ตอนที่ 4 เดทแรกของคุณป๋าและเบบี๋
เมื่อถึงเวลานัดหนูดีก็ออกมารอลูลิสที่หน้าปากทางเข้าหมู่บ้าน รอได้เดี๋ยวเดียวคนที่อยากพาเธอไปเที่ยวก็ขับรถมาจอดตรงหน้าเธอ เด็กสาวก้าวขึ้นรถอย่างเซ็งๆ ใจอยากจะไม่มาตามนัดแต่ก็กลัวคำขู่ของเขา เกิดบ้าบิ่นทำอย่างที่พูดจริงๆ เธอคงตายแน่ๆ
สายตาคมดุมองสำรวจการแต่งกายของคนที่นั่งอยู่ข้างกาย กางเกงขาสั้นแบบที่วัยรุ่นผู้หญิงชอบใส่กัน มันขัดใจเขายิ่งนัก ดีหน่อยที่เสื้อยืดมันไม่ได้รัดรูปอะไรมากมายไม่อย่างนั้นเขาคงต้องหงุดหงิดเพิ่มแน่ๆ “ไม่กลัวร้อนเหรอเบบี๋ ถึงใส่กางเกงขาสั้นมาน่ะ”
“ไม่กลัวหรอกค่ะ แล้วนี่จะพาไปไหนเหรอคะ” หนูดีถามอย่างอยากรู้ เพราะลูอิสเล่นไม่บอกอะไรเธอเลย
“หนูอยากไปไหนล่ะ บอกป๋ามาได้เลยเดี๋ยวจะพาไปทุกที่เลย แต่ถ้าถามความคิดเห็นคุณป๋าก็ไปบ้านคุณป๋าจะได้ไม่ร้อน”
“หนูไม่ไปหรอกค่ะบ้านคุณป๋าน่ะ หนูจะไปจตุจักรอยากไปเดินซื้อของ ถ้าไม่ไปก็จอดรถหนูจะไปเอง” เธอคิดว่านักธุรกิจใหญ่อย่างเขาไม่น่าจะไปเดินในสถานที่ร้อนๆ อย่างนั้นได้ เลยพูดออว่าอยากจะไปที่นั่น
“ไม่มีปัญหาหนูอยากไปที่ไหนคุณป๋าก้จะไม่ขัด” ลูอิสรู้ทันความคิดคนตัวเล็ก คิดว่าเขาจะเดินที่ร้อนๆ ไม่ได้ อย่าหวังว่าเขาจะปล่อยไปง่ายๆ ไม่มีทางซะหรอก
จตุจักรในวันหยุดแบบนี้ ทำให้มีผู้คนมาเดินเลือกซื้อของกันมากมายทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ ในมือของหนูดีนั้นถือพัดเอาไว้คลายความร้อนให้ตัวเอง มืออีกข้างก็ถูกมือใหญ่กุมเอาไว้มั่นสะบัดเท่าไหร่ก็ไม่หลุด เลยต้องปล่อยเลยตามเลย ร้านแรกที่หนูดีพาลูอิสเดินเข้าก็คือร้านขายเสื้อผ้า มือบางไล่ดูเสื้อที่แขวนเอาไว้บนราวอย่างสนใจ เมื่อเจอตัวที่ถูกใจก็หยิบออกมาทาบที่ตัว แต่ก็ถูกมือใหญ่แย่งเอาไปเสียก่อน ทำให้เด็กสาวนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจ
“หนูชอบตัวนั้นนะคะ เอามาให้หนูเดี๋ยวนี้นะ” หนูดีแบมือขอคืน กลัวว่าถ้าตาแก่ตัวโตเอาไปแขวนไว้ที่เดิมคนที่กำลังเลือกกันอยู่จะเอาไปเสียก่อน
“คุณป๋าไม่ให้ซื้อ เป็นเด็กเป็นเล็กจะมาใส่เสื้อกล้ามได้ยังไง” เรื่องอะไรจะยอมให้เบบี๋ของเขาใส่เสื้อกล้ามเดินโชว์คนอื่นกันล่ะไม่มีทางซะหรอก
“เป็นเด็กเป็นเล็กมันเกี่ยวอะไรกัน หนูจะซื้อไปใส่นอน เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะจะไปจ่ายเงิน” คนบ้านี่จะมากะเกณฑ์อะไรเธอนักหนา รู้ว่าเธอยังเด็กอยู่ยังจะมายุ่งด้วยอีก ที่อย่างนี้ไม่เห็นจะว่าตัวเองเลย ไม่ยุติธรรมสักนิด
“ถ้าซื้อใส่นอนคุณป๋าก็ไม่ว่าแต่ถ้าซื้อใส่ออกนอกบ้านคุณป๋าไม่ยอม” ลูอิสไม่คืนแต่เดินเอาเสื้อตัวปัญหาไปจ่ายเงินให้แทน
“อยากป๋านักก็เป็นคนออกให้หมดเลยละกันนะ” หนูดีย่นจมูกใส่คนที่ยืนจ่ายเงินค่าเสื้อให้เธออย่างหมั่นไส้
“คุณป๋าร้อนมากเลยทูนหัว เราไปหาร้านกาแฟนั่งพักกันก่อนดีกว่า” เขาน่ะยังทนได้แต่สงสารคนตัวเล็กข้างกายมากกว่า ตอนนี้หน้าแดงไปหมดแล้วแต่ก็ยังอยากเดินต่อ อากาศร้อนจัดแบบนี้ไม่เหมาะแก่การเดินกลางแจ้งเลยสักนิด
“แต่เราพึ่งจะเดินกันได้แปปเดียวเองนะคะ” แม้จะร้อนแต่ก็ยังอยากที่จะเดินต่อ แต่ลูอิสส่ายหน้าไม่ยอม
“ไม่ได้ตอนนี้หนูหน้าแดงไปหมดแล้ว อยากเดินเดี๋ยวคุณป๋าจะพาไปเดินช็อปต่อในห้าง เดินตากแดดร้อนๆแบบนี้จะไม่สบายเอา” ลูอิสไม่รอให้คนตัวเล็กพูดหาข้อ้างเพื่อที่จะได้เดินต่ออีก เขารีบจูงมือบางฝ่าฝูงชนออกไปทันที ไม่หาแล้วที่นั่งตัดสินใจรีบออกไปก่อนที่คนจะเยอะมากกว่านี้ดีกว่า มันไม่คุ้มที่จะต้องมาทนร้อนและเบียดกับผู้คนมากมายขนาดนี้
“ไหนว่าจะหาร้านนั่งไงคะ ทำไมเดินมาที่จอดรถละ” หนูดีหน้างอเมื่อจะโดนพากลับเธอยังเดินไม่จุใจเลย มากับคนแก่ไม่เหมือนมากับเพื่อนเลยสักนิด
“คุณป๋าเปลี่ยนใจพาไปเดินห้างดีกว่า” ลูอิสเปิดประตูรถดันร่างเล็กหน้าตูมเข้าไปนั่ง
“มาเที่ยวกับคนแก่ไม่เห็นสนุกเลย” เสียงเล็กบ่นหงุงหงิง
“มาเที่ยวกับคุณป๋าเนี่ยดีที่สุดแล้ว อยากได้อะไรก็ได้ แถมยังบริการดีอีกต่างหาก แล้วอีกอย่างวันนี้ว่าคุณป๋าไปกี่รอบแล้ว อย่างนี้ต้องทำโทษให้หลาบจะคราวหน้าคราวหลังจะได้ไม่กล้าพูดอีก” ลูอิสคว้าคอเล็กเข้ามาใกล้ๆ แล้วจูบปิดปากเล็กๆ ที่ช่างว่านั้นอย่างหนักหน่วง
“ทีนี้จะพูดว่าคุณป๋าแก่อีกไหม หืม ถ้าพูดอีกก็จะจูบอีก” ลูอิสถอนริมฝีปากออกมาแล้วใช้นิ้วเกลี่ยเบาๆ ที่ปากบวมแดง
“ฉวยโอกาส รับว่าตัวเองแก่ไม่ได้ก็เลยหาวิธีมาลงโทษเขา” หนูดีดันหน้าคมออกห่าง เบือนหน้าแดงๆ ออกไปมองนอกกระจกแทน
“อ๊ะๆ” พอคำว่าแก่หลุดออกมาลูอิสก็ดึงแขนเด็กสาวให้หันกลับมารับจูบอีก ครั้งนี้มันนานมากกว่าครั้งแรก กว่าคนแก่จะยอมปล่อยหนูดีก็แทบจะหมดลมหายใจ
“พอแล้วค่ะหนูหายใจไม่ทัน อื้อ ปล่อย หนูไม่พูดแล้วค่ะคุณป๋าขา” เด็กสาวมุดหน้าเข้าหาอกกว้างเพื่อหลีกเลี่ยงปากร้อนๆ ลมหายใจของหนูดีหอบสะท้านจนลูอิสต้องลูบหลังปลอบประโลม เสียงหัวใจตึกตักจนเขารู้สึกได้
“หึ หึ” ลูอิสยิ้ม กดจมูกลงบนกลุ่มผมหอม แล้วเคลื่อนรถออกทั้งที่ในอ้อมแขนยังคงมีคนตัวเล็กที่ซุกหน้าอยู่กับอกของเขา สงสัยจะเขินจัดเลยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาเลย
ลูอิสพาเบบี๋ของเขามาเดินห้างตามที่ได้บอกไว้ มาถึงก็พาไปทานอาหารก่อนเป็นอันดับแรกเลย เพราะเขาเริ่มหิวแล้ว หลังจากนั้นก็พาไปซื้อข้าวซื้อของให้ทั้งที่หนูดีปฏิเสธว่าไม่อยากได้อะไร และตอนนี้ทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ที่หน้าร้านขายจิวเวอร์รี่
“สวัสดีค่ะ คุณลูกค้าต้องการแบบไหนคะ ทางร้านเรามีสินค้าเข้ามาใหม่หลายชิ้นเลยนะคะ” พนักงานสาวแนะนำสินค้าตัวใหม่ให้กับลูอิสและหนูดี
“หนูชอบแบบไหน” ลูอิสถามคนตัวเล็กที่ยืนกดโทรศัพท์เล่น ไม่มีทีท่าจะสนใจของสวยงามตรงหน้าเลยสักนิด ถ้าเป็นคนอื่นคงดี๊ด๊าไปแล้ว
“ไม่ชอบไม่อยากได้ อยากกลับบ้านแล้ว” หนูดีจะหมุนตัวเดินออกจากร้านแต่ถูกคว้าเอวเอาไว้ก่อน
“ไม่เลือกเองงั้นคุณป๋าเลือกให้นะ” ลูอิสมองสิ่งแวววาวที่สะท้อนอยู่ในตาอย่างครุ่นคิด แล้วก็ชี้นิ้วไปที่สร้อยคอที่มีจี้รูปหัวใจล้อมเพชรดวงเล็กน่ารักๆ พนักงานเลยรีบนำออกมาให้ดู
“สร้อยเส้นนี้พึ่งเข้ามาวันนี้เลยนะคะ คุณพ่อจะลองสวมให้คุณลูกสาวดูก่อนก็ได้นะคะ” พนักงานสาวยิ้มให้ทั้งคู่ หนูดีถึงกับหัวเราะคิก เมื่อพนักงานคิดว่าเธอกับลูอิสเป็นพ่อลูกกันเลยเล่นตามน้ำไปอย่างนึกสนุก แต่คนที่ไม่สนุกด้วยยืนหน้าบึ้งมองเธอกับพนักงานสาวตาขวาง
“ป๊ะป๋าลองสวมให้หนูดูหน่อยสิคะว่าจะเข้ารึเปล่า” หนูดีรวบผมขึ้นเผยให้เห็นลำคอขาวผ่อง รอให้ป๊ะป๋าจำเป็นใส่ให้
“ลองได้เลยค่ะคุณพ่อ” พนักงานก็เชียร์ให้ลองใหญ่เผื่อถ้าลูกค้าลองใส่แล้วชอบเธอก็จะได้ค่าคอม ไม่สนใจว่าลูอิสจะมีสีหน้าบูดบึ้งแค่ไหน
ลูอิสหยิบสร้อยขึ้นมาสวมใส่ให้แต่เขาไม่ได้สวมให้อย่างเดียว ยังกดจูบลงบนต้นคอขาวๆ อย่างมันเขี้ยวจนเกิดรอยแดง “ขอโทษนะครับ ผมไม่ใช่พ่อแต่เป็นผัว ทีหลังก็อย่าคิดเองเออเองอีกนะครับ ตกลงผมเอาเส้นนี้คิดเงินเลย” บัตรเครดิตถูกยื่นให้กับพนักงานที่ยืนยิ้มให้เขาอย่างแหยๆ ส่วนเบบี๋ของเขาก็มองค้อนเสียตาคว่ำ เมื่อจ่ายเงินเสร็จก็รีบเขาออกมาจากร้านทันที
“ทำไมต้องทำรุ่มร่ามโชว์คนอื่นด้วยคะ เดี๋ยวเขาก็คิดว่าหนูทำงานอย่างว่าแลกเงินหรอก ยิ่งเห็นว่ามากับคนแก่ด้วย เขาต้องคิดว่าหนูเป็นเด็กที่คุณป๋าเลี้ยงไว้แน่ๆ เลย” หนูดีหน้ายุ่ง จะถอดสร้อยที่ใส่อยู่ออกแต่ถูกมือใหญ่รั้งไว้ รู้งี้เมื่อเช้าไม่ออกมากับเขาหรอก ถ้าเกิดมีคนที่โรงเรียนมาเห็นเข้าไม่เป็นเรื่องดีสำหรับเธอแน่ๆ
“ใครจะคิดยังไงก็ช่างเขาสิ เบบี๋ของคุณป๋าไม่ได้ทำอย่างนั้นจริงๆ สักหน่อย แล้วก็ห้ามถอดสร้อยออกเด็ดขาดเข้าใจไหม” หนูดีพยักหน้าเพราะไม่อยากเถียงกับเขาตรงนี้
“หนูไม่อยากเดินต่อแล้วอยากกลับบ้าน”
“ก็ได้กลับบ้านก็กลับ” ลูอิสไม่ขัดอีกเต็มอกเต็มใจพากลับอย่างที่ต้องการ
“นี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้านหนูนี่คะ คุณป๋าจะพาไปไหนอีกเนี่ย ไหนบอกจะพาไปส่งบ้านไงคะ” หนูดีจ้องหน้าคนโกหกตาเขียว
“ก็หนูอยากกลับบ้าน แต่คุณป๋ายังไม่อยากกลับก็เลยพามาคอนโดครับนี่ไงล่ะคะ” พวงมาลัยรถถูกหักเลี้ยวเข้ามาในคอนโดหรูใจกลางเมือง เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้วลูอิสก็เปิดประตูลงมา เดินอ้อมไปด้านคนนั่งที่ยังไม่ยอมเปิดลงมา
“จะลงมาดีๆ หรือจะให้คุณป๋าอุ้มเข้าไป” หนูดีลังเลเมื่อเห็นว่าลูอิสทำท่าจะก้มลงมาอุ้มอย่างที่พูดก็รีบลงเดินเอง และอาศัยจังหวะที่คนตัวโตหยิบของออกจากรถ รีบโกยเท้าวิ่งหนีหวังจะวิ่งไปที่ลิฟต์ที่เปิดค้างอยู่ตรงลานจอดรถเพื่อลงไปข้างล่าง โชคดีที่มันอยู่ไม่ไกลและมีคนอยู่ในลิฟต์์กดค้างรอเธอเลยทำให้หนูดีเข้าไปได้ ลูอิสที่วิ่งตามมาไม่ทันเมื่อแม่ตัวแสบของเขากดปิดประตูลิฟต์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขายาวรีบวิ่งไปที่ลิฟต์อีกตัวเพื่อลงไปตามกลับมาทำโทษ
หนูดีลงมาได้ก็รีบไปที่วินมอเตอร์ไซค์ที่จอดรอให้ลูกค้าได้เรียกใช้บริการที่หน้าคอนโด ร่างเล็กขึ้นคล่อมขึ้นรถอย่างคล่องแคล่วบอกที่หมายให้พี่วินได้รับทราบ แต่ยังไม่ทันจะได้ออกตัวร่างเล็กๆ ของเธอก็ลอยหวือขึ้นมาพาดไว้ที่บ่าแข็งแรงเป็นที่เรียบร้อย
“นี่ครับค่าเสียเวลา แฟนผมไม่ไปแล้วล่ะครับ” ลูอิสหยิบธนบัตรใบสีแดงออกมาให้วินมอเตอร์ไซค์ที่ทำหน้างงๆ แล้วรีบสาวเท้าเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว