บทที่1 มาเป็นเมียผมเถอะ 2
“ครับๆ คือว่าผมชื่อว่าธีรภัทร เรียกว่าธีร์ก็ได้ครับ แล้วคุณชื่ออะไรเหรอ” หน้ายิ้มๆของเขาค่อยๆหุบลงอย่างช้าๆ เมื่อเห็นสายตาขุ่นขวางของหญิงสาว
“ถ้าคุณยังมัวมาถามอะไรไร้สาระแบบนี้ คุณลงไปจากบ้านพักฉันเลยดีกว่า” เธอพูดเสียงเย็น
“เอ่อ ก็ได้ครับ คือว่าผมมีเรื่องจะขอร้องคุณ”
“ขอร้องฉัน?” วรัศยาชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อหู
“ใช่ครับ ผมอยากว่าจ้างคุณให้มาเป็นภรรยาในนามของผม” ธีรภัทรพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ติดจะเครียดๆเสียด้วยซ้ำ
“แล้วทำไมฉันต้องทำ” หญิงสาวทำตาขวาง ก่อนจะโบกมือไล่เขาออกไปอย่างหงุดหงิด
“เชิญคุณลงไปได้แล้ว ฉันไม่สนใจข้อเสนอของคุณหรอก”
“เดี๋ยวสิครับ ยังไม่ถึง5นาทีเลยนะครับ คือ ผมจะให้ค่าจ้างคุณ 3 หมื่น ไม่รวมเงินเดือนที่คุณจะได้รับทุกเดือนด้วย”
“คุณจะมาหลอกให้ข้อเสนองานสบายๆให้ฉันหรือไง คุณมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า”
“โธ่ คุณครับ ไว้ใจผมหน่อยเถอะ” ชายหนุ่มพูดเสียงออด ดวงตาพราวแพรวแบบคนเจ้าชู้เชื่อมหวานจนคนมองอดใจสั่นไม่ได้
“ฉันไม่ไว้ใจคุณ” เธอเชิดหน้าขึ้นสูง ภาพที่ชายหนุ่มจุมพิตดูดดื่มกับสาวสวยกลางที่โล่งแจ้งยังติดตาเธอไม่หาย
“ผมเป็นเจ้าของธุรกิจเครื่องแบบเรียนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” พูดจบเขาก็หยิบกระดาษใบเล็กๆออกจากกระเป๋าสตางค์ส่งให้หญิงสาว
“นี่เป็นบัตรประชาชนของผม”
หญิงสาวรับมาก่อนจะเบิกตากว้างอีกรอบหนึ่ง
“ธีรภัทร ธนอดิทรัพย์” ใครบ้างจะไม่รู้จักผู้ชายที่ชื่อธีรภัทร ธนอดิทรัพย์ ที่เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงที่กิจการกำลังรุดหน้าประสบผลสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อคนนี้
“คุณจะตกลงมั๊ยครับ ? ผมจ่ายให้คุณเดือนละ 3 หมื่น”
“ 3 หมื่น” เธอเบิกตากว้างอย่างตกตะลึงกับจำนวนตัวเลข ที่เธอนั่งแต่งนิยายทั้งเดือนก็ยังไม่ได้ถึงขั้นนี้เลย
“ใช่ครับ 3 หมื่น” ชายหนุ่มเลิกคิ้วเข้มขึ้นสูงอย่างเป็นต่อดวงตาคมหรี่ลงมองร่างบางตรงหน้าอย่างพอใจที่เห็นท่าทางลังเลของหญิงสาว
“ฉันไม่ตกลง” วรัศยาพูดเสียงแข็งก่อนจะยื่นบัตรประชาชนคืนชายหนุ่ม เธอไม่ปรารถนาที่จะทำตามความต้องการเอาแต่ได้ของเขาโดยการแลกกับจำนวนเงิน3หมื่นเช่นนี้
“กลับไปเถอะค่ะ คุณไปหาคนใหม่จะดีกว่านะ” เธอพูดทิ้งท้าย พลางหมุนร่างก้าวเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูใส่หน้าชายหนุ่ม ซึ่งธีรภัทรก็ยืนนิ่งเงียบโดยไม่คิดจะรั้งเธอไว้อีก
มือใหญ่ยกขึ้นลูบต้นคอตัวเองพลางถอนหายใจเบาๆอย่างเสียดายแล้วหันหลังเดินลงไปจากบ้านพักหลังเล็กๆของเธอ...
' อีตาบ้าเอ้ย อยู่ดีๆก็จะมาจ้างให้ฉันไปเป็นเมีย ฉันไม่ใช่เมียเช่าของใครนะ ทำแบบนี้เป็นการดูถูกกันชัดๆ ' วรัศยาคิดในใจอย่างหงุดหงิด พร้อมกับขยำกระดาษอีกใบขว้างลงยังตะกร้าขยะ
“โอ๊ยยยย หงุดหงิด แล้วแบบนี้เมื่อไหร่ฉันจะแต่งนิยายจบเนี่ย อุตส่าห์มาแต่งที่ทะเลจะได้มีบรรยากาศดีๆแต่งลื่นไหล ที่ไหนได้.... ดันมาเจออีตานั่นทำให้อารมณ์เสียซะได้” วรัศยาพูดพึมพำอย่างหงุดหงิดก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง
“ฮัลโหล สวัสดีค่ะแม่” หญิงสาวรับโทรศัพท์เสียงใส ก่อนที่ใบหน้างามจะเริ่มเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
/ส่งเงินมาให้แม่หน่อย/
“อะไรนะคะแม่ ก็หนูเพิ่งให้เงินแม่ไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่นา”
/ เงินแค่ 5 พัน จะใช้ได้สักกี่วันกันเชียว ไม่รู้ล่ะ ยังไงแกต้องส่งเงินมาให้แม่ ไม่งั้นก็ไม่ต้องกลับบ้านมาให้แม่เห็นหน้าอีก ลูกเนรคุณ ฉันไม่อยากเจอ / พูดจบนางวันนาผู้เป็นมารดาก็กดตัดสายไปทันทีอย่างหงุดหงิดในขณะที่วรัศยาค่อยๆวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะอย่างหมดแรง
แค่อาชีพนักเขียนนิยาย ก็ทำให้เธอมีฐานะแค่พอกินพอใช้เท่านั้น และในตอนนี้นิยายเธอก็ยังแต่งไม่จบ แล้วเธอจะเอาเงินที่ไหนส่งไปให้แม่
คำว่า 'เนรคุณ' ที่แม่ใช้กับเธอทำให้น้ำตาของวรัศยาค่อยๆไหลลงมาอาบแก้มนวลอย่างช้าๆ มือเรียวยกขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองอย่างลวกๆ ดวงตาที่ฉายแววเหนื่อยใจและท้อแท้กลับมามีประกายตาแห่งความ เด็ดเดี่ยวและเข้มแข็งอีกครั้ง
เธอจะไม่ยอมเป็นลูกเนรคุณในสายตาของแม่เด็ดขาด เธอต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมา...
“ผมอยากว่าจ้างคุณให้มาเป็นภรรยาในนามของผม” คำพูดของธีรภัทรลอยเข้ามาในหัวทำให้วรัศยาเปิดรอยยิ้มออกมาอย่างหมายมาด
เธอจะต้องรับงานชิ้นนี้เพื่อ....เงิน !!
“คุณธีรภัทร วู้ๆๆๆๆๆๆ” หญิงสาวป้องปากตะโกนเรียกหน้าบ้านพักหลังใหญ่อย่างไม่อายต่อสายตาของใคร
“คุณเป็นใครครับ” ลุงแก่ๆที่ทนฟังเสียงตะโกนของหญิงสาวไม่ไหวเดินออกมาดู แต่ไม่ยอมเปิดประตูรั้วให้เธอได้ก้าวเข้าไปด้านใน
“ฉันมีธุระจะคุยกับคุณธีรภัทร” วรัศยาเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ ก่อนจะหน้าเจื่อนลงเมื่อเห็นสายตาของชายชรามองกวาดตั้งแต่หัวจรดเท้าของเธอ
ผิดด้วยเหรอที่เธอแต่งตัวด้วยเสื้อแขนสั้นกับกางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง
“กริ่งหน้าบ้านก็มี ทำไมคุณไม่กดครับ มาร้องเรียกแบบนี้ทำไม” สายตาของชายตรงหน้าเหมือนจะบอกเธอเป็นนัยๆว่าเธอนั้น 'บ้านนอก'
“ก็ฉันอยากเรียกนี่นา แบบว่าไม่ชอบใช้กริ่งน่ะ” เธอตอบเสียงเรียบๆทั้งๆที่หน้าชาดิกจนแทบไม่มีความรู้สึก
“เหรอครับ” นายเอก พ่อบ้านของธีรภัทรมองเธออีกครั้งด้วยสายตาประเมินก่อนจะพูดตัดรอน
“คุณธีร์ไม่อยู่หรอกครับ กลับไปเถอะ”
“วู้ๆๆๆๆ คุณธีร์ ทางนี้ๆๆๆ” วรัศยาโบกไม้โบกมือเรียกเมื่อเห็นร่างสูงคุ้นตากำลังเดินออกมาจากตัวบ้านทันทีโดยไม่สนใจคำพูดของนายเอกเลยแม้แต่น้อย
“อ้าว คุณ!” ธีรภัทรเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ แล้วสาวเท้าเดินเข้ามาหาหญิงสาว
“ทำไมไม่เปิดประตูรั้วให้เธอเข้ามา” เขาหันไปต่อว่าพ่อบ้านแก่ๆด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ขอโทษครับๆๆๆ” นายเอกรีบก้มหัวขอโทษ พร้อมกับรีบเลื่อนประตูรั้วให้หญิงสาวเข้ามา
“มีธุระอะไรครับ” เขาถามพลางหลุบเปลือกตาลงมองหญิงสาวที่ตัวเล็กแค่อกของเขาด้วยแววตาแปลกๆ
“ฉันจะมาเจรจาธุรกิจกับคุณ” เธอพูดฉะฉานก่อนจะยกมือขึ้นกอดอกอย่างจริงจัง แต่ในสายตาของเขาแล้ว ท่าทางแบบนั้นมันเหมือนเด็กกะโปโลที่ทำท่าอวดดีเสียมากกว่า
“ธุรกิจ ??? ” ธีรภัทรเลิกคิ้วขึ้นสูงอีกรอบ พยายามกลั้นยิ้มเอาไว้อย่างสุดความสามารถเมื่อเห็นใบหน้างามพยักหน้าหงึกหงักขึ้นลงอย่างวางมาด
“เชิญเข้าไปคุยในบ้านผม” ชายหนุ่มผายมือก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำหญิงสาวเข้าไปในบ้านพักที่เขาซื้อเอาไว้สำหรับมาพักผ่อนหย่อนใจ
“มีอะไรก็ว่ามา” ชายหนุ่มพูดหลังจากที่เขากับเธอทรุดลงนั่งบนโซฟาตรงกันข้ามกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ข้อเสนอของคุณน่ะน่าสนใจดีนะ” หญิงสาวพูดเกริ่นๆพลางชำเลืองมองสีหน้าของชายหนุ่มไปด้วย
“คุณปฏิเสธไปแล้วไม่ใช่เหรอ” เขาถามน้ำเสียงยียวนพลางทำทียกแก้วน้ำที่นายเอกเอามาเสิร์ฟขึ้นจิบ
“แต่ว่า...อ้ะ” วรัศยาอุทานอย่างตกใจเมื่อกระดาษแผ่นเล็กที่เธอถือมาจากบ้านได้ปลิวหล่นลงบนพื้นพรม
“ซุ่มซ่ามจริงๆเลยนะยัยเด็กน้อย” ธีรภัทร์ส่ายหน้าอย่างระอากับท่าทางเด็กๆของอีกฝ่ายก่อนจะสำลักน้ำทันทีเมื่อวรัศยาก้มลงเก็บกระดาษ
พรวด!!
คอเสื้อที่ค่อนข้างกว้างรั้งลงจนเห็นอกอิ่มที่ซุกซ่อนอยู่ในบราเซียตัวจิ๋วอย่างชัดเจน
“อะไรของคุณน่ะ” วรัศยาเงยหน้าขึ้นส่งผลให้ชายหนุ่มรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทางทันทีแล้วดึงผ้ามาซับที่ปากอย่างรวดเร็ว
“น้ำติดคอน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” เขาพูดทั้งๆที่ไม่ยอมสบตาเธอ
“น้ำมันติดคอได้ด้วยเหรอ แล้วเมื่อกี้คุณว่าใครเด็กมิทราบ”วรัศยาพูดลอดไรฟันเสียงเขียวในขณะที่ชายหนุ่มยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้
“ครับๆ ไม่เด็กหรอกครับ คุณน่ะ...มีเยอะเกินตัวเสียอีก” ประโยคท้ายๆชายหนุ่มพูดเสียงเบาหวิวแต่วรัศยาไม่ได้ใส่ใจฟังนัก เธอรีบพูดเข้าตรงประเด็นถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องมาเยือนบ้านของเขาทันที
“ฉันจะทำงานให้คุณ แต่คุณต้องทำตามกฎที่ฉันเสนอไป” เธอพูดเสียงเด็ดขาด มองธีรภัทรที่หรี่ตาลงมองเธออย่างสนใจ
“กฎอะไร” เขาถาม ดวงตาคมเบิกกว้างเมื่อเห็นเนื้อความในกระดาษที่เธอยื่นมาให้เขาอ่าน
“คุณต้องทำตามข้อตกลงนี้อย่างเคร่งครัดนะคะคุณธีรภัทร์” หญิงสาวพูดยิ้มๆเมื่อเห็นท่าทางอึ้งๆของชายหนุ่ม........