บท
ตั้งค่า

ตอนที่6 แฟน

“เสร็จหรือยัง” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นทำให้ฉันเงยหน้าไปมองก่อนจะส่งยิ้มแล้วตอบคำถามเขา

“เสร็จแล้วค่ะ” ฉันบอกพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปหาร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของตัวเอง

“งั้นไปกัน” พี่วายุพูดพร้อมกับจับมือฉันแล้วจูงมือเดินไปยังลิฟท์

อัพเดทสถานะของฉันกับพี่วายุหน่อยแล้วกัน ตั้งแต่วันนั้นที่พี่วายุพาฉันไปพบลูกค้าด้วย เขาก็เปลี่ยนไปมาก

จากที่ไม่เคยพาฉันไปพบลูกค้า กลายเป็นว่าเขาพาฉันไปด้วยทุกครั้ง จากไม่เคยพูดเรื่องอื่นนอกเหนือจากเรื่องงาน เขาก็พูดคุยเล่นกับฉันทั้งเรื่องมีสาระและไร้สาระ

และที่สำคัญ เขามักจะอาสาไปส่งฉันที่อพาร์ทเม้นท์หลังเลิกงานเกือบทุกวัน และก่อนกลับเขาก็มักจะพาฉันไปกินข้าวเย็นด้วยเสมอ ยังมีสรรพนามที่เปลี่ยนไป เพราะเขาให้ฉันเรียกแทนตัวเขาว่าพี่ และแทนตัวเองด้วยชื่อ(ตอนอยู่กันสองคน)

ไม่เพียงข้าวเย็นเท่านั้น เพราะมื้อเที่ยงทุกวันนี้เขาก็มักจะชวนฉันออกไปกินด้วยกันบ่อยๆ เหมือนกัน จนตอนนี้ฉันตอบได้เต็มปากแล้วว่า ฉันรักเขามาก มากจนถอนตัวจากเขาไม่ได้แล้ว

แต่หากฉันจะรักเขามากขึ้นก็ไม่แปลกหรอก เพราะการกระทำของเขาทุกวันมันทำให้ฉันแอบเข้าข้างตัวเองบ่อยๆ ว่าเขาอาจจะรู้สึกอะไรกับฉันบ้าง เพราะเขาเป็นแบบนี้มาเป็นเดือนแล้ว แม้ว่าเขายังไม่ได้พูดถึงความรู้สึกนั้นกับฉันก็ตาม

และเพราะเหตุผลนี้ มันก็เลยทำให้ฉันยังไม่กล้าสารภาพความรู้สึกตัวเองเหมือนกัน ฉันกลัวว่าเขาจะไม่คิดเหมือนกันแล้วเปลี่ยนไป

ไม่นานรถของพี่วายุก็ขับมาจอดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงแรมหรูจนฉันต้องหันไปถามเขาด้วยความไม่เข้าใจ

“ไหนว่าจะพาไปกินข้าวไงคะ แล้วทำไม” ฉันยังถามไม่ทันจบ พี่วายุก็หันมาส่งยิ้มอบอุ่นให้ฉันก่อนจะพูดขึ้น

“ก็พามากินข้าวไง ไปกันเถอะ” พี่วายุพูดแค่นี้ก่อนจะลงจากรถตัวเอง ฉันจำต้องลงตามเขา ก่อนจะเดินเข้ามาในโรงแรมหรูแล้วตรงไปที่ลิฟท์

เวลาผ่านไปสักพักได้ ลิฟท์ก็เคลื่อนตัวนานมากเพราะว่ามันต้องขึ้นมาถึงชั้นบนสุดของโรงแรม และนั่นก็ทำให้ฉันไม่เข้าใจอีกเหมือนกัน แต่ก็เงียบปากไว้จนลิฟท์เปิดออก

พี่วายุจูงมือฉันเดินออกจากลิฟท์ก่อนจะตรงออกมาที่ประตูกระจากบานหนึ่ง

“พี่วายุ” ฉันเรียกร่างสูงออกไปด้วยความตื่นเต้น แปลกใจ และงุนงง เพราะว่าภาพตรงหน้ามันเป็นร้านอาหารแบบเอ้าดอร์บนดาดฟ้าที่สามารถมองเห็นวิวยามเย็นที่ตอนนี้เริ่มไร้แสงแดด แต่ปรากฏแสงไฟแทน

“.....” พี่วายุไม่ได้ตอบอะไรนอกจากหันมาส่งยิ้มอบอุ่นเหมือนเดิมให้ฉัน ก่อนจะจูงมือฉันเดินไปยังโต๊ะๆ หนึ่ง

เขาปล่อยมือจากฉันก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ให้ ฉันมองหน้าเขานิดหน่อยและเดินไปนั่ง แล้วพี่วายุก็เดินมานั่งฝั่งตรงข้ามฉัน

“ทำไมต้องพามากินข้าวที่นี่ด้วยคะ” ฉันพูดขึ้นอย่างทำตัวไม่ถูก เพราะที่นี่มันหรูเกินกว่าจะเหมาะกับคนอย่างฉัน แล้วอีกอย่างมันก็แค่การกินข้าวเย็นกับเจ้านายตัวเอง แต่ทำไมต้องพามาที่โรแมนติกแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ ไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้ฉันคิดไปไกลจนกู่ไม่กลับแล้ว

“ชอบไหมครับ” พี่วายุถามออกมาด้วยรอยยิ้มที่ไม่จางหายไป

“ชอบค่ะ แต่รินว่ามันไม่เหมาะกับริน” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังมาก

“อะไรที่บอกว่าไม่เหมาะ” พี่วายุเลิกคิ้วถามด้วยสีหน้าสงสัย

“ก็รินเป็นแค่เลขา พี่วายุไม่น่าพารินมาร้านแบบนี้เลยนะคะ” ถึงแม้ว่าสำหรับพี่วายุมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่สำหรับฉันมันแปลกเกินไปที่ฉันจะมานั่งที่ร้านแบบนี้

“แค่เลขา? ที่ผ่านมาสิ่งที่พี่ทำรินไม่เข้าใจเลยเหรอ” พี่วายุถามออกมาด้วยสีหน้าที่เหมือนจะน้อยใจ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจว่าเขากำลังจะบอกอะไรฉัน

“พี่วายุพูดแบบนี้ หมายความว่ายังไงคะ” ฉันถามกลับเหมือนไม่เข้าใจ แต่ภายในใจกลับเต้นระรัวแทบไม่เป็นจังหวะ

ตอนนี้ไม่รู้ว่าคำตอบอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่สมองฉันกลับคิดไปไกลต่างๆ นานา ในทางที่ดีต่อใจตัวเอง

แป๊ะ! เสียงดีดนิ้วของพี่วายุดังขึ้น ทำให้ฉันไม่เข้าใจ แต่สักพักก็มีพนักงานเดินมาที่โต๊ะอีกครั้งพร้อมกับดอกไม้ช่อหนึ่งไม่ใหญ่ไม่เล็กพร้อมยื่นให้พี่วายุ

ฉันได้แต่มองมันด้วยใจที่เต้นแรงจนกลัวว่าเขาจะได้ยิน และมันก็เต้นแรงขึ้นหลังจากพี่วายุรับดอกไม้แล้วลุกขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน

“พี่วายุ” ฉันเอ่ยเรียกชื่อร่างสูงตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย

ทำไมเขาต้องเอาดอกไม้มาให้ฉันแบบนี้ แล้วสายตาที่เขามองฉัน มันทั้งอบอุ่น และเหมือนมีบางอย่างที่ทำให้ฉันไม่อยากละสายตาจากดวงตาของเขา

“ที่ผ่านมา พี่ไม่รู้ว่ารินรับรู้ความรู้สึกของพี่หรือว่าสิ่งที่พี่แสดงออกหรือเปล่า...”

“แต่วันนี้พี่คิดว่ามันถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ที่พี่จะพูดความในใจของพี่ออกไปสักที” พี่วายุพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นลื่นหูจนเหมือนต้องมนต์

“.....” ฉันไม่ได้พูดหรือตอบอะไร นอกจากมองหน้าเขา สิ่งที่เขาพูดออกมามันทำให้ฉันคิดเป็นอย่างอื่นแทบไม่ได้เลย นอกจากคิดเข้าข้างตัวเอง และฉันก็หวังว่าสิ่งที่ฉันคิดมันจะเป็นจริงสักที

“ริน จะให้เกียรติเป็นแฟนพี่ได้ไหมครับ” พี่วายุพูดขึ้น และนั่นก็ทำให้ฉันตกใจมาก ถึงแม้จะคิดไว้แล้วว่าอาจจะได้ยินคำพูดประมาณนี้ออกจากปากเขา

“!...” ฉันนั่งนิ่งก่อนที่จะรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวที่ดวงตาลงมาที่หน้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคืออะไร

ใช่มันคือน้ำตาของฉันเอง น้ำตาแห่งความดีใจ น้ำตาแห่งความสุข ความสุขที่ฉันไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้รับมันจากผู้ชายที่ฉันแอบรักมานานแสนนาน

“ริน ร้องไห้ทำไมครับ หรือว่าพี่ทำอะไรให้รินไม่พอใจ” พี่วายุถามออกมาด้วยความร้อนรนพร้อมกับขยับเข้ามาเช็ดน้ำตาให้ฉันอย่างอ่อนโยน

“ไม่ค่ะ พี่วายุไม่ได้ทำอะไรให้รินไม่พอใจ” ฉันหาเสียงตัวเองก่อนจะพูดออกไปแล้วรีบเช็ดน้ำตาที่เหลือออกอย่างรวดเร็ว

“แล้วรินเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” พี่วายุถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม

“รินแค่ดีใจ” มันเหมือนเป็นความฝันด้วยซ้ำ เหมือนจนฉันไม่กล้าคิดว่ามันเป็นความจริงเลย แต่หัวใจที่เต้นแรงจนหน้าอกเด้งออกมามันทำให้ฉันรู้ว่านี่คือเรื่องจริง ไม่ใช่ความฝัน

“ดีใจ?” พี่วายุถามกลับด้วยสีหน้างุนงง

“ค่ะ ดีใจ ดีใจที่มีวันนี้ รินไม่คิดว่าพี่วายุจะมาขอรินเป็นแฟน” ฉันพูดออกไปตามตรง

ถึงแม้ที่ผ่านมาฉันจะแอบรักเขาและอยากให้เขามองฉันบ้าง แต่ฉันก็ไม่ได้หวังขนาดจะกล้าคิด เพราะฉันกับเขามันคนละชั้นกัน ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองคู่ควรกับเขา ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสเป็นอะไรกับเขามากกว่าลูกจ้าง

แต่แล้วอยู่ๆ เรื่องไม่คาดคิดและแทบไม่กล้าฝันก็กลับเกิดขึ้นจนฉันดีใจ ดีใจจนกักเก็บน้ำตาแห่งความดีใจนี้ไม่ได้

“พูดแบบนี้ ก็หมายความว่า...รินยอมคบกับพี่แล้วใช่ไหม” แล้วพี่วายุก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มดีใจ และนั่นก็ทำให้ฉันยิ้มออกมากับท่าทีของเขา

“ค่ะ รินตกลงคบกับพี่วายุ” จะว่าฉันใจง่ายหรือใฝ่สูงก็ตาม แต่จะให้ฉันทำยังไง ฉันรักเขาที่เขาเป็นเขา ไม่ได้รักเพราะเงินทองหรือรูปร่างภายนอกของเขา

ถึงแม้จะรู้ตัวว่าตัวเองไม่คู่ควร แต่แล้วยังไง ในเมื่อโอกาสมาถึง โอกาสจากคนที่ฉันก็รักเขาอยู่แล้ว มันจะแปลกอะไรที่ฉันจะเต็มใจรับมัน

“พี่ดีใจที่สุดเลย ขอบคุณรินมากนะที่ให้โอกาสพี่” พี่วายุพูดด้วยสีหน้าที่ดีใจเป็นอย่างมาก

“รินก็ดีใจค่ะ ไม่คิดว่าพี่วายุจะสนใจผู้หญิงธรรมดาอย่างริน” ฉันมันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้มีอะไรดีเลย แต่เขากลับมาขอฉันคบและรู้สึกดีกับฉันแบบนี้

ต่อให้ภายหน้าจะเป็นยังไงฉันก็ไม่สนใจ ขอแค่ได้ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่ฉันรักเขา แล้วตอนนี้เขาเองก็คงรักหรือรู้สึกดีกับฉันเหมือนกันให้ดีที่สุด

“ถึงแม้รินจะคิดว่าตัวเองธรรมดา แต่สำหรับพี่ รินคือคนพิเศษ” น้ำเสียงอบอุ่นที่เอ่ยขึ้นทำให้ฉันยิ้มกว้างออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

แล้วแบบนี้จะไม่ให้ฉันรักเขาได้ยังไง แบบนี้จะให้ฉันไม่พร้อมเสี่ยงทั้งที่ตัวเองไม่คู่ควรได้ยังไง

พรึ่บ! ฉันสวมกอดร่างสูงตรงหน้าที่ตอนนี้ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของฉัน และเขาเองก็กอดฉันตอบเช่นกัน

ความอบอุ่นที่ฉันไม่เคยได้รับมาแสนนาน ตอนนี้คนตรงหน้ากลับมอบและเติมเต็มมันให้ฉันได้อย่างเหลือเฟือ

“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ” ขอบคุณที่เข้ามาเติมเต็มสิ่งดีๆ ให้กับริน ขอบคุณที่เลือกรินทั้งที่รินไม่มีอะไรคู่ควร ขอบคุณที่ทำให้ชีวิตรินรู้สึกมีค่ามากขึ้น

“พี่ก็ขอบคุณรินมากนะ ที่เปิดใจให้กับผู้ชายอย่างพี่ที่อาจไม่คู่ควรกับรินเลย” พี่วายุพูดออกมาพร้อมกับลูบหลังฉันอย่างอ่อนโยน

“ไม่เลยค่ะ รินมากกว่าที่ไม่คู่ควรกับพี่วายุ แต่พี่วายุกลับไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้ ขอบคุณจริงๆ นะคะ” ถ้าเขาไม่คู่ควรกับฉัน ก็คงไม่มีใครคู่ควรกับฉันแล้วแหละ

ผู้หญิงธรรมดาที่ตอนนี้มีเพียงยายที่เป็นครอบครัว แต่ก็ต้องจากบ้านมาทำงานเพื่อเลี้ยงตัวเองและยาย ดั้นด้นทุกอย่างเพื่อมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยตัวของตัวเอง ต่างจากเขาที่เกิดมาเพียบพร้อมทุกอย่าง ทั้งหน้าตา ฐานะ การศึกษา เพียงแค่กระดิกนิ้วก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ และเป็นสิ่งที่ดีที่สุดด้วยซ้ำ แต่เขากลับมองฉัน เลือกฉัน และมอบความรู้สึกดีๆ ให้ฉัน

“ต่อจากนี้ รินเป็นแฟนพี่แล้วนะ” พี่วายุผละออกก่อนจะมองสบตาฉันแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นคงเดิม

“ค่ะ รินจะพยายามเป็นแฟนที่ดีที่สุดนะคะ” ดีที่สุดเท่าที่จะทำให้เขามีความสุขได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel