บทที่ 6 พูดข่มขู่คู่นัดบอด
“ฉันไม่ได้มาหานายเพื่อจะปลิดชีพนายเสียหน่อย ทำไมต้องทำท่าหวาดกลัวฉันขนาดนั้น” มารุถามพร้อมกับวางมีดอีโต้ไว้บนโต๊ะ
“ฉัน..ฉันไม่ได้กลัว..กลัวเสียหน่อย ฉันก็แค่รู้สึกหนาว..หนาวเท่านั้นเอง” ชายหนุ่มตอบอย่างกังวลพร้อมกับมองไปยังมีดอีโต้บนโต๊ะ
“นายไม่ต้องห่วงว่าฉันจะทำอะไรนาย ฉันมาที่นี่ก็เพราะทำตามคำสั่งของพ่อเท่านั้น” มารุนั่งลงข้าง ๆ เขา “ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผู้ชายกับผู้หญิงถึงต้องแต่งงานกัน ความแตกต่างระหว่างชายหญิงก็มีเพียงแค่หน้าอกที่ใหญ่กว่าเท่านั้น” มารุพูดอย่างสบาย
“ถ้าหากว่ามันไม่มีอะไรแตกต่าง แล้วทำไมพ่อและแม่ของเธอถึงต้องแต่งงานกันล่ะ” นทีหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มด้วยมือที่สั่น
“งั้นก็ไม่ต้องคุยกันแล้ว ขอเพียงแค่นายปฏิเสธและไม่ยอมรับการนัดบอดครั้งนี้ก็พอ จะบอกพ่อของนายว่ามีแฟนแล้วหรืออะไรก็ได้”
“ตกลง” นทีตอบรับอย่างง่ายดาย เขาก็ไม่กล้าที่จะแต่งงานกับผู้หญิงป่าเถื่อนแบบผู้หญิงตรงหน้าคนนี้อย่างแน่นอน แค่เจอเพียงครั้งเดียวก็ทำให้เขาเกือบหัวใจวายตายแล้ว
“งั้นก็ตามนั้น ฉันขออวยพรให้นายมีชีวิตที่ยืนยาวนะ ส่วนมีดเล่มนี้” เธอขยับมีดไปวางไว้ตรงหน้าเขา “ฉันขอมอบให้นายเพื่อเป็นของขวัญในการพบกันครั้งแรก” หลังจากที่พูดจบ มารุก็เดินออกจากร้านอาหารแห่งนั้นไปทันที โดยไม่สนใจสภาพร่างกายที่สกปรกและมอมแมมของตัวเอง
เวลา 22.00 น.
“พ่อ! ป่านนี้แล้วทำไมมารูโกะถึงยังไม่ถึงบ้าน” กาหลงเดินไปมาภายในบ้านอย่างเป็นห่วง
“บางทีพวกเขาอาจจะกำลังเดทกันอยู่ก็ได้” พิสิฐตอบพร้อมกับนั่งดูทีวีต่ออย่างสบายใจ
“ฉันไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ ว่าผู้ชายคนนั้นจะสามารถทำให้ลูกสาวของเราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ และจะยอมเดทกับเขาจนถึงเวลาแบบนี้ได้” กาหลงยังมีความกังวล
“แม่ก็อย่าคิดมากไป บางทีนทีอาจจะทำให้ลูกของเราเกิดความสนใจหรือชอบเขาขึ้นมาก็ได้”
“คุณพูดเหมือนไม่รู้จักนิสัยของลูกสาวตัวเองเลย แค่วันเดียวจะทำให้เปลี่ยนนิสัยของลูกสาวเราได้ยังไง”
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“นั่นไง รีบเปิดประตูสิ ลูกกลับมาแล้ว” พิสิฐบอก
กาหลงจึงเดินไปเปิดประตู ทันทีที่เปิดประตูและเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็ทำให้นางต้องตกใจและเกือบหัวใจวายตาย
“อ๊ากกก..ผี..ผีหลอก!” กาหลงตกใจจนตัวสั่น รีบปิดประตูอย่างแรงเพราะกลัว
“โอ๊ยยยยย..” มารุร้องด้วยความเจ็บ เมื่อประตูกระแทกใบหน้าของเธออย่างแรง “หนูเจ็บนะแม่!” เธอร้อง และจมูกก็มีเลือดไหลออกมาด้วย
“กาหลง! มีอะไร?” พิสิฐถามและเดินไปหาภรรยาที่ยืนตัวสั่นอยู่หน้าประตู
“ผี..ผี..ข้างนอก” กาหลงตอบอย่างหวาดกลัว
“คุณตาฝาดไปหรือเปล่า ที่บ้านของเราจะมีผีได้ยังไง” พิสิฐพูดแล้วก็เปิดประตูดูเพื่อความแน่ใจ
แต่เมื่อพิสิฐเปิดประตู เขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีใบหน้าสีดำ ผมเผ้ายุ่งเหยิงรุงรังและยังมีเลือดไหลตั้งแต่จมูกลงมาถึงคางอีกด้วย
“พ่อออออ” มารุเอ่ยขึ้นพร้อมกับจะก้าวเดินเข้าไปในบ้าน
“อ๊ากกกก..ผีหลอก” พิสิฐตะโกนเสียงดังพร้อมกับปิดประตูอย่างแรง จนประตูกระแทกเข้าใบหน้าของมารุอีกครั้ง
“โอ๊ยยยยยยยย” มารุร้องลั่นเพราะความเจ็บ “หนูเจ็บนะ! พ่อกับแม่จะปิดประตูใส่หน้าหนูทำไม? หนูไม่ใช่ผีนะ ทำไมถึงมองเห็นหนูเป็นผีกันล่ะ? หนูยังไม่ตายสักหน่อย” มารุตะคอกอย่างฉุนเฉียว
“แม่ ทำไมผีข้างนอกถึงเรียกเราว่าพ่อแม่ล่ะ หรือผีข้างนอกจะปลอมตัวเป็นลูกสาวของเรา” พิสิฐถามภรรยาเสียงสั่น
“ฉัน..ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ คุณอยากรู้ก็ถามเอาเองสิ” กาหลงตอบด้วยท่าทีที่หวาดกลัว
ปัง! ปัง! ปัง!
“พ่อ! แม่! เปิดประตูให้หนูเร็ว ๆ สิ หนูเจ็บจะทนไม่ไหวแล้วนะ!” มารุตะโกนเสียงสูง
“แม่! แต่เสียงข้างนอกนั้นเหมือนเสียงลูกสาวของเราเลยนะ ผีตัวนี้ยังปลอมเสียงลูกสาวของเราด้วยเหรอ?” พิสิฐถาม
“แต่นี่มันเสียงของมารูโกะชัด ๆ เลยนะ” กาหลงบอก
“พ่อ! แม่! รีบเปิดประตูให้หนูสิ หนูเจ็บจมูกมากนะ! พ่อกับแม่อยากจะฆ่าหนูหรือไง?” มารุตะโกนอีกครั้ง เธอแอบคิดว่าพ่อและแม่ของเธอจะโกรธเรื่องที่เธอทำการนัดบอดพังหรือเปล่า
“ใช่! นี่มันเสียงของมารูโกะจริง ๆ ” พิสิฐบอก
“แล้วทำไมร่างกายถึงอยู่ในสภาพแบบนั้นล่ะ” กาหลงเอ่ยก่อนจะตะโกนออกไป “นี่! เธอเป็นผีหรือเป็นคน”
“แม่! หนูเป็นลูกสาวแม่นะ ทำไมถึงแช่งให้หนูเป็นผีล่ะ” มารุเริ่มไม่พอใจ
“แล้วแกมีอะไรมายืนยัน” พิสิฐเอ่ยขึ้น
“พ่อของฉันชื่อพิสิฐ ชอบกินเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฝีมือของแม่ และยังชอบมองผู้หญิงสวย ๆ อีกด้วย”
“คุณ..” กาหลงจ้องมองสามีด้วยความโกรธพร้อมกับตีไปที่แขนของเขาแรง ๆ
“แม่อย่าไปฟังที่เธอพูดนะ! พ่อไม่ได้ทำแบบนั้นเลย” พิสิฐรีบแก้ตัว
“ส่วนแม่ของหนูชื่อกาหลง ชอบเอาไม้กวาดไล่ตีหนูบ่อย ๆ เวลาที่ทะเลาะกับพ่อก็ชอบขว้างปาหม้อและกระทะไปทั่วบ้าน”
“คำพูดแค่นี้ยังยืนยันไม่ได้หลอก” พิสิฐตะโกนออกไป
มารุจึงพูดต่อ “หลังจากกินข้าวเสร็จพ่อก็จะนอน 1-2 ชั่วโมง ส่วนคุณแม่ก็ชอบนอนกรนเสียงดัง และนอกจากนี้ เวลาหลังเที่ยงคืนของทุกวัน พ่อกับแม่ก็ชอบเล่นอะไรกันไม่รู้ เพราะหนูจะได้ยินเสียง อ๊ะ..อ้า..อุ๊ย..ว๊าย อยู่ตลอดทุกคืน หนูสงสัยจริง ๆ ว่าพ่อกับแม่เล่นอะไรกัน แล้วมันสนุกมากขนาดนั้นเลยเหรอถึงได้เล่นกันทุกวัน?”
“เธอ..เธอคือลูกของเราจริง ๆ” กาหลงบอก
“ยังจะไม่เปิดประตูให้หนูอีกเหรอ? หรือจะให้หนูพูดอะไรเพื่อยืนยันอีก”
“เธอมีหลักฐานอะไรเพื่อยืนยันตัวเองก็พูดออกมา” พิสิฐตะโกน
“เวลาที่พ่อกับแม่เล่นกัน พ่อจะพูดว่า ชอบอ้าขาแม่ให้กว้าง ๆ จะได้ทำอย่างสะดวกและเข้าไปได้ลึก ๆ หลังจากนั้นแม่ก็จะร้องกรี๊ดดด อ้าาาาา เร็ว ๆ พ่อเร็ว ๆ เอาแรง ๆ เลย แล้วพ่อก็จะส่งเสียงอุ๊ยยย..อ้าาาา..แล้วก็อะไรอร่อยนี่แหละ เหมือนพ่อจะบอกว่าแม่อร่อยมาก และมันก็แคบมาก หนูสงสัยมากนะว่าพ่อกับแม่เล่นอะไรกัน ในเมื่อมันแคบแล้วทำไมไม่เล่นกันที่กว้าง ๆ พ่อกับแม่เล่นกันแบบนี้นานเกือบชั่วโมง อุ๊ย อุ๊ย อร๊ายยย แบบนั้นแหละพ่อ แบบนั้นแหละ พ่อกับแม่เล่นกันแบบนี้ทุกวันแต่ไม่ชวนหนูเล่นบ้างเลย”
เสียงตะโกนพูดของมารุคงทำให้เพื่อนบ้านได้ยินกันหมดแล้ว พิสิฐกับกาหลงรู้สึกอับอายมากจริง ๆ พวกเขารีบเปิดประตูและดึงลูกสาวเข้ามาในบ้านทันที