แค่เพียงเริ่มต้น(1)
ตอนที่ 3
แค่เพียงเริ่มต้น
จิรายุขยับตัวตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่กำลังแผดเสียงร้องอยู่บนหัวเตียง เขากดรับสายทั้งที่ยังตื่นไม่เต็มตาก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากปลายสาย
“อยู่ไหนตายุ นี่มันเลยเวลานัดมานานนะ!”
ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนกวาดตาไปรอบห้องมองหาชนิดา สองขายาวก้าวลงจากเตียง เขาเดินออกไปเมื่อไม่พบแม้แต่เงาของเธอก็รู้สึกหงุดหงิดใจ ขณะนั้นเองเสียงของผู้เป็นแม่ก็สอดแทรกเข้ามา ชายหนุ่มกำลังอยู่ในห้วงอารมณ์ที่คุกรุ่น เขาจึงเผลอเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง
“ผมไม่ว่าง”
“ได้ยังไงกัน ก็เราเป็นคนตกปากรับคำเองว่าจะมาพบหนูนัท!”
จิรายุพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด เขาไม่ได้เอ่ยสักคำว่าจะไปพบนัทนิสา มีแต่แม่นี่แหละที่จัดแจง ทุกอย่าง ทั้งที่เขาไม่เคยไปตกลงอะไรด้วยเลยสักครั้ง
อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ชื่นชอบลูกสาวเพื่อนแม่ผู้นี้แม้แต่น้อย แต่อีกฝ่ายก็ยังขยันหาทางเข้าหาเขาจนน่ารำคาญ
“อย่าให้แม่ต้องขายหน้านะ รีบมาได้แล้ว!”
ชายหนุ่มไม่ทันได้เอ่ยอะไรสายก็ถูกตัดทิ้งไปเสียก่อน เขาโยนโทรศัพท์ลงบนเตียงกว้างก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง นอกจากผู้เป็นแม่ที่สร้างความยุ่งยากใจให้แล้ว ก็ยังมีชนิดาอีกคนที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาไม่สบอารมณ์ในตอนนี้ ทั้งที่ในเงื่อนไขระบุชัดว่าเธอต้องอาศัยอยู่ที่นี่ แต่อีกฝ่ายกลับฝ่าฝืนคำสั่งของเขา ชายหนุ่มเสยผมลวกก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวเดินดุ่มเข้าห้องน้ำไป
ชนิดาเดินทางออกจากคอนโดหรูก่อนตรงกลับบ้านเพราะเป็นห่วงผู้เป็นพ่อ แต่เมื่อกลับมาก็พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เตียงผู้ป่วยเก่าๆที่ได้รับบริจาคถูกนำออกไปแทนที่ด้วยเตียงระบบไฟฟ้าราคาแพง อุปกรณ์พยาบาลทุกอย่างถูกเปลี่ยนเป็นของใหม่ทั้งหมด ที่สำคัญไปกว่านั้นยังมีพยาบาลวิชาชีพสองคนคอยดูแล
หญิงสาวเข้าไปเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ก่อนจะฝากฝังให้พยาบาลทั้งสองช่วยดูแลพ่อของเธอ ชนิดาเดินทางกลับมาที่คอนโดก่อนจะพบว่าจิรายุนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว
ชนิดาถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้าเขาในตอนนี้ พอนึกถึงเรื่องเมื่อครู่ใบหน้าสวยก็แดงก่ำ สัมผัสของเขายังติดตรึงในใจเธอ หลับตาลงก็เห็นเพียงแต่ภาพที่เขาเคลื่อนกายอยู่เหนือร่างชนิดาสะบัดศีรษะไล่ความคิดฟุ้งซ่านก่อนที่เธอจะนำเสื้อผ้าและข้าวของเข้าไปจัดเรียงไว้ในตู้อย่างเป็นระเบียบ
ร้านอาหารหรูบนดาดฟ้าชั้นสูงสุดของโรงแรมใจกลางเมือง จิรายุเดินตรงเข้าไปหาผู้เป็นแม่ที่กำลังนั่งคุยกับสองหญิงสาวต่างวัย คุณหญิงนรีเอ่ยทักทายลูกชายเพื่อนรักก่อนรีบลุกขึ้นและจัดแจงให้ทั้งสองได้นั่งใกล้กัน
นัทนิสาหลุบตาลงก่อนช้อนตามองชายหนุ่มข้างกาย จิรายุยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะรีบลงมือทานอาหารที่อยู่ตรงหน้า หญิงสาวเห็นชายหนุ่ไม่สนใจก็มีสีหน้าจืดเจื่อน เธออุตส่าห์ตื่นตั้งแต่บ่ายโมง จ้างเมคอัพอาร์ตติสมาช่วยแต่งหน้าให้ แถมยังลงทุนซื้อเสื้อผ้าใหม่หลักหลายหมื่น แต่ดูเหมือนว่าที่ลงทุนไปทั้งหมดนั้นจะเสียเปล่าเพราะจิรายุไม่แม้แต่จะหันมามองเธอแม้แต่นิดเดียว
“ตายุเนี่ยทำแต่งาน ไม่มีเรื่องผู้หญิงมากวนใจหนูนัทแน่นอน”
ชายหนุ่มชำเลืองมองผู้เป็นแม่ เขาอยากจะบอกความจริงอีกฝ่ายเหลือเกินว่าตอนนี้เขามีคนข้างกายแล้ว แต่เพราะเกรงใจคุณหญิงนรี จึงได้แต่ทนฟังผู้เป็นแม่โอ้อวดสรรพคุณของเขาให้อีกฝ่ายฟัง
“ลูกชายคนนี้ทำงานเก่ง พอเรียนจบก็รับช่วงทำงานต่อมาทันที ทำแต่งานจนไม่มีเวลาหาแฟน”
นัทนิสายิ้มกริ่ม เธอหมายมั่นปั้นมืออยากได้จิรายุเป็นสามีมานานแล้ว แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรเขาก็ไม่เคยสนใจ หมางเมินใส่เธอเสมอ จนสุดท้ายเธอจึงตัดสินใจเข้าทางแม่ของเขา และดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เธอนั้นต้องการ คุณหญิงจารุวรรณนั้นรักใคร่และเมตตาเธอมากๆ ทั้งยังช่วยจัดแจงทุกอย่างจนเธอไม่จำเป็นต้องวิ่งตามเขาให้เหนื่อยอีก
“พี่ยุอิ่มแล้วเหรอคะ”
น้ำเสียงอ่อนหวานเอ่ยถามขึ้น ชายหนุ่มพยักหน้า สายตาเหลือบมองหญิงสาวเพียงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะหันไปเอ่ยกับผู้เป็นแม่
“ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
นัทนิสามองตามร่างสูงที่เดินเข้าไปด้านใน เธอรู้สึกหงุดหงิดใจที่เขาเมินเฉยใส่ หญิงสาวสบสายตาผู้เป็นแม่ แววตานั้นบ่งบอกถึงความไม่พอใจที่ฉายชัด โชคดีที่คุณหญิงจารุวรรณไม่ทันเห็นเพราะมัวแต่ล้วงหาของในกระเป๋า
“วรรณ แล้วตายุน่ะเขาว่ายังไงบ้างล่ะเรื่องหมั้น”
คุณหญิงนรีเกริ่นถามขึ้น หญิงวัยกลางคนชะงักเล็กน้อยก่อนโบกไม้โบกมือทำนองว่าเธอนั้นจัดการได้
“ไม่ต้องห่วง ตายุไม่เคยขัดใจฉันหรอก”