6 สักวันคงได้เจอกัน
คุณสุกัญญาแจ้งเรื่องรับพนักงานใหม่ไปยังแผนกบุคคลเพื่อจัดเตรียมเอกสารและสัญญาต่างๆ ไว้รอหญิงสาวที่จะมาทำงานในวันจันทร์ หลังจากคุยกับหัวหน้าฝ่ายบุคคลเสร็จแล้วเธอก็เดินกลับมาจากแผนกระหว่างนั้นก็เจอกับภาวินท์เจ้าของบริษัทที่ออกจากห้องประชุมมาพอดี
“สวัสดีค่ะคุณภาวินท์”
“สวัสดีครับพี่สุ เรื่องรับพนักงานฝ่ายบัญชีเป็นยังไงบ้าง” เขาเรียกสุกัญญาด้วยความสนิทสนมเพราะเธอเป็นพนักงานสิบคนแรกที่เขารับเข้ามาทำงานตั้งแต่เปิดบริษัท ชายหนุ่มนับถือสุกัญญาเสมือนพี่สาวคนหนึ่ง
“สุเรียกเข้ามาคุยวันนี้แล้วค่ะ”
“แล้วเป็นยังไงบ้างครับถูกใจพี่สุหรือเปล่า”
“พี่ว่าเด็กคนนี้หน่วยก้านใช้ได้เลยนะคะเธอเคยทำงานในบริษัทXXXมาก่อน” สุกัญญาบอกข้อมูลของพนักงานคนใหม่ให้กับเจ้านายได้รับทราบ
“ถ้าเธอเคยทำงานในบริษัทใหญ่ขนาดนั้นแล้วทำไมถึงมาสมัครที่บริษัทเราล่ะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าพี่สุสืบดูแล้วใช่ไหม”
“พี่สืบดูแล้วค่ะ ในส่วนของการทำงานเธอเป็นคนทำงานใช้ได้เลยทีเดียวหัวหน้าฝ่ายบัญชีที่นั่นพี่ก็พอรู้จักอยู่บ้าง”
“แล้วเขาบอกไหมครับว่าทำไมเธอถึงลาออกแล้วมาทำงานกับเรา”
“จริงๆ แล้วเรื่องนี้มันเป็นความลับของพนักงานแต่พี่จะบอกคุณภาวินท์ก็ได้เพราะยังไงคุณก็เป็นเจ้านาย”
“ความลับอะไรเหรอครับพี่สุ”
“ก็คือเธอเลิกกับแฟนน่ะ ก็เลยไม่อยากทำงานที่เดียวกับแฟน”
“ถ้าเธอแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออกแบบนี้ ผมกลัวว่าถ้าเกิดมาทำงานที่นี่แล้วทะเลาะกับแฟนขึ้นมาเธอจะไม่ลาออกอีกเหรอครับพี่สุ” ภาวินท์กลัวว่าพนักงานใหม่จะมีปัญหาและเขาก็ไม่อยากจะเปลี่ยนพนักงานบัญชีบ่อยๆ
“ถ้ามีแฟนแล้วเลิกกันธรรมดาก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะแต่เท่าที่พี่ฟังมาคือแฟนของเธอคบกับอีกคนหนึ่งในบริษัท ถ้าเจอแบบนี้พี่ก็คงจะลาออกเหมือนกันใครจะทนมองแฟนเก่ากับแฟนใหม่ได้ทุกวันล่ะคุณภาวินท์ว่าจริงไหม”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็น่าเห็นใจเธอเหมือนกันนะครับ ผมถึงไม่มีแฟนไงล่ะมีแล้วปวดหัวเปล่าๆ”
“ถึงคุณภาวินท์จะไม่มีแฟนแต่เดี๋ยวคุณท่านก็คงจะหาแฟนให้คุณภาวินท์เองแหละค่ะ”
“พี่สุอย่าพูดแบบนั้นสิผมยิ่งกลัวๆ อยู่”
“พี่พูดความจริงคุณภาวินท์พร้อมทุกอย่างแล้วพี่ว่าควรจะมีครอบครัวได้แล้ว ”
“ผมยังไม่เจอคนที่ถูกใจเลย”
“เปิดใจหน่อยสิคะ ถ้าคุณภาวินท์ยังไม่คบหาใครเดี๋ยวคุณท่านก็ต้องหาผู้หญิงมาให้ พี่พูดแบบนี้พูดในฐานะคนที่รู้จักกับคุณมานานอย่าโกรธกันนะคะ”
“ผมไม่โกรธพี่สุหรอกครับพี่สุก็เหมือนพี่สาวของผมคนหนึ่ง”
“ถ้าไม่อยากให้คุณท่านหาแฟนให้จะให้พี่ช่วยหาก็ได้นะคะ”
“แม่ผมต้องให้พี่สุมาพูดเรื่องนี้กับผมแน่ๆ เลย ผมไม่อยากจะคุยกับพี่สุแล้วขอตัวก่อนนะครับ ว่าจะเข้าไปดูโครงการบ้านจัดสรรสักหน่อย”
“ทำไมเดี๋ยวนี้คุณภาวินท์ไปดูโครงการเองบ่อยจังคะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าแล้วโฆษิตล่ะคะ”
“เพลิงมีปัญหาทางบ้านนิดหน่อยนะผมเลยไปดูงานแทน”
“แบบนี้ก็คงเหนื่อยแย่ พี่ว่าคุณภาวินท์น่าจะหาผู้ช่วยสักคนเวลาออกไปดูไซต์งานจะได้ไม่ต้องขับรถเองให้เหนื่อย”
“ผมไม่อยากยุ่งยากนะครับพี่ ไปทำงานคนเดียวมันคล่องตัวกว่า อีกอย่างผมก็มีเลขาที่คอยรับงานอยู่ที่ออฟฟิศแล้วถ้ารับผู้ช่วยมาเพิ่มอีกก็เกรงว่าหน้าที่จะซ้ำซ้อนกัน”
“นั่นสิคะ พี่ก็ลืมคิดถึงข้อนี้ไปเลยถ้ายังไงคุณภาวินท์ก็หาเวลาพักผ่อนบ้างนะคะ”
“ขอบคุณครับพี่สุ แต่พรุ่งนี้ก็เสาร์อาทิตย์แล้วผมคงได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ว่าแต่พนักงานคนใหม่จะเข้ามาเริ่มงานได้ตอนไหนล่ะ”
“เธอจะเข้ามาวันจันทร์ค่ะ”
“เร็วอย่างงั้นเชียวเหรอครับ”
“ก็เธอว่างงานมาถึงสองเดือนแล้วนะ พี่สังเกตว่าเธอมีความกระตือรือร้นที่อยากจะเริ่มงาน”
“ผมหวังว่าคนที่รับเข้ามาใหม่จะช่วยงานพี่สุได้มากนะครับ”
“พี่เองก็หวังอย่างนั้นเหมือนกันพนักงานบัญชีที่ทำงานเก่งๆ มีความซื่อสัตย์และทำงานเข้าขากันได้ดีมันหายาก”
“ผมเห็นด้วยกับพี่นะครับ”
“พี่ยังนึกเสียดายอยู่เลยที่หญิงเขาลาออกไปแบบนั้น” สุกัญญาหมายถึงพนักงานชื่อหญิงที่ลาออกไปอย่างกะทันหันเพราะจะไปแต่งงานกับแฟนหนุ่มและย้ายตามไปทำงานที่ต่างจังหวัด
“มันก็ไม่แน่นะครับพี่สุบางทีพนักงานคนใหม่ที่พี่สุรับเข้ามาทำงานครั้งนี้จะทำงานได้ดีกว่าคนที่ลาออกไปก็ได้”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีสิเพราะพี่รู้สึกถูกชะตากับเธอมากๆ”
“ผมชักอยากจะรู้จักพนักงานคนใหม่แล้วสิ ถ้ายังไงมีโอกาสผมจะแวะไปที่แผนกนะ”
“ให้พี่พาเธอมาแนะนำให้คุณภาวินท์รู้จักดีไหม”
“ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวคนอื่นจะมองว่าเธอมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น เอาไว้ผมจะแอบไปสังเกตเองก็แล้วกัน”
“ได้ค่ะถ้ายังงั้นพี่ขอตัวก่อนนะคะ”
เมื่อคุยกับสุกัญญาเสร็จแล้วภาวินท์ก็ลงมายังลานจอดรถเขาขับรถไปดูโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่มีปัญหาเมื่อครั้งก่อนชายหนุ่มคุยกับโฟร์แมนอยู่พักใหญ่ก่อนจะเข้าไปนั่งพักในตู้คอนเทนเนอร์ที่ดัดแปลงเป็นออฟฟิศชั่วคราว
ภาวินท์ดูรายงานต่างๆ รวมถึงสรุปความคืบหน้าของการก่อสร้างแล้วสีหน้าก็เครียดเพราะโครงการล่าช้าไปกว่าที่คิดเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาฝนตกอย่างหนักทำให้การก่อสร้างทำได้อย่างไม่เต็มที่
ฤดูฝนถือเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของการทำงานลักษณะนี้แต่จะให้หยุดทำไปเลยมันก็เป็นไปได้ยากเพราะคนงานยังต้องกินต้องใช้จะให้หยุดอยู่บ้านเฉยๆ ระหว่างฤดูฝนก็คงเป็นไปไม่ได้
ชายหนุ่มตรวจเอกสารบางอย่างเสร็จจากนั้นเขาออกมาเดินดูคนงานและแวะคุยกับโฟร์แมนอีกเล็กน้อยก่อนจะขับรถออกมาจากโครงการ
ภาวินท์จอดรถที่หน้าก๋วยเตี๋ยวร้านเดิมแต่ยังไม่ลงจากรถเพราะเขาจะรอเจอผู้หญิงคนเมื่อวานซึ่งเขาพลาดมากที่ไม่ได้ถามชื่อและขอเบอร์โทรศัพท์เธอไว้
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงอยากจะเจอเธออีกครั้งบางทีอาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มกับดวงตากลมโตที่เห็นแล้วรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะลองทำความรู้จักเธอดู
ภาวินท์นั่งอยู่ในรถนานนับชั่วโมงแต่ก็ยังไม่เห็นเธอมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ชายหนุ่มจึงคิดว่าจะมาดักรอเจอเธออีกครั้งในวันอื่นเพราะตอนนี้เขาทั้งเหนื่อยและง่วงอยากจะพักผ่อนเต็มทีเนื่องจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาทำทั้งงานที่ออฟฟิศเลยขับรถมาดูไซต์งานก่อสร้างเกือบทุกวัน
เมื่อกลับมาถึงห้องก็พักอาบน้ำและเตรียมเข้านอนแต่ใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นก็ยังอยู่ในความทรงจำ นานแล้วที่ภาวินท์ไม่เคย รู้สึกอยากจะทำความรู้จักกับใครมากๆ แบบนี้มาก่อน ถ้าจำไม่ผิดครั้งสุดท้ายที่ก็ตั้งแต่ตอนที่เรียนจบและเข้าทำงานใหม่ๆ
ผ่านมาตอนนี้ก็หลายปีแล้ว ภาวินท์รู้สึกว่าเธอมีแรงดึงดูดบางอย่างทำให้เขาอยากทำความรู้จักมากขึ้นและเขาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
ชายหนุ่มคิดว่าคงมีสักวันที่จะมีโอกาสได้เจอกับหญิงสาวอีกครั้งเพราะดูแล้วเธอน่าจะอาศัยอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น มันคงมีสักวันที่เธอออกมาทานก๋วยเตี๋ยวร้านเดิม