7 ดีกว่าเดิม
เช้าวันจันทร์พิมพ์พริมาตื่นนอนตั้งแต่เช้าหญิงสาวนั่งรถเมล์มาถึงบริษัทก่อนเวลาเข้างานเกือบครึ่งชั่วโมง เมื่อมาถึงก็นั่งรออยู่บริเวณโซนรับแขกของบริษัทเพื่อรอเวลาจะเข้าไปหาหัวหน้าแผนกบุคคล
“อ้าว มาแต่เช้าเลยนะว่าน”
“สวัสดีค่ะพี่สุ” หญิงสาวยกมือไหว้หัวหน้าฝ่ายบัญชี
“เข้าไปรอที่แผนกก่อนไหมล่ะ ฝ่ายบุคคลน่าจะยังไม่มาทำงานพี่จะได้แนะนำให้รู้จักกับคนในแผนกก่อนจะไปทำเรื่องเอกสาร”
“ได้ค่ะพี่สุ”
หญิงสาวเดินตามสุกัญญาเข้ามาในแผนกซึ่งตอนนี้มีพนักงานคนหนึ่งมาทำงานก่อนหน้าเธอแล้วหนึ่งคน
“กิ่งแก้วทำอะไรอยู่”
“กิ่งกำลังหาไฟล์งานของปีที่แล้วอยู่น่ะ”
“วางงานตรงหน้าก่อนได้ไหมสุมีพนักงานใหม่จะมาแนะนำให้รู้จัก” เมื่อหัวหน้าแผนกบอกแบบนั้นกิ่งแก้วก็เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มส่งยิ้มทักทายพนักงานใหม่
“สวัสดีค่ะ” พิมพ์พริมายกมือไว้
“ว่านคนนี้ชื่อกิ่งแก้วนะทำงานที่นี่มานานพอๆ กับพี่เลย”
“สวัสดีค่ะพี่กิ่งแก้ว” หญิงสาวทักทายอีกครั้ง
“สวัสดีจ้ะ เรียกพี่ว่ากิ่งก็ได้จ้ะ ยินดีต้อนรับสู่แผนกบัญชีของเรานะจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะพี่กิ่ง ยังไงว่านขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ พี่กิ่งสอนงานว่านด้วยนะคะ” หญิงสาวรีบฝากตัว
“สุเล่าให้ฟังว่าว่านเคยทำงานบริษัทใหญ่มาก่อน พี่คิดว่าคงไม่ต้องสอนมากหรอกมั้ง”
“ถึงว่านจะทำงานในบริษัทใหญ่มาก็จริง แต่ลักษณะงานมันก็ต่างกันค่ะ พี่มีอะไรก็บอกว่านได้ตรงๆ เลยนะคะ แล้วแผนกเรามีพนักงานกี่คนคะ”
“ถ้ารวมว่านด้วยก็มีสี่คนจ้ะ นั่นไงอีกคนหนึ่งมาพอดีเลย”
“รัตน์ทางนี้ก่อน” สุกัญญาเรียกลูกน้องอีกคนที่จะแนะนำให้รู้จักกับพนักงานใหม่
“ว่านคนนี้ชื่อนารีรัตน์นะหรือเรียกว่ารัตน์ก็ได้อายุน่าจะเท่าๆ กัน”
“สวัสดีค่ะคุณรัตน์”
“ไม่ต้องเรียกรัตน์แบบนั้นหรอกเรียกว่ารัตน์เฉยๆ ก็ได้”
“คนนี้ชื่อว่านเธอจะเข้ามาทำงานแทนหญิงที่ลาออกไป”
“ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ ว่านอายุเท่าไหร่”
“ยี่สิบหกแล้วรัตน์ล่ะ”
“เราอายุเท่ากันเลย แบบนี้ค่อยคุยกันถูกคอหน่อยไม่เหมือนคุยกับคนแก่แถวนี้” นารีรัตน์พูดแล้วหันไปมองหน้ารุ่นพี่สองคนที่กำลังทำตาเขียวใส่
“ให้มันน้อยๆ หน่อยรัตน์พี่ก็แค่อายุมากกว่าเธอไปห้าปีเองไม่ได้แก่สักหน่อย” กิ่งแก้วรีบท้วง
“ก็ไม่ได้แก่หรอกค่ะ แต่พี่สองคนไม่ค่อยเข้าใจวัยรุ่นเลย มีว่านเข้ามาทำงานด้วยแบบนี้รัตน์ว่าคงไม่เหงาเท่าไหร่”
“ว่านฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ ว่านเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ ถ้าอะไรที่ทำไม่ถูกต้องก็เตือนได้เลยไม่ต้องเกรงใจ” หญิงสาวรีบออกตัว
“ที่นี่ทำงานกันแบบพี่น้องมีอะไรก็ปรึกษาและคอยช่วยเหลือกันถ้าว่านมีอะไรไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามพี่สุหรือพี่กิ่งก็ได้ ส่วนรัตน์น่ะเพิ่งเข้ามาทำงานก่อนว่านไม่นานคงยังไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่ ยังไงทั้งสองคนก็เรียนรู้การทำงานไปพร้อมๆ กันนะ”
“ได้ค่ะพี่สุ”
“เอาล่ะตอนนี้แผนกบุคคลน่าจะมาทำงานแล้วรัตน์ไปส่งว่านที่แผนกบุคคลได้ไหมล่ะ”
“ได้ค่ะพี่สุ”
“ส่งแล้วก็กลับมานะอย่ามัวแต่คุยเพลินล่ะ” สุกัญญาบอกลูกน้องเพราะรู้ว่านารีรัตน์อัธยาศัยดีมักจะคุยกับคนอื่นไปทั่วจนลืมดูเวลา
พิมพ์พริมาเดินตามหลังนารีรัตน์มายังแผนกที่อยู่ถัดจากแผนการตลาดไป
"สวัสดีค่ะ” พิมพ์พริมายกมือไหว้หัวหน้าแผนกบุคคลที่เธอเคยเจอมาแล้วเมื่อเย็นวันศุกร์
“สวัสดีค่ะพี่จิตรา รัตน์พาพนักงานใหม่มารายงานตัวค่ะ”
“ขอบใจมากนะรัตน์”
“รัตน์ไปก่อนนะ ถ้าทำเรื่องเสร็จแล้วว่านกลับไปคนเดียวได้ใช่ไหม”
“อือ ว่านกลับคนเดียวได้ รัตน์ไปทำงานเถอะ”
เมื่อนารีรัตน์เดินไปแล้วจิตราหัวหน้าฝ่ายบุคคลก็ถือแฟ้มขึ้นมา
“เดี๋ยวเราไปคุยกันที่ห้องประชุมเล็กดีกว่านะมีรายละเอียดหลายอย่างที่จะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร”
พิมพ์พริมาเดินตามหลังจิตราเข้าไปในห้องประชุมเล็ก จากนั้นจิตราก็อธิบายถึงลักษณะการทำงานกฎระเบียบต่างๆ รวมถึงแนะนำให้รู้จักผังขององค์กรซึ่งจะมีรูปและตำแหน่งติดอยู่ในแฟ้มให้เธอได้ศึกษา
“แล้วทำไมไม่มีรูปซีอีโอล่ะคะพี่จิตรา” หญิงสาวถามเพราะทุกคนมีรูปแนบไว้กับตำแหน่งที่ชัดเจนขาดก็แต่ซีอีโอคนเดียวเท่านั้น
“ก็คุณภาวินท์ไม่ยอมให้พี่เอารูปใส่แฟ้มประวัติน่ะสิ แต่ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวพี่จะแนะนำให้ว่านรู้จักกับคุณภาวินท์เอง แต่ต้องรอให้เขาว่างก่อนนะช่วงนี้เขาว่าหนักมากๆ”
“ค่ะพี่จิตรา”
“เดี๋ยวพี่จะออกไปทำงานข้างนอก ว่านอ่านสัญญาให้ละเอียดนะ ไม่เข้าใจตรงไหนมาร์คไว้พี่เข้ามาจะได้ถามและทำความเข้าใจกันถูกต้องทั้งสองฝ่ายก่อนจะเซ็นสัญญา”
“ได้ค่ะ”
เมื่อหัวหน้าแผนกบุคคลเดินออกไปแล้วพิมพ์พริมาก็นั่งอ่านระเบียบการทำงานต่างๆ รวมถึงหนังสือสัญญาจ้างงานซึ่งเงินเดือนที่เธอได้น้อยกว่าที่เดิมอยู่นิดหน่อย แต่ถ้าหากเธอผ่านช่วงทดลองงานไปแล้วเงินเดือนจะสูงกว่าที่เดิมอีกสองพันมันทำให้หญิงสาวพอใจเป็นอย่างมาก
เพราะการมาทำงานที่นี่มันใกล้กว่าบริษัทเดิมอยู่มากอีกทั้งเพื่อนร่วมงานที่เธอเจอทั้งสามคนก็ดูเหมือนจะเข้ากันกับเธอได้ดีกว่าที่บริษัทเดิมซึ่งที่นั่นมีพนักงานอยู่หลายคนและมักจะแบ่งพรรคแบ่งพวกกันซึ่งเป็นสิ่งที่พิมพ์พริมาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่เธอไม่รู้หรอกว่าอนาคตหลังจากทำงานไปนานๆ แล้วจะเป็นอย่างที่เธอเห็นวันนี้หรือเปล่า
พิมพ์พริมาคิดว่าบรรยากาศการทำงานที่บริษัทนี้ค่อนข้างแตกต่างบริษัทเดิมมากเพราะดูเหมือนทุกคนจะทำงานเป็นเหมือนครอบครัวมากกว่า
หญิงสาวนั่งอ่านหนังสือสัญญาอยู่หลายรอบก่อนที่คุณจิตราจะเดินเข้ามา
“อ่านครบแล้วใช่ไหม”
“ค่ะพี่”
“มีปัญหาตรงไหนจะถามพี่หรือเปล่า”
“คิดว่าไม่มีปัญหาค่ะ”
“ถ้ายังงั้นว่านก็เซ็นชื่อลงในหนังสือสัญญาได้เลย ส่วนบัตรพนักงานพี่ทำไว้ให้แล้ว” เธอพูดพร้อมกับส่งบัตรให้กับพิมพ์พริมา
“ขอบคุณค่ะพี่จิตรา” หญิงสาวรับบัตรพนักงานพร้อมสายห้อยคอของตัวเองมาคล้องไว้ตอนนี้เธอเป็นพนักงานที่นี่แล้ว เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยหญิงสาวเดินกลับมายังแผนกของตัวเอง
เช้าวันนี้เธอยังไม่ได้เริ่มงานอะไรเพราะต้องเคลียร์โต๊ะทำงานกว่าทุกอย่างจะเข้าที่ถึงเวลารับประทานอาหารกลางวันพอดี
พี่สุกัญญาพาทุกคนมายังร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆ กับบริษัทและถือโอกาสนี้เลี้ยงต้อนรับพนักงานใหม่อย่างพิมพ์พริมาเพราะเธอมีลูกเล็กที่ต้องดูแลจึงไม่สะดวกที่จะจัดงานเลี้ยงในเวลาเย็น