บทที่ 6 ฉากบังหน้า
“เออ ชื่อ ชื่อม่านฟ้าค่ะ”
ม่านฟ้าเอ่ยชื่อขึ้นอย่างไม่เต็มเสียง อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ โอ๊ยถึงจะพยายามคิดว่าท่านอาจจะจำตัวเองไม่ได้ แต่ใจของเธอมันไม่ยอมหายตื่นเต้นลงเลยสักนิด ตาย! ตาย! ตาย!!
“พูดให้มันเต็ม ๆ เสียงหน่อยกลัวอะไร”
นาธานพูดตะคอกออกมาเสียงดังแสดงให้หญิงสาวได้รู้ว่าตัวเองกำลังไม่พอ สายตาก็แอบจ้องมองคนที่กำลังยืนตัวสั่นอย่างสนุก ทีอย่างนี้ทำมาเป็นกลัวตอนด่าเขาตบหน้าเขาวันนั้นไม่เห็นทำท่าทางแบบนี้เลย คอยดูนะเขาจะแกล้งเล่นซะให้เข็ด
“ชื่อม่านฟ้าค่ะ”
ม่านฟ้ากลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่แล้วเอ่ยพูดขึ้นอีกครั้งอย่างเต็มเสียง การทำงานตำแหน่งใหม่วันแรกของเธอ มันคงจะไม่ได้เป็นการทำงานวันสุดท้ายของเธอด้วยใช่ไหม โอ๊ย สติสตางค์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วเนี่ยยย
“เลขาเจมส์พูดอธิบายเรื่องการฝึกงานให้คุณทั้งสองคนฟังกันแล้วใช่ไหม” เมื่อนาธานได้คำตอบที่น่าพอใจแล้วก็เอ่ยพูดเรื่องงานขึ้นอย่างไม่สนใจม่านฟ้าอีก
“ค่ะ” เลขาสาวทั้งสองพยักหน้าตอบกลับพร้อม ๆ กัน
เพราะก่อนหน้านี้เลขาเจมส์ได้เรียกม่านฟ้ามาคุยเรื่องการฝึกงานทั้งหมดแล้ว ตอนนั่นหญิงสาวก็รู้สึกแปลกใจนิด ๆ เหมือนกัน ว่าทำไมจะต้องทำแบบนั้นด้วย แต่พอได้เห็นพนักงานที่จะมาฝึกงานอีกคนแล้ว ม่านฟ้าก็รู้ได้ทันทีว่าการรับสมัครเลขาครั้งนี้ มันอาจจะเป็นแค่ฉากบังหน้าก็ได้ เพราะดูเหมือนว่าหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอในตอนนี้น่าจะรู้จักสนิทสนมกับท่านประธานหนุ่มมาก่อนอย่างเห็นได้ชัด ดูถ้าพอครบหนึ่งเดือน เธอก็คงจะต้องกลับไปทำงานที่แผนกเก่าเหมือนเดิมแน่ ๆ แต่ก็ช่างเถอะเพราะม่านฟ้าก็ไม่อยากอยู่ใกล้ กับท่านประธานคนนี้เหมือนกัน เดี๋ยวความลับเรื่องที่เธอเ ป็นคนตบหน้าท่านในคืนนั้นแตกขึ้นมา มีหวังแผนกบัญชีก็คงจะไม่มีที่ให้เธออยู่อีกแล้วเหมือนกัน
“ดี หนึ่งเดือนต่อไปนี้เลขาเจมส์จะเป็นคนคอยสอนงานให้พวกคุณ เพราะฉะนั้นตั้งใจเรียนรู้งานกันให้ดี ๆ ผมจะให้โอกาสพวกคุณหนึ่งเดือนเท่านั้น”
เสียงทุ้มเอ่ยพูดบอกทวนให้เลขาของตัวเองฟังอีกครั้ง หนึ่งเดือนต่อจากนี้ล่ะจะได้รู้กันว่าผู้หญิงทั้งสองคนนี้ใครจะทำงานได้ดีกว่ากัน คุณหนูแสนสวยกับแม่สาวมือไวใครกันนะที่จะได้อยู่ต่อ…
“เออ พี่ธานคะ…”
อยู่ ๆ โรสที่เลขาเจมส์กำลังจะพาเดินออกไปจากห้อง เสียงหวานก็เอ่ยพูดขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ทันได้พูดจบ เสียงทุ้มติดหงุดหงิดของประธานหนุ่มก็เอ่ยพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
“นาธาน…ช่วยเรียกชื่อของผมให้เต็ม ๆ ด้วยนะครับ เพราะผมไม่ชอบให้คนที่ไม่สนิทมาเรียกชื่อเล่นแบบนี้” เสียงพูดเย็นยะเยือกของประธานหนุ่มขึ้นอย่างไม่ชอบใจ คิดว่าตัวเองเป็นใครอยู่ ๆ ก็มาเรียกชื่อเล่นของเขาแบบนี้
“ค่ะ เออ…พี่นาธานเป็นคนสอนงานให้โรสไม่ได้เหรอคะ”
โรสที่ถูกนาธานพูดว่าให้ก็หน้าเสียไปทันที ใบหน้าสวยค่อย ๆ ฝืนยิ้มทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเอ่ยพูดกับชายหนุ่มต่ออีกครั้ง เธอเป็นถึงลูกสาวเพื่อนคุณแม่ของท่านประธานจะให้เลขากระจอก ๆ แบบนั้นมาสอนงานเธอได้อย่างไง ระดับเธอแล้วจะต้องให้นาธานว่าที่แฟนหนุ่มในอนาคตสอนงานให้เท่านั้น หึหึ
“ขอโทษนะครับ ผมเป็นถึงประธานบริษัท ทำไมต้องลดตัวไปสอนงานคุณด้วยเหรอครับ”
ใบหน้าหล่อของท่านประธานหนุ่มแสยะยิ้มออกมา เมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงสาวตรงหน้าพูด ผู้หญิงคนนี้คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงกล้ามาขอให้เขาลดตัวลงไปสอนงานให้ขนาดนั้น บอกเลยว่าถ้าคุณแม่ไม่พูดขอวันนั้น ให้เขามาฟรี ๆ ก็ยังไม่เอาด้วยซ้ำ คิดว่าเขาไม่รู้หรือไงว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว
“เออ…ไม่ใช่อย่างงั้นนะคะ”
โรสถูกชายหนุ่มพูดปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย ใบหน้าสวยรู้สึกชาราวกับว่า มีคนเอาน้ำเย็น ๆ มาสาดใส่หน้าจนเปียกชุ่มซะอย่างงั้น ตอนอยู่กับที่บ้านวันนั้นเห็นไม่ค่อยพูดอะไร ไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มจะปากร้าย ไม่รักษาน้ำใจของเธอเลยแบบนี้ ค่อยดูเถอะคนอย่างโรสจะต้องทำให้ผู้ชายปากร้ายคนนี้มาหลงรักเธอหัวปักหัวปำให้ได้เลย
“งั้นก็เชิญไปทำงานกันได้แล้วครับ” นาธานขี้เกียจสนใจโรสอีก เลยพูดสั่งให้ทุกคนออกไปอีกครั้ง โดยที่ไม่ลืมเหลือบตามองเลขาสาวอีกคนอีกครั้งก่อนที่เธอจะเดินจากไป
“ค่ะ”
โรสพยักตอบกลับไปอย่างช่วยไม่ได้ ช่างเถอะถึงอย่างไงตอนนี้เธอก็ได้เข้ามาทำงานที่นี่แล้ว ค่อยเป็นค่อยไปเอาก็ได้ เพราะถึงอย่างไงอยู่ที่นี่เธอก็ไม่มีคู่แข่งอะไรอยู่แล้ว จะมีก็แค่ยัยพนักงานแต่งตัวเชย ๆ คนเดียว คนอย่างนาธานที่เป็นถึงนักธุรกิจชื่อดังคงไม่มีทางไปสนใจผู้หญิงแบบนี้อยู่แล้ว