ตอนที่ 1-2
“โน่น ของกูต้องคนโน้น แบบนี้อะ ชอบ พวกชะนีไม่เอาของแสลง ว่าแต่ มึงเครียดย่ามึงเรื่องเดียวเหรอ ดูทางแล้วไม่น่าจะใช่อะ หน้ามึงยังเครียดอยู่เลย”
“อื้อ”
เขายังไม่พร้อมที่จะเล่าเรื่องแก้วกานดาให้กับเสือกล้าฟัง ขืนหมอได้ยินเข้า มีหวังกรี๊ดกร๊าดด่าทอให้เขาปวดหัวอีกแน่ๆ
เมื่อมาถึงร้านข้าวต้มหน้าโรงพยาบาล คุณหมอทั้งสองแวะฝากท้องกันก่อนกลับบ้าน เพราะเป็นเวลาเกือบตีหนึ่งแล้ว ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ
ชายหนุ่มปิดปากหาว เมื่อขับรถมาได้สักพัก คงจะต้องรีบกลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้วันพักของเขา ขอพักยาวๆ นอนให้อิ่มสักวัน ก่อนที่จะ...
เออ...จริงสิ พรุ่งนี้เขาต้องมีภารกิจไปรับคุณย่านี่นา แต่เขายังไม่อยากเจอท่านเลยจริงๆ กลัวเรื่องแก้วกานดานั่นแหละ ยิ่งกว่าเรื่องอื่น มองนาฬิกาที่อยู่บนแผงควบคุมรถแล้ว ก็ถอนใจน้อยๆ เขาจะขอความช่วยเหลือหมอนั่นได้หรือเปล่านะ วันนี้วันศุกร์เสียด้วย โอบตะวันมักจะมีภารกิจที่ไม่ยอมหลับยอมนอน หมอนั่นไม่ได้ติดเวรแบบเขา แต่ติดปาร์ตี้อยู่แน่นอน
เอกเอื้อตัดสินใจกดโทรศัพท์หาญาติหนุ่ม หนแรกโอบตะวันไม่รับ ต้องหนที่สองถึงจะรับ ฝ่ายนั้นหัวเราะร่วนเลยทีเดียวเมื่อเอ่ยทักทายเขา
“ว่างายวะ ไอ้หมอเอื้อ เฮ้ย...นี่คิดจะปาร์ตี้อย่างนั้นหรือ ถึงได้โทรมาได้เวลานี้”
“หึๆ ปาร์ตี้ได้ที่ไหนกัน กูต้องการการนอนอย่างหนักมากกว่า ปาร์ตี้ไม่ไหวหรอก”
“แล้วโทรมาทำเห้อะไรตอนนี้วะ คนกำลังเพลินๆ ใจเย็นๆ คร๊าบ อื้อ...อื้อ...”
เสียงหลังๆ ชักจะฟังแล้วต้องขมวดคิ้ว เดาไม่ยากหรอกว่าญาติหนุ่มสุดซี้ คู่แฝดคนล่ะฝาของเขากำลังทำอะไรอยู่ เอกเอื้อกระแอม แล้วเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง
“ฟังนิดหนึ่งนะ ไอ้โอบ แล้วก็จำไว้ด้วยก่อนที่มึงจะไปปาร์ตี้ย่ำยีอะไรของมึงต่อ คือพรุ่งนี้ช่วยไปรับคุณย่าให้กูหน่อย กู...คือกูติดเวรด่วน กะทันหัน ฝากมึงด้วยนะ เดี๋ยวกูส่งเวลากลับไปให้ในไลน์”
“ติดเวร หรือว่าหลบหน้า”
โอบตะวันพูดอย่างรู้ทัน คุณหมอหนุ่มหัวเราะ แล้วส่งเสียงอือออ เขาตอบรับให้อย่างนึกสงสาร เพราะรู้อยู่ว่าเอกเอื้อกำลังหนักใจเรื่องอะไร ก็คนมันไม่ชอบเรื่องเงินๆ ทองๆ จะไปเข็นให้ทำ ให้ตักตวง ก็คงจะอัดใจตายพอดี โดยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเอกเอื้อไม่อยากไปรับคุณหญิงเพชรสกาว มันมีสาเหตุอื่นด้วย นอกเหนือจากเรื่องโรงพยาบาลที่คุณย่าของพวกเขาตั้งใจนักหนาอยากจะให้ทำ
“เฮ้อ...”
เอกเอื้อถอนหายใจ เมื่อวางสายไปจากญาติหนุ่มแล้ว เคราะห์ดีที่โอบตะวันช่วยเขา เขาจะหาทางหลบเลี่ยงท่านเรื่องแก้วกานดาได้ยังไงกันนะ แม่แฟนเก่าของเขา ต้องมีแผนอะไรอยู่แน่นอนถึงได้เข้าทางย่าเขา เธอไม่ธรรมดาหรอก เพราะความไม่ธรรมดานี่แหละ ทำให้เขาถึงต้องกระเจิงขอเลิก หลบเลียแผลใจอยู่นาน
นานจน...ไม่มีแฟนใหม่สักที นี่เพราะเขารักแก้วกานดามาก หรือว่าเพราะทำงานหนักจนลืมเรื่องนี้ไปเสียก็ไม่รู้
ฝนเริ่มตกปรอยๆ ก่อนจะตกหนักแบบเทโครมมาแบบฝนไล่ช้าง เขาต้องชะลอรถเพราะเกรงอุบัติเหตุ ฟ้าร้อง ฟ้าแลบอย่างน่ากลัว เอกเอื้อสะดุ้งเป็นระยะ ความลับของเขาก็คือเขากลัวเสียงฟ้าร้องฟ้าแลบมาก ฝังใจจากการที่เห็นคนโดนฟ้าผ่าต่อหน้า ตอนไปเข้าค่ายที่ต่างจังหวัด ใจเต้นตุบๆ ภาวนาให้ถึงบ้านได้เร็วๆ ก่อนที่เขาจะหัวใจวายไปเสียก่อน
เปรี้ยง! ฟ้าผ่าลงต้นไม้ เมื่อเขาขับผ่านมาได้นิดเดียว คุณหมอหนุ่มสะดุ้งสุดตัว สบถออกมายาวเหยียด เขาหันกลับไปดูต้นไม้หักลงมาชั่วแวบ แล้วก็ต้องเบรกจนตัวโก่ง เมื่อมีอะไรวิ่งโฉบตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด
เอี๊ยด!
“เฮ้ย! ฉิบหายล่ะ คนหรือเปล่าวะนั่น หรือว่า...”
เขาขบกรามกรอด ลังเลว่าจะลงไปดีไหม กลัวว่าจะเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่คน แต่ถ้ามามัวนั่งกลัวผี แล้วทำให้คนบาดเจ็บ มันก็ขัดกับอาชีพเขาที่ต้องช่วยชีวิตคน
เอกเอื้อตัดสินใจเปิดประตูรถออกมา ฝนตกกระหน่ำใส่เขาเม็ดใหญ่จนรู้สึกเจ็บ เขาใช้มือปาดน้ำออกจากหน้า พระพิรุณยังคงให้พรใหญ่แก่มวลมนุษย์ไม่ขาดสาย น้ำเจิ่งนองไปทั่วถนน แล้วหมอหนุ่มก็เห็นว่า สิ่งที่เขาลงมาดูนั้น เป็นคนจริงๆ ทำให้เขาต้องรีบไปประคองร่างนั้น
ผู้หญิง...
เห็นหน้าไม่ชัดนัก แต่สรีระความอ่อนนุ่มของร่างกาย บอกเขาว่าเธอเป็นผู้หญิง เลือดแดงฉาดเต็มไปหมดบริเวณศีรษะของเธอไหลเปื้อนมาบริเวณใบหน้า ทำให้คุณหมอหนุ่มตกใจมาก เขารีบอุ้มเธอเข้าไปในรถทางด้านหลัง ตัดสินใจขับรถต่อไปที่บ้านของเขา ไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อน จะกลับรถไปก็คงจะไม่ได้แล้ว เพราะต้นไม้หักโค่นแบบนั้น เขาต้องรักษาเธอคนนี้โดยเร่งด่วน!