุก แอบไขว้กันอุบอิบไว้ สายตาชายหนุ่มแอบอมยิ้มเจ้าเล่ห์ รู้สึกดีในการได้รับชัยชนะเหนือแฟนสาว
นับจากนั้นไข่มุกฝากงานกับลูกน้อง มาเฝ้ารุจดูแลอยู่ใกล้ชิดไม่ห่าง จนกระทั่งออกจากโรงพยาบาลกลับไปอยู่ที่ห้อง ทั้งสองพูดคุยกันเรื่องเรือนหอซึ่งกำลังปลูกสร้าง 90% แล้ว พร้อมกับชวนกันแวะไปตรวจงาน ช่างเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
“ที่ของเราไม่ควรให้ใครมาลบหลู่นะคะ”
“โอ๊ยย อย่าตอกย้ำสิเบบี๋ อีกไม่นานเราก็จะแต่งงานกันแล้วนะ ควรพูดแต่เรื่องดีๆ” เขาเลี่ยงจะพูดถึงมือที่สาม นั่นคือรับปากไม่ได้ว่าเขาจะไม่พลาดพาใครมา
“ต้องมีฉลองขึ้นบ้านใหม่นะคะ บ้านน่าจะเสร็จก่อนวันแต่ง หรืออาจจะหลังแต่ง เหลืออีกไม่เยอะ”
“แน่นอนสิครับ เบบี๋ว่าไงรุจก็ว่าตาม” ช่วงนี้ตามน้ำกับแฟนสาวไปก่อน
วันนี้ที่ทำงาน Creative Bangkok Co.,Ltd ในแผนกเออี รับพนักงานใหม่ หญิงสาวนั่งลงบนโต๊ะที่ถูกจัดไว้รอ ในแผนก Creative ส่วนโฆษณา รุจเดินผ่านลูกน้องด้วยรอยยิ้ม คิดว่ารอบๆ ตัวเขาตอนนี้ อาจจะมีนกน้อยสีชมพูเกาะไหล่อยู่ จึงทำให้ฉีกยิ้มกว้าง มากกว่าครึ่งเดือนที่ผ่านมา หน้าเขาเหมือนไข่เน่า วันนี้ต่างไปจากวันนั้นโดยสิ้นเชิง
ฝ่ามือผลักบานประตูห้อง Creative Director เข้าไป วางกระเป๋าบนโต๊ะ ทิ้งก้นลงนั่งบนเก้าอี้ผู้บริหาร ยังไม่ทันได้สั่งกาแฟยามเช้า เสียงเคาะประดังตามมา
“เชิญ”
ลูกน้องสาวหน้าคุ้นเคยเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่หน้าประตู “พี่รุจคะพนักงานใหม่มาแล้วค่ะ จะให้พาเข้ามาแนะนำตัวเลยไหมคะ”
“เรารับพนักงานใหม่หรือ”
“ฝ่ายบุคคลสัมภาษณ์ตามที่เรายื่นขอบุคลากรไปค่ะ”
“งั้นเชิญเข้ามา” คงเป็นช่วงที่เขาไม่มีกะจิตกะใจทำงาน เพราะตามง้อแฟน ฝ่ายบุคคลคงให้รองจัดการฝ่ายครีเอทีพสัมภาษณ์หลังจากผ่านด่านแรกคือฝ่ายบุคคลคัดกรองรอบหนึ่งแล้วนั่นเอง
ประตูปิดลงจากนั้นจึงถูกเปิดอีกครั้งเปิ้ลพนักงานคนเดิมเดินกลับเข้ามา ตามหลังด้วยผู้หญิงอีกคนมาในชุดเดรสเข้ารูปคลุมด้วยเสื้อสูทสีดำแบบผู้หญิง เห็นไกลๆ หน้าดีใช้ได้
“ปิ่นนี่พี่รุจ ครีเอทีพ ไดเร็กเตอร์” เปิ้ลผายมือไปทางพี่รุจนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ พนักงานสาวคนใหม่ พุ่มมือไหว้ผู้ใหญ่กว่า ซ้ำต่อไปนี้ยังมีฐานะเป็นหัวหน้างานโดยตรงของหล่อนด้วย ในฐานะพนักงานใหม่ ปิ่นภูมิใจมากที่ได้เข้าทำงานในบริษัทโฆษณาอันดับต้นๆ ของประเทศไทย มันเป็นความฝันของหล่อนหลังจากเรียนจบโฆษณา เป็นสายการเรียนที่พ่อแม่ต่อต้านคัดค้านมาตลอด
ทำอย่างไรได้ในเมื่อหล่อนชอบสายนี้เป็นการส่วนตัว ใฝ่ฝันอยากเป็นนักคิดโฆษณา ฝีมือเก่งกาจที่สุดการได้เข้ามาทำงานบริษัทชั้นนำ ย่อมเป็นความภาคภูมิใจสูงสุด
“พี่รุจคะปิ่นพนักงานใหม่ค่ะ”
“อืม หวัดดีๆ ยินดีที่ได้ร่วมงานกัน ขอให้ตั้งใจทำงานนะ”
“ค่ะ...พี่รุจ ปิ่นขออนุญาตเรียกพี่รุจตามทุกคนนะคะ”
“ได้สิ ทุกคนก็เรียกผมแบบนั้น เปิ้ลฝ่ายบุคคลส่งประวัติน้องมาหรือยัง”
“นี่ค่ะพี่รุจ” เปิ้ลวางแฟ้มลงบนโต๊ะผู้จัดการฝ่าย
“งั้นเดี๋ยวพี่ขอคุยกับน้องอะไรนะ” เขาถามชื่อพนักงานใหม่อีกที
“ปิ่นค่ะ” ปิ่นตอบเสียงหวาน เล่นหูเล่นตา จนเปิ้ลอดมองไปยังปิ่นไม่ได้ หล่อนยังไม่เคยส่งเสียงแบบนี้กับหัวหน้า แม่นี่มาใหม่ขึ้นเลเวล แล้วหรือ อืม...รู้อยู่
“อืม...น้องปิ่น เปิ้ลออกไปก่อนพี่ขอคุยกับน้องสักห้านาที”
เปิ้ลลูกน้องในแผนกขยับหมุนตัวก้าวออกไป ในห้องนี้จึงปรากฏหัวหน้ากับลูกน้องคนใหม่อยู่ตามลำพัง “เชิญนั่งสิ” รุจผายมือเชิญลูกน้องสาวคนใหม่ให้นั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของตน
หล่อนค้อมศีรษะกล่าวขอบคุณพร้อมกับหย่อนก้นลงนั่ง รุจไม่ได้สัมภาษณ์ก่อนเข้างาน จึงต้องการรู้จักซักถามประวัติคร่าวๆ พูดคุยเนื้องาน การเรียนในบางส่วน ระหว่างนั้นปิ่นแอบมองชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าด้วยแววตาสาวปลื้มหนุ่ม พี่รุจหล่อมากในสายตาหล่อน เสียงทุ้ม ยิ้มเก่ง ตาสวย ที่สำคัญหล่อนจำเขาได้ แม้เขาดูเหมือนจำหล่อนไม่ได้ก็ตาม
ปิ่นเดินออกจากห้องหลังสนทนากับหัวหน้าเรียบร้อย ในใจและในดวงหน้าของหล่อน ระบายด้วยความปลื้มปริ่ม นอกจากดีใจได้เข้ามาทำงานในบริษัทโฆษณาชื่อเสียงโด่งดังยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งนี้แล้ว ยังได้เจอกับคนที่เคยเจอเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา หญิงสาวตั้งใจศึกษางานตามที่รุ่นพี่สอน ตามทฤษฎีรู้จากการเรียน พอมาทำงานจริงทุกอย่างต่างกันมาก ความรู้แทบจะไม่ได้กระดิก ชีวิตการทำงานลงสนามจริงกับการเรียนคนละเรื่อง
“ปิ่นไม่เข้าใจตรงไหนถามพี่ได้นะคะ นั่นเป็นงานเก่าๆ ที่เราทำให้ลูกค้า ค่อยๆ เรียนรู้ไป”
“ค่ะพี่เปิ้ล” เปิ้ลได้รับการมอบหมายในการดูแลเด็กใหม่คอยสอนงาน ให้คำปรึกษา พอเห็นว่าพอทำงานง่ายๆ ได้จึงค่อยมอบหมายงานในลำดับต่อไป
แทนที่ปิ่นจะถามเปิ้ลตามที่พูด กลับคิดว่าตรงไปหาหัวหน้าเลยน่าจะดีกว่า หญิงสาวเคาะประตูห้องหัวหน้า แล้วก้าวเข้าไปหลังจากได้รับอนุญาตในวันหนึ่งของการทำงาน
“ว่าไงปิ่น” รุจเงยหน้าจากการตรวจงานของลูกน้องก่อนเข้าไปพรีเซ้นงานกับลูกค้า
“ปิ่นไม่เข้าใจอะไรนิดหน่อยค่ะ” หล่อนส่งเสียงหวาน คล้ายออดอ้อนในน้ำเสียงนั้นระคนกัน
“ตรงไหน ไหนพี่ขอดูหน่อยสิคะ” รุจแสดงนิสัยเอื้ออารี
ปิ่นถือแฟ้มเอกสารไปยังโต๊ะหัวหน้า แทนที่จะนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะ ทว่าพนักงาสาวคนใหม่ วัยสะพรั่งกลับเดินไปอยู่ด้านขวาพี่รุจ วางแฟ้มลงบนโต๊ะ รุจขยับแถวออกห่างนิดๆ หากแต่สัมผัสกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงอ่อนๆ โชยแตะจมูก
“ตรงนี้ค่ะ” หล่อนชี้ไปตรงหน้ากระดาษ เบียดแขนซ้ายชิดแขนขวาพี่รุจ “ปิ่นถามพี่รุจจริงๆ นะคะ”
“อะ...อืมถามสิ” น้ำเสียงรุจสั่น แสดงสีหน้าเป็นหัวหน้าแสนดี พร้อมให้คำปรึกษากับลูกน้องเสมอ “ถามเรื่องงานนะปิ่น”
“ถามนอกเหนือจากเรื่องงานไม่ได้หรือคะ” หล่อนสงสัยมากถ้าเขาเล่นละครเพื่อหลอกทุกคน ทำไมถึงเล่นได้แนบเนียนไร้ที่ติขนาดนี้ หรืออีกนัยน์ถ้าเขาจำเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ได้หล่อนจะได้ทบทวนให้เขาอีกที