4 พรหมลิขิต
ปิดเทอมมาได้หนึ่งสัปดาห์แล้วปลายฟ้าค่อนข้างเหงาแต่ยังโชคดีที่วันนี้บิดามารดากลับจากการทำงานต่างประเทศหญิงสาวเลยไปหาท่านทั้งสองที่บ้าน
“สวัสดีค่ะแม่ สวัสดีค่ะพ่อ”
“เป็นไงมั่งล่ะลูกสาวของพ่อ ปิดเทอมแล้วอยากไปเที่ยวที่ไหนไหม”
“หนูอยากไปเที่ยวทะเลค่ะ แม่กับพ่อไปกับหนูไหม”
“แม่ก็อยากไปนะลูก แต่งานของแม่ก็รัดตัวเหลือเกินนี่แม่กับพ่อก็กลับมาพักที่เมืองไทยอีกสามวันเราก็จะต้องไปสิงคโปร์กันอีกแล้ว”
“แม่กับพ่อคงเหนื่อยมากๆ เอาไว้หนูจะรีบเรียนจบแล้วมาช่วยแม่ทำงานนะคะ”
“เรียนจบแล้วแม่อยากให้หนูต่อปริญญาโท”
“แต่หนูอยากช่วยงานแม่กับพ่อนี่คะ หนูอยากทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เรียนที่เมืองไทยก็ได้ค่ะ หนูจะได้เข้าไปช่วยงานที่บริษัทนะคะ”
“พ่อสอนงานหนูให้เก่งเลยแล้วต่อไปหนูจะเป็น CEO สาวที่สวยที่สุด”
“ขอเป็นแค่ CEO สาวได้ไหมคะ หนูไม่อยากแย่งตำแหน่งสวยที่สุดไปจากแม่”
“แต่หนูฟ้าของพ่อก็สวยจริงนะ สวยเหมือนแม่เลยไม่มีผิดเลย นี่อายุเยอะแล้วยังสวยเหมือนสาวๆ ทำให้พ่อตกหลุมรักได้ทุกวัน”
“คุณก็พูดอะไรแบบนั้นต่อหน้าลูกนะคะ” เพ็ญนภาเอามือตีไปที่แขนของสามีเบาๆ
“ก็มันจริงนี่คุณสวยสำหรับผมที่สุดเลยนะ” เฮนรี่ชมภรรยาสาวที่ยิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งรักมากขึ้น
“เมื่อไหร่พ่อกับแม่จะเลิกหวานกันสักทีนะคะ ตั้งแต่พ่อแต่งงานกับแม่ หนูฟ้าไม่เคยเห็นแม่กับพ่อทะเลาะกันเลยสักครั้งแถมยังหวานใส่กันตลอด”
“เพราะพ่อรักแม่ของฟ้ามากไงล่ะ พ่อก็ต้องหมั่นเติมความหวานว่า แต่ลูกสาวของพ่อก็อายุ 20 แล้วมีหนุ่มๆ เข้ามาจีบบ้าง”
“สวยอย่างนี้จะไม่มีได้ยังไงล่ะพ่อ”
“พาเขามาแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จักดีไหมล่ะจะได้ช่วยดูว่าเหมาะสมกับลูกหรือเปล่า”
“หนูปฏิเสธไปหมดแล้วค่ะ”
“อ้าว....ทำไมล่ะลูก” เพ็ญนภาถามลูกสาวด้วยความแปลกใจเธอเป็นแม่สมัยใหม่ที่ยอมให้ลูกสาวมีแฟนได้ขอแค่ใครคนนั้นทำให้ลูกสาวเธอมีความสุขก็พอ
“หนูฟ้ายังไม่อยากมีแฟนค่ะแม่”
“หนูยังไม่ลืมเรื่องในอดีตใช่ไหม”
“ก็ประมาณค่ะหนูกลัวแบ่งเวลาไม่ถูก”
“ฟ้าของแม่โตแล้ว นะแม่ว่าฟ้าน่าจะแบ่งเวลาถูกและเรื่องในอดีตมันก็จะเป็นบทเรียนให้หนูจัดการตัวเองได้ แม่ไม่ได้ส่งเสริมให้หนูรีบมีแฟน แต่แม่เข้าใจว่าวัยรุ่นสมัยนี้ก็มีแฟนกันบ้าง แต่ถ้าหนูไม่อยากมีก็ไม่เป็นไร”
“ถ้าฟ้ายังไม่เจอคนที่ถูกใจให้พ่อช่วยหาไหม”
“ไม่เอาหรอกค่ะหนูหาเองดีกว่า หนูว่าพ่อต้องแนะนำลูกชายของเพื่อนให้รู้จักอีกแน่ๆ แล้วหนูก็ยังไม่รีบมีแฟนตอนนี้หรอกค่ะ หนูอยากอยู่กับแม่และพ่อมากกว่า”
“ทำเป็นพูดดีไป พอมีแฟนและขี้คร้านจะลืมแม่” เพ็ญนภาเอ่ยแซวลูกสาว
“แม่ขา ถ้าเกิดหนูมีแฟนขึ้นมาจริงๆ แม่กับพ่อจะว่าอะไรมั้ยคะ”
“แม่ไม่ว่าหรอกลูก หนูโตพอที่จะรับผิดชอบตัวเองได้แล้วเรื่องมีแฟนมันก็เป็นเรื่องปกติ”
“แล้วพ่อล่ะคะ หนูขอมีแฟนได้ไหม”
“ได้สิแต่ผู้ชายคนนั้นต้องรักฟ้าของพ่อจริงๆ นะไม่ใช่ว่าคิดจะเข้ามาหลอกลูกสาวพ่อ พ่อไม่ยอมเด็ดขาด” เฮนรี่ทำเสียงเข้มถึงแม้ปลายฟ้าจะใช่ลูกแท้ๆ แต่เขาก็รักเธอมาก
“ถ้าหนูคิดจะมีแฟนหนูจะมาพาเขามาแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จักนะคะ ถ้าพ่อไม่ให้ผ่านหนูก็จะเลิกทันทีเลยค่ะ” ปลายฟ้าพูดอย่างประจบ
“พูดง่ายแต่มันทำยากนะฟ้า คนเรารักชอบใครสักคนมันก็ยากที่จะเลิก แต่แม่ว่าฟ้าของแม่ฉลาดพอที่จะรู้ว่าใครเขาจริงจังกับเราหรือแค่อยากจะมาเล่นๆ กับเรา”
“หนูฉลาดเรื่องเรียนค่ะแม่ แต่เรื่องนี้หนูคิดว่าตัวเองโง่ที่สุด”
“มันไม่ขนาดนั้นหรอกจ้ะลูก”
“แม่คะ แม่รู้ได้ยังไงคะว่าพ่อจริงจังกับแม่” ปลายฟ้าไม่เคยถามเรื่องนี้กับมารดามาก่อน แต่วันนี้หญิงสาวอยากจะรู้เพราะเธอโตพอที่จะเข้าใจความรักบ้างแล้ว
ที่ถามเพราะมารดาของเธอเป็นหม้ายและตอนที่ผู้ชายคนนี้เข้ามาจีบใหม่ๆ ปลายฟ้าก็เพิ่งอายุได้สามขวบ
“แรกๆ แม่ก็กลัวว่าพ่อจะมาหลอกเหมือนกันเพราะมันหายากที่ผู้ชายจะมาชอบแม่หม้ายลูกติด ตอนนั้นฟ้าก็ยังเด็กมากเวลาเขามารับแม่ไปเที่ยวฟ้าก็ต้องไปกับเขาทุกครั้ง”
“แล้วทำไมพ่อถึงชอบแม่ล่ะคะ” ปลายฟ้าหันไปถามพ่อเลี้ยงของตนเองที่เธอรักเขาเหมือนกับพ่อแท้ๆ
“มันอธิบายยากนะฟ้า แม่เขาทำงานเป็นเลขาของเพื่อนพ่อ แต่เพื่อนพ่อย้ายบริษัทไปที่อื่น เขาก็เลยให้แม่มาทำงานกับพ่อ ครั้งแรกที่เห็นแม่ของหนูแล้วพ่อก็รู้สึกตกหลุมรักเลย”
“พ่อรู้ไหมว่าแม่มีลูกแล้ว”
“รู้สิ เพื่อนพ่อบอกแต่พ่อไม่สนใจเรื่องนั้นเลย ตกหลุมรักเขาไปแล้วเรื่องอื่นก็ไม่สนใจอีกแล้ว”
“แต่ตอนนั้นแม่ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์นะคะพ่อ” ปลายฟ้าถามต่อ
“เรื่องนั้นมันไม่สำคัญสำหรับเลยนะเพราะรักก็คือรักไม่มีอะไรมาห้ามพ่อได้หรอก ยิ่งได้อยู่ใกล้ชิดได้ทำความรู้จักพ่อก็รักแม่ของหนูมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ก็รักมากกว่าวันอีกนะ” เฮนรี่บอกลูกสาวแขนข้างหนึ่งกอดภรรยาไว้ส่วนอีกข้างก็กอดลูกสาว
“พ่อบอกว่ารักแม่ของหนูมากแล้วทำไมพ่อถึงไม่มีลูกกับแม่ล่ะคะ”
“จะต้องมีลูกทำไมล่ะ เราฟ้าอยู่แล้วทั้งคน”
“แต่ฟ้าไม่ใช่ลูกจริงๆ ของพ่อ”
“แต่พ่อก็รักฟ้าเหมือนลูกจริงๆ นี่แล้วฟ้าล่ะ”
“หนูก็รักพ่อเหมือนพ่อแท้ๆ เลยค่ะ หนูรักพ่อและแม่มากชาตินี้หนูคงหาผู้ชายคนไหนดีเท่าพ่อไม่ได้อีกแล้ว”
“แต่แม่ว่ามันต้องมีสักคนแหละฟ้า ที่เขารักฟ้าเหมือนที่ที่แม่กับพ่อรักฟ้า เพียงแต่ตอนนี้ฟ้าอาจจะยังไม่เจอเขาเท่านั้นเอง”
“บางครั้งเนื้อคู่ของเราก็อาจจะมาช้าไปหน่อย บางทีเขาอาจจะอยู่อีกซีกโลกหนึ่งซึ่งกำลังตามหาฟ้าอยู่ก็ได้นะลูก”
“เหมือนกับพ่อที่อยู่ไกลแต่ก็ยังมาเจอหนูกับแม่ที่เมืองไทย เขาเรียกอะไรนะเพ็ญ” เฮนรี่หันมาถามภรรยา
“คนไทยเขาเรียกพรหมลิขิตค่ะ”
“นั่นแหละพรหมลิขิต”
“หนูไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพ่อจะเชื่อเรื่องพรหมลิขิตด้วย”
“พ่อเชื่อมากๆ เลยแหละเพราะพรหมลิขิตทำให้พ่อได้เจอกับหนูและแม่”
“แล้วพรหมลิขิตของหนูล่ะคะเมื่อไหร่จะทำให้หนูได้เจอคนดีๆ แบบพ่อ”
“แม่ว่าฟ้าอย่าพยายามตามหาเลยลูกยิ่งตามหามันก็จะยิ่งหนีเรา” เพ็ญนภาบอกลูกสาว
“แม่ว่าเนื้อคู่ของหนูจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติคะ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าคนนี้เป็นเนื้อคู่ของเรา”
“แม่ก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันนะ ถ้าหนูเจอหนูคงรู้เอง”
“หนูอิจฉาแม่กับพ่อจังเลยค่ะ”
“อิจฉาทำไมล่ะลูก”
“ก็พ่อรักแม่มาก หนูอยากเจอคนที่รักหนูมากๆ เหมือนกันค่ะ”