4
4
“ครับ ผมชอบคนตรงไปตรงมา เปิดเผย ไม่มีลับลมคมใน งั้นผมขอถามคุณตรง ๆ”
“ถามอะไรคะ”
“คุณกับตะวัน ฤกษ์ดี เคยเป็นแฟนกันใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ รักษ์เคยบอกคุณไปแล้ว”
“ตอนนี้ตะวันกำลังจะหมั้นกับน้องสาวของผมครับ” เขาก็บอกเธอตามตรงเช่นกัน นั่นทำให้รสาถึงกับตาโต
“ที่แท้ว่าที่คู่หมั้นของตะวัน ก็คือน้องสาวของคุณเหรอคะ” ว่าแล้วทำไมนามสกุลถึงเหมือนกัน
“ใช่ครับ” เขาตอบตามตรงไม่ปิดบัง
“งั้นคุณคงไม่อยากคบหากับรักษ์หรอกค่ะ” เธอทำท่าจะลุกหนี เพราะคิดว่าเขากำลังไล่ให้เธอไปไกล ๆ ใครจะอยากยุ่งกับแฟนเก่าของว่าที่น้องเขยตัวเองกันล่ะ
“เดี๋ยวก่อนสิครับ” เขารั้งเธอ ด้วยการกุมมือเธอเอาไว้ เธอจึงมองเขานิ่ง ก่อนจะนั่งลงที่เดิม เขาจึงดึงมือออกอย่างสุภาพ
“คุณมีอะไรกับรักษ์อีกเหรอคะ” ในเมื่อเขาประกาศว่าเป็นพี่ชายของกันติมา ก็เหมือนจะบอกเธอว่าเขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเธออีก
“หากคุณจะคบกับผม ผมก็ไม่ติดนะครับ ผมไม่สนว่าคุณจะเคยเป็นแฟนใครหรือคบกับใครมาก่อน แต่ถ้าเลิกกันแล้ว ก็คือเลิกกันไปแล้ว ถ้าคุณไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับคนรักเก่าอีก ผมก็อยากที่จะคบหากับคุณครับ” เขาตรงมาก มากจนเธอนึกทึ่ง ผู้ชายคนนี้ทำไมดูเป็นคนดีจังนะ
“คุณไม่คิดว่ารักษ์จะมาปอกลอกเอาเงินของคุณเหรอคะ รักษ์บอกไปแล้วว่ารักมีสภาพชีวิตเป็นยังไงในตอนนี้” เธอเอ่ยถามเขาตรงๆ นาน ๆ จะได้เจอผู้ชายจริงใจสักคน
“ไม่หรอกครับ ถ้าคบกันแล้วผมก็ยินดีช่วยคุณในทุก ๆ เรื่อง”
“ทำไมคุณดูเป็นคนดีจังเลยค่ะ” เธอเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“ผมไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้นหรอกครับ”
“ทุกคนทำอะไรลงไปคงหวังผลทั้งนั้นใช่ไหมคะ”
“ก็ไม่เสมอไปหรอกครับ สิ่งที่ผมอยากได้จากคุณ ผมคาดหวังให้คุณเต็มใจด้วยนะครับ”
“อะไรเหรอคะ” ถามแล้วต้องกัดปากตัวเอง อีกทั้งยังหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู
“คุณเองก็รู้ครับ”
“รักษ์ขอคิดดูก่อนได้ไหมคะ เราเพิ่งตัดสินใจคบกันเอง”
“ผมเคยบอกว่าไม่ชอบบังคับจิตใจใคร คุณอย่าคิดมากเลยครับ”
แต่ค่ารักษาบิดาที่ต้องเคลียร์ ค่ากินค่าอยู่ของมารดา และพี่ชายที่โดนใส่ร้าย ต้องรื้อคดีใหม่ต้องใช้เงิน เธอจะไปหาเงินที่ไหน ตอนนี้ก็กำลังตกงานอีก
รสาลองไปสมัครงานดูอีกหลายที่ แต่ก็ไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงานเลย ทำให้เธอเริ่มที่จะท้อ
“ตอนนี้คุณรสาไปสมัครงานทั่วเลยครับ แต่ไม่มีใครรับเข้าทำงาน อาจเพราะงานของคุณรสาเป็นงานเฉพาะ และทุกที่ก็มีคนของตัวเองอยู่แล้ว ไม่มีใครมีนโยบายจะรับพนักงานเพิ่มครับ ส่วนคุณตะวันก็ตามไปตอแยคุณรสาครับ แต่เธอไม่เล่นด้วย คอยหนีตลอดครับ”
“อย่างนั้นเหรอ รสาเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรีพอสมควรเลยนะ เธอไม่เคยเอ่ยปากขอเงินฉันเลย นายไปจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลพ่อของเขาด้วย แล้วก็เอาเงินนี่ไปให้แม่ของเขาใช้จ่ายในระหว่างดูแลคนป่วยด้วย” ไตรจักรเอ่ยกับลูกน้อง
รสามาถึงโรงพยาบาลด้วยความห่อเหี่ยว เธอกัดปากตัวเองจนเจ็บ จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าโรงพยาบาลให้บิดากันนะ เธอผัดผ่อนมาหลายรอบแล้ว ไม่นานคงโดนไล่ออกจากโรงพยาบาลแน่ ๆ
เธอไปติดต่อที่การเงินด้วยจิตใจที่ไม่เป็นสุข กัดปากจิกมือเข้ากับกระโปรงตัวที่สวมอยู่ ต้องมาผัดผ่อนอีกรอบเขาคงไม่ยอมแล้วจริง ๆ ในครั้งนี้
“ค่ารักษาของคุณพ่อของคุณเคลียร์ไปแล้วนี่คะ” เจ้าหน้าที่แจ้งมาเช่นนั้น ทำให้รสาประหลาดใจเป็นอันมาก
พอมาถึงห้องพักผู้ป่วย มารดาก็เอ่ยขอบอกขอบใจเธอเป็นการใหญ่
“เจ้านายของลูกเอาเงินมาให้ บอกว่าค่าจ้างที่ลูกไปทำงานให้ ดีจังเลยจ้ะ”
“เจ้านายเหรอคะ” เธอขมวดคิ้วเข้าหากัน อยากรู้ว่าใครเป็นคนจ่ายเงินทั้งหมดให้เธอ แล้วก็คิดถึงไตรจัก หรือว่าจะเป็นเขา
เธอรีบกดโทร. หาเขาในทันที เพื่อถามเรื่องที่สงสัย
“คุณจ่ายค่ารักษาคุณพ่อแล้วก็ให้เงินคุณแม่รักษ์เหรอคะ”
“ใช่ครับ”
“คุณอยู่ไหนคะ ฉันอยากเจอ”
“คุณอยู่ไหนล่ะ เดี๋ยวผมไปรับ อยู่โรงพยาบาลหรือเปล่า”
“ค่ะ”
“งั้นรอผมอยู่นั่นนะครับ อีกสิบนาทีผมจะแวะไปรับคุณ กำลังจะไปกินข้าวพอดี ผมกำลังหาเพื่อนกินข้าวอยู่ครับ”
เขามารับเธอที่โรงพยาบาลก่อนจะมาทำความรู้จักกับครอบครัวของเธอ บอกว่าเป็นเจ้านาย เธอก็ได้แต่เออออห่อหมก มารดานั้นขอบอกขอบใจเป็นการใหญ่ที่เขาช่วยเหลือพวกท่านเอาไว้
รสากัดปากตัวเองเล็กน้อย เธอพยายามปิดบังปัญหาทุกอย่าง แต่มารดาที่รักก็ยังรู้ทุกเรื่อง เธอไม่สามารถปิดบังท่านได้จริง ๆ
ถ้าเป็นหนังสักเรื่องพระนางคงมีแต่ฉากกินข้าวด้วยกัน เธอมองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างสุภาพแต่ดูเอร็ดอร่อยนั้นจนเพลิน
“คุณพ่อของคุณอาการเป็นยังไงบ้างครับ”
“อาการไม่ดีขึ้นเลยค่ะ คุณแม่ก็เครียดและทุกข์ใจมาก”
“แต่ดูเหมือนคุณจะทุกข์ใจยิ่งกว่านะครับ”
“คุณทำแบบนี้ทำไมคะ”
“ทำอะไรครับ”
“ช่วยเรื่องเงินน่ะค่ะ”
“คุณกำลังคบกับผมอยู่ จำไม่ได้หรือไงครับ ผมก็ต้องช่วยคุณสิ”
“คุณอยากได้ตัวรักษ์เหรอคะ วันนี้ก็ได้ค่ะ” เขามีบุญคุณช่วยเธอเอาไว้ แค่เสียตัวให้เขาช่างหัวมันเถอะ
“สีหน้าของคุณไม่ได้บอกว่าอยากทำแบบนั้นเลยนะครับ อย่าฝืนตัวเองเลยครับ”
“คะ” เธอมองเขาอย่างแปลกใจ
“ผมช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจ และไม่ชอบบังคับจิตใจใครด้วยครับ ผมอยากให้คุณเต็มใจมากกว่า”
เธอคิดว่าผู้ชายเพียบพร้อมแบบเขา จะนอนกับผู้หญิงสักคนไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย แต่เขาก็ดูไว้ตัวพอสมควร
“รักษ์เต็มใจค่ะ”
“ไม่หรอกครับ ปากคุณบอกเต็มใจ แต่สีหน้าแววตาของคุณไม่ใช่ อาหารร้านนี้อร่อยนะ คุณต้องกินเยอะ ๆ นะครับ ผมว่าคุณผอมไปมากกว่าเมื่อหลายเดือนก่อน ผมชอบหุ่นเดิมของคุณเมื่อหลายเดือนก่อนมากกว่า” เขาตักอาหารให้เธออย่างใส่ใจ เปลี่ยนเรื่องคุยให้เธอผ่อนคลายมากขึ้น
“ขอบคุณค่ะ” เธอรับคำ ตักกินแล้วพบว่าอาหารร้านนี้อร่อยจริง ๆ เธอประหลาดใจที่เขาใส่ใจแม้กระทั่งน้ำหนักตัวของเธอ
นานแค่ไหนแล้วนะที่เธอไม่ได้กินอาหารอร่อยแบบนี้ พักหลังมานี้เธอได้แต่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปประทังชีวิต
คนที่ไม่เคยลำบากหรือไม่มีเงินเลยสักบาท คงไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของเธอในเวลานี้