บทที่ 5 ไปดูตัวตามคำสั่งของบิดา

~เยอรมัน~

ไคล์กลับไปเยือนเยอรมันเพื่อเข้าร่วมประชุมครั้งสำคัญ การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมร่วมมือทางธุรกิจขนาดใหญ่ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้าน แน่นอนว่าไคล์ ฟรอกแกตต์ที่เป็นนักธุรกิจรายใหญ่ในแทปเอเชีย เขาต้องไม่พลาดการเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะต้องหอบสังขารที่ยังเจ็บป่วยมาก็ตาม

บ่ายวันนั้นเขานั่งคุยกับนักธุรกิจจำนวนหนึ่งที่มาจากอังกฤษและออสเตรเลีย พวกเขาหารือเกี่ยวกับโครงการใหญ่ที่จะดำเนินการในเยอรมัน เจรจากันอยู่ในห้องประชุมเป็นเวลาสามชั่วโมง ไคล์เจ็บปวดกับบาดแผลของตัวเองเป็นอย่างมาก จนเหงื่อเย็นหยดลงบนใบหน้าของเขา

ในที่สุด เขาก็สามารถลงนามในสัญญามูลค่าห้าพันล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงมากเลยทีเดียวกับการลงทุนร่วมธุรกิจกับต่างประเทศแบบนี้

“ยินดีด้วยครับคุณไคล์ ในที่สุดเราก็ได้ร่วมงานกันนะครับ” ชายคนหนึ่งกล่าว ซึ่งเขาเป็นประธานในการจัดโครงการนี้

“ขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจแก่ผมครับ” ไคล์ตอบพร้อมกับจับมือเพื่อแสดงความขอบคุณ

“เราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ Frogatt Group ครับ”

หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น ไคล์ก็ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดูบาดแผลที่มีเลือดออกเป็นเวลานาน ซึ่งหมอและพยาบาลก็ได้ทำแผลให้เขาใหม่

~ วันต่อมา ~

มารุต้องออกไปเจอกับผู้ชายที่พ่อและแม่ของเธอนัดเอาไว้ให้ และเธอต้องไปคนเดียว

“มารูโกะ ไปคนเดียวได้ไหม?” กาหลงถามขึ้น

“แม่ไม่ต้องห่วง ลูกสาวของแม่คนนี้ไม่มีใครกล้าทำอะไรหรอก แล้วแค่ผู้ชายคนเดียวหนูจะกลัวได้ยังไง” มารุตอบอย่างมั่นใจ

“งั้นก็ไปเลย! รีบไป เดี๋ยวเขาจะรอนาน อย่าทำให้พ่อต้องอับอาย เพราะผู้ชายคนนั้นเป็นลูกของเพื่อนสนิทพ่อ” พิสิฐบอก “แล้วก็ระวังรถบนท้องถนนด้วยล่ะ”

“รู้แล้ว!” มารุตอบอย่างขอไปที “ไปล่ะนะคะ บาย”

มารุเดินออกจากบ้านพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ‘อยากให้หนูออกเดตกับผู้ชายคนนั้นเหรอ? คาดหวังไว้สูงเกินไปหรือเปล่า เห๊อะ!’ มารุคิดในใจ

“นี่พ่อ! ทำไมฉันถึงรู้สึกแปลก ๆ” กาหลงเอ่ยอย่างสงสัย

“ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอก บางทีลูกสาวของเราอาจจะถูกชะตาและตกหลุมรักลูกชายของเพื่อนพ่อก็ได้ หากเป็นแบบนั้นจริง ๆ ภาระของเราก็จะเบาลง” พิสิฐตอบ

“ฉันรู้สึกว่ามันจะไม่ราบรื่นขนาดนั้น มารุไม่เคยรู้จักหรือสนิทกับลูกชายเพื่อนของคุณ อยู่ดีๆ จะให้พวกเขาแต่งงานกัน มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก อีกอย่าง คุณไม่เห็นเหรอว่าลูกสาวของคุณดูไม่ร้อนรนอะไรเลย ทำเหมือนขอไปทีอย่างนั้นแหละ”

“ลองดูก่อนแล้วกัน ให้เวลาลูกดูหน่อย บางทีอาจจะไม่ได้เป็นเหมือนที่เราคิดไว้ก็ได้” พิสิฐไม่ได้คิดมากเหมือนภรรยา

“แม่ก็แค่กังวล กลัวว่าผู้ชายคนนี้อาจจะโชคร้ายเมื่อได้เจอลูกสาวของเราก็ได้” เธอไม่ได้กังวลเรื่องลูกสาวตัวเองหรอก เป็นห่วงและกังวลชายหนุ่มคนนั้นต่างหาก

“เชื่อมั่นในตัวลูกสาวของเราหน่อย คุณไม่ได้ยินที่ลูกสาวของเราบอบก่อนออกไปเหรอ เธอบอกแล้วว่าจะไม่ทำให้ผมขายหน้าไง” พิสิฐยังรู้สึกว่ามั่นใจในตัวลูกสาวได้อยู่

“ฉันหวังว่าลูกสาวของเราจะไม่ทำให้ผู้ชายคนนั้นกลัวจนหนีไปนะ” กาหลงเอ่ยอย่างกังวล

มารุกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารที่พ่อของเธอนัดกับชายหนุ่มไว้ เธอเดินไปยิ้มไป ในขณะนั้นก็กำลังคิดถึงแผนการไปด้วย

มารุเดินเข้าไปในร้านอาหารและไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเขานั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างและกำลังยกแก้วขึ้นมาดื่มน้ำ เขาเงยหน้ามองผู้หญิงตรงหน้าอย่างแปลกใจ รวมถึงลูกค้าคนอื่น ๆ ในร้านอาหารต่างก็พากันมองมาทางเธอเช่นกัน

“นายคือนทีหรือเปล่า?” มารุเอ่ยถามเมื่อยืนอยู่ตรงหน้าเขา

“เธอเป็นใคร?” ชายหนุ่มถามขึ้นอย่างประหลาดใจ

“ถ้านายคือนที ฉันก็คือว่าที่ภรรยาในอนาคตของนาย”

ปู๊ดด! ชายหนุ่มแทบสำลักน้ำที่พึ่งดื่มเข้าไป “เธอ..เธอคือมารุเหรอ? ฉัน..ฉันต้องแต่งงานกับผู้หญิงแบบเธอเหรอ?” นทีแทบจะหัวใจวายตาย ผู้หญิงตรงหน้าเขาคนนี้คือว่าที่ภรรยาของเขาจริง ๆ เหรอ? ไหนพ่อของเขาบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ใสซื่อและไร้เดียงสา แล้วยังเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักด้วยไง

“นายจะทำหน้าตกใจอะไรขนาดนั้น! คิดว่าฉันอยากแต่งงานกับนายหรือไง หลงตัวเองชะมัด” มารุทำหน้าไม่พอใจ

ผู้ชายคนนี้ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลยสักนิด ขนาดเธออยู่ในสภาพแบบนี้ เขายังไม่แสดงความเป็นห่วงหรือถามสักหน่อยว่าเธอเป็นอะไรและเกิดอะไรขึ้นกับเธอ นี่เธอแค่แกล้งลองใจเขาเฉย ๆ หากเขานิสัยดีหรือมีความเป็นสุภาพบุรุษ เธอก็อาจจะคุยกับเขาต่อได้ แต่เมื่อเขาไม่ได้เป็นเหมือนที่เธอคิด ก็คงไม่ต้องยืดเยื้ออะไรอีกแล้ว

“ในเมื่อเธอก็ไม่อยากแต่งงานกับฉัน งั้นฉันก็ขอตัว” นทีบอกพร้อมกับลุกขึ้นตัวสั่น

มารุกดไหล่เขาให้นั่งลง “เดี๋ยวสิ! นายจะรีบไปไหนล่ะ เรายังไม่ได้คุยกันเลย” เธอตะคอกเสียงใส่เขา และรับรู้ได้ว่าเขานั้นตัวสั่นแค่ไหน

มารุถูกดึงดูดความสนใจของคนแถวนั้น พนักงานเสริฟ์และผู้จัดการร้านอาหารก็ไม่กล้าเข้าไปหาเช่น เพราะร่างกายทั้งตัวของเธอเต็มไปด้วยโคลน ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิง ใบหน้าก็ถูกปกปิดไปด้วยโคลนตมสีดำ ที่สำคัญ ที่เอวของเธอยังเหน็บมีดอีโต้อันใหญ่ไว้อีกต่างหาก ไม่แปลกที่ชายหนุ่มจะตัวสั่นเพราะหวั่นกลัว และทำให้เธอตกเป็นจุดดึงดูดของคนในร้านนั้นด้วย