ตอนที่ 2-1
ทุกอย่างมืดไปหมด...
หนาวเหลือเกิน...
กลัวเหลือเกิน...
มีคนกำลังวิ่งตามเธอ วิ่งตามมาติดๆ ในมือถืออาวุธ มันคือไม้ท่อนขนาดใหญ่ หน้าตาของคนถึงดูเกรี้ยวกราด โมโห และเต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน!
ตายเสียเถอะ ตาย! ตาย! ตาย!
“กรี๊ด...ไม่ ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย”
กรีดร้องออกมาอย่างหวาดกลัว ร่างนั้นสั่นเทิ้ม กระสับกระส่าย พยายามที่จะลืมตาขึ้นมาเพื่อหลีกหนีความมืดมิดราวกับก้นนรกนั่น แต่...มันไม่สามารถทำได้
“ใจเย็นๆ ครับ คุณไม่เป็นอะไร คุณอยู่กับผม”
เสียงทุ้มอ่อนนุ่ม ราวกับเสียงสวรรค์ เธอถูกดึงเข้าไปกอดกระชับกับความอบอุ่น มือบางไขว่คว้า เมื่อกอดรัดได้กับอะไรบางอย่าง ที่หนาแกร่ง แข็งแรง เธอก็เกาะกอดไว้แน่นหนา ร้องไห้กระซิกทั้งที่ไม่ลืมตา มือของใครบางคนกำลังลูบไล้หลังไหล่ พร้อมกับเอ่ยพึมพำปลอบโยนเป็นระยะ ที่สุดแล้วเธอก็คลายสะอื้น ทุกสิ่งที่วิ่งระริกอยู่ในสมอง ดับวูบลงอีกครั้ง ผ่อนคลาย และนิ่งสงบ
“คนบ้ารึเปล่าครับนาย”
เสียงแปร่งๆ ดังขึ้นมาจากหนุ่มหน้าลายพร้อยที่นั่งยองๆ ช่วยเขาพยาบาลผู้ป่วยอยู่ คุณหมอหนุ่มค่อยประคองวางเธอลง แล้วจุ๊ปาก เขายังเฝ้าดูอาการของเธออยู่ บาดแผลของเธอบริเวณศีรษะค่อนข้างลึก เขาอยากจะให้เธอได้เอ็กซ์เรย์ดูอีกหนว่ากระทบภายในหรือเปล่า ตัวของเธอเริ่มรุมๆ เขาจึงต้องเช็ดตัวลดไข้ให้ แล้วเฝ้าอยู่แบบนี้ กะว่าพรุ่งนี้สว่างแล้วจะพาเธอไปที่โรงพยาบาล
“ไม่บ้าหรอก แต่งตัวดีแบบนี้น่ะ คงจะเพ้อเพราะไข้ขึ้นมากกว่า”
“โผมอยู่กับนายดีกว่า”
นายละมุด หรือชื่อพม่าว่าอองโจว ยังคงจ้องแขกยามวิกาลอย่างไม่วางตา และไม่ไว้ใจสุดๆ เขาถือตะหลิวมาไว้ใกล้ตัวเพื่อเป็นอาวุธ เผื่อยัยนี่จะลุกขึ้นมาร้องกรี๊ดๆ บีบคอเจ้านายเขาเข้า ไว้ใจใครได้ที่ไหนกัน สังคมสมัยนี้
“ตามใจ งั้นก็ช่วยเอาน้ำไปเปลี่ยนหน่อย เผื่อตัวร้อนขึ้นมาอีก จะได้เอาไว้เช็ดตัวให้เขา”
“ครับ”
พ่อละมุดยังคงห่วงหน้าพะวงหลัง สุดท้ายมอบตะหลิวไว้ให้เอกเอื้อป้องกันตัว เผื่อว่าเจ้าหล่อนจะลุกขึ้นมาบีบคอเข้า คุณหมอหนุ่มรับไว้แล้วก็แอบขำ พลางมอง ‘แขก’ ที่ไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งกำลังนอนนิ่งอยู่บนโซฟาที่ปรับเป็นเตียงชั่วคราว
เธอสวมเสื้อยืดตัวโคร่งและกางเกงเลของเขา แทนเสื้อผ้าที่เปียกฉ่ำ อาชีพแพทย์ทำให้ชินกับกายวิภาคของคนไข้ และมองเธอว่าเป็นคนไข้ฉุกเฉินที่ต้องช่วยเหลือ จนมองข้ามร่างกายขาวเนียนนั่นไปเสีย เอกเอื้อเช็ดโคลนและเลือดให้เธอจนเรียบร้อย บ้านนี้มีแต่หนุ่มโสดอย่างเขาและละมุดเสียด้วย คุณหมอหนุ่มจัดการเสื้อผ้าที่เปียกของเธอด้วยตัวเอง ดูแลแผลขั้นต้นให้เธอ ตอนนี้ก็รอแค่เธอฟื้น เพื่อจะได้สอบถามอาการ และพาไปโรงพยาบาลอีกหนในตอนเช้า นี่คือสิ่งที่เขาตั้งใจไว้ อ้อ...เขาคงจะต้องช่วยจ่ายค่าโรงพยาบาลให้เธอ และช่วยเหลือให้เธอได้พบกับญาติ สอบถามความช่วยเหลือต่างๆ ถ้าเธอต้องการ นึกแปลกใจอยู่ที่จู่ๆ เธอก็วิ่งมาตัดหน้ารถเขาพร้อมกับบาดแผล บางทีเธออาจจะต้องการตำรวจถ้าถูกทำร้ายมา
แผลนั่นเป็นบาดแผลจากของแข็ง จากการที่เขาวิเคราะห์ นึกสงสารเธอเมื่อนึกว่าสาเหตุที่เธอวิ่งกระเซิงมาแบบนั้น อาจจะถูกมารสังคมทำร้ายเอา การเป็นเพศหญิงที่อ่อนแอกว่า บางทีก็ตกเป็นเหยื่อได้โดยง่าย จากพวกเพศแข็งแรงกว่าที่มีจิตใจที่ไม่ใช่มนุษย์
นัยน์ตาคมของเขามองกวาดไปตามใบหน้ารูปไข่ เธอมีใบหน้าจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อย ดูเครื่องหน้าเหมือนตุ๊กตา ผิวพรรณละเอียด ขาวลอออมชมพู ผิวสวยมาก เธอสวมเครื่องประดับคือสร้อยทองเส้นเล็กที่ติดตัว ห้อยอักษร บี เขาถอดออกตอนที่ทำความสะอาดตัวให้เธอ เสื้อผ้าของเธอเป็นชุดเดรสยาวลายดอกไม้ ตัดเย็บประณีต เป็นของแบรน แน่นอนว่าเธอไม่ใช่โจรอย่างที่นายละมุดคิดระแวงหรอก
เป็นห่วงมากกว่าว่าอาจจะถูกฉุดมาทำร้ายแถวนี้หรือเปล่าหนอ?
เขานั่งมอง นั่งเฝ้าคนไข้ปริศนาของตนเอง ก่อนจะผล็อยหลับไปในเวลาเกือบรุ่งสางเพราะเพลียจัดจากงาน และไหนจะต้องมาดูแลพยาบาลเธออีก ละมุดกลับมาอีกที ก็เห็นเจ้านายนั่งกอดอกหลับบนเก้าอี้ตัวยาวเสียแล้ว จึงจัดท่าให้คุณหมอหนุ่มนอนได้สบาย ส่วนตัวเองก็นอนหนุนแขนตัวเองเฝ้าเจ้านายอีกที
คนไข้ คุณหมอ รวมถึงคนเฝ้ายามของคุณหมอ ก็หลับกันไปในท่านั้น อย่างยาวนาน...
เกือบเที่ยง เอกเอื้อถึงสะดุ้งตื่น ทันทีที่ตื่นเขาก็จับชีพจรคนไข้ที่ยังคงหลับอยู่ และจับตัวเธอดูคร่าวๆ ไข้ของเธอลดลงแล้ว เมื่อมือของเขาสัมผัสที่หน้าผาก ที่คอ คนที่หลับอยู่ก็ค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามองเขา เธอดูงุนงงเมื่อมองหน้าเขา เสียงหวานเอ่ยแผ่ว ขณะที่คุณหมอหนุ่ม กำลังตะลึงกับรูปโฉมของคนไข้ปริศนา เมื่อยามสบตากับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มกลมโต สวยกระจ่างนั้น มันราวกับ...
ฉึก!
หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นมาทันที แปลบๆ วูบวาบประหลาด เพียงแค่มองสบตากับเจ้าหล่อน นี่มันอะไรกันนะ?
“ที่ไหน?”