บทที่ 7 เด็กเส้น
ชั้นบนสุดของบริษัทเครื่องประดับยักษ์ใหญ่ หน้าห้องของท่านประธานหนุ่มมีโต๊ะทำงานเพิ่มขึ้นมาอีกสองตัว เพื่อให้เลขาสาวทั้งสองคนได้นั่งทำงานกัน โดยมีเลขาเจมส์เป็นคนคอยสอนงานทั้งหมดให้ ม่านฟ้าเคยอยู่แผนกบัญชีของบริษัทนี้มาก่อน รวมทั้งที่หญิงสาวเป็นคนหัวไว เลขาเจมส์สอนแค่นิด ๆ หน่อย ๆ หญิงสาวก็เข้าใจและสามารถทำตามได้แล้ว
ส่วนโรสที่บอกว่าตัวเองเรียนจบโทมาจากอังกฤษนั้น เล่นซะเลขาหนุ่มอย่างเจมส์ต้องปวดหัวแทบทุกวัน เพราะหญิงสาวไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำงานจริงมาก่อน แถมพอชายหนุ่มสอนหรือพูดบอกอะไรไป หญิงสาวก็ไม่เคยสนใจที่จะฟัง สั่งให้ทำงานอะไรไป ก็ทำออกมาแบบลวก ๆ ไม่มีความเรียบร้อยเลยสักนิด พอเลขาเจมส์บอกให้เอาไปทำใหม่ เธอก็จะโวยวายแล้วเอาเรื่องที่ตัวเองรู้จักกับนาธาน และคุณแม่ของนาธานขึ้นมาขู่เจมส์แทบทุกครั้ง
“นี่ม่านฟ้า ชงกาแฟให้ฉันหน่อยสิ”
“คะ”
“ฉันบอกว่าไปชงกาแฟให้ฉันหน่อยยังไงล่ะ”
“อ๋อ สักครู่นะคะ ขอฟ้าทำ…”
“ฉันต้องการตอนนี้ได้ยินไหม งานเดี๋ยวค่อยกลับมาทำก็ได้ไหม”
“ค่ะ”
เสียงของเลขาสาวพูดสั่งเพื่อนร่วมงานอีกคนดังขึ้นอย่างเอาแต่ใจ ม่านฟ้าที่เป็นแค่พนักงานตัวเล็ก ๆ ก็ได้แต่จำใจทำตามที่โรสลูกสาวคนรู้จักของคุณแม่ท่านประธานบอกอย่างว่าง่าย เพราะเธอไม่อยากจะมีปัญหากับใคร อีกอย่างแค่อาทิตย์ม่านฟ้าก็น่าจะได้กลับไปทำงานที่แผนกเดิมแล้วด้วย เพราะเท่าที่ดูแล้วยังไงคุณหนูโรสคนนี้ ก็น่าจะได้ตำแหน่งเลขาท่านประธานไปอยู่แล้ว
โรสเข้ามาทำงานเป็นเลขาของนาธานที่นี่ ได้เกือบสามอาทิตย์กว่าแล้ว แต่หญิงสาวก็แทบจะไม่ได้ พูดคุยอะไรกับชายหนุ่มเลยสักนิด เพราะปกตินาธานจะนั่งทำงานอยู่ในห้อง ส่วนเธอจะนั่งทำงานอยู่หน้าห้อง วัน ๆ เลยได้เจอหน้าชายหนุ่มก็แค่ตอนเดินเข้ามาทำงาน กับเดินกลับตอนเลิกงานเท่านั้น พอโรสชวนกินข้าวเที่ยงหรือข้าวเย็นด้วยกัน ก็จะถูกชายหนุ่มปฏิเสธกลับมาทุกครั้ง เรียกว่าที่เธอเข้ามาทำงานที่นี่ สามอาทิตย์กว่านั้นแทบไม่มีคืบหน้าเรื่องอะไรเลย
แถมเรื่องงานหญิงสาวก็แทบทำอะไรได้เป็นเลยสักอย่าง เพราะวัน ๆ เธอเอาแต่นั่งเล่นโทรศัพท์ไม่ก็ดูซีรีส์อยู่ที่โต๊ะ พอนาธานเดินออกมาจากห้องทำงานหรือเดินผ่านมา หญิงสาวถึงจะรับดีดตัวทำท่าทางเหมือนกำลังทำงานสักครั้ง ส่วนงานที่ถูกสั่งให้ทำ โรสก็มักจะเอาไปโยนให้ม่านฟ้าทำซะส่วนใหญ่ อันไหนที่เธอทำเองก็มักจะถูกเลขาเจมส์สั่งให้ทำใหม่อยู่ตลอด แต่โรสก็จะทำหูทวนลมทำเป็นไม่สนใจ สุดท้ายงานพวกนั้นเจมส์ก็ต้องเอามาแก้แล้วส่งให้นาธานอีกทีอยู่ตลอด
โรสคิดว่าตัวเองมีโสมนภาคอยให้ท้ายอยู่ เลยไม่กลัวใครทั้งนั้น อีกอย่างถึงเธอจะทำงานแย่ขนาดไหน ชายหนุ่มก็คงไม่กล้าไล่เธอที่เป็นลูกสาวเพื่อนคุณแม่ตัวเองออกอย่างแน่นอน แต่ถ้าถูกไล่ออกจริง ๆ เธอก็ค่อยไปร้องไห้ขอความเห็นใจกับคุณแม่ของชายหนุ่มเอาก็ได้
“คุณม่านฟ้างานที่ผมสั่งเสร็จหรือยัง” ม่านฟ้าที่กำลังจะลุกขึ้นไปชงกาแฟตามที่โรสสั่ง แต่อยู่ ๆ ประตูห้องที่ปิดมาตั้งแต่เช้าก็เปิดออก เสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นพร้อมร่างสูงในชุดสูท
“ท่านประธาน” ม่านฟ้ากับโรสรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ หันหน้าไปทางประธานหนุ่ม ที่เดินออกมาจากห้องอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง
“เออ...เสร็จแล้วค่ะ” ม่านฟ้ารีบเอ่ยตอบไปอย่างเกร็ง ๆ นี่เขาจะมาหาเรื่องอะไรเธออีกเนี่ย
ตั้งแต่ที่ม่านฟ้ามาทำงานที่นี่ หญิงสาวมักถูกชายหนุ่มเรียกไปต่อว่าเรื่องงานอยู่บ่อย ๆ ทั้งที่บางทีมันจะเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยซ้ำ จนบางครั้งเธอก็อดคิดไม่ได้ ว่าชายหนุ่มจงใจแกล้งเธอหรือเปล่า เพราะถ้าพูดถึงเรื่องการทำงาน โรสทำงานผิดพลาดแทบทุกวัน แต่เธอก็ไม่เคยเห็นนาธานเรียกไปต่อว่าเลยสักครั้ง นี่สินะที่เขาเรียกว่าเด็กเส้นทำอะไรก็ดีไปหมด
“คุณโรสแล้วของคุณล่ะ” นาธานหันไปถามของเลขาอีกคนด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“เออ เหลืออีกนิดก็เสร็จแล้วค่ะ” โรสรีบพูดตอบนาธานกลับไปอย่างไว ถึงความจริงงานที่ชายหนุ่มสั่ง เธอจะยังไม่ได้เริ่มสักนิดเลยก็ตามที เพราะโรสกะว่าจะเอาไปให้ม่านฟ้าทำให้เหมือนทุกครั้งซะหน่อย
“โอเค งั้นเดี๋ยวม่านฟ้าออกไปพบลูกค้ากับผม” นาธานกระตุกยิ้มที่มุมปากออกมาจาง ๆ เมื่อคำตอบเหมือนที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด หึหึ คงคิดจะโยนงานพวกนั้นให้ม่านฟ้าทำให้อีกละสิ แต่ครั้งนี้ฝันไปเถอะ เพราะวันนี้เขาจะพาแม่ตัวดีออกไปข้างนอกด้วย
“ค่ะ” ม่านฟ้ามองหน้านาธานอย่างไม่เข้าใจ นี่เขาคิดจะทำอะไรอีกเนี่ย ครั้งก่อนก็บอกว่าจะไปพบลูกค้า แต่สุดท้ายก็ลากเธอไปเดินซื้อของซะทั่วห้าง จนเธอปวดเมื่อยตัวไปหมด
“เออ พี่นาธานจะให้ม่านฟ้าไปด้วยเหรอคะ” โรสรีบพูดขัดขึ้นอย่างไม่ชอบใจ เพราะเวลาชายหนุ่มจะไปพบลูกค้าเมื่อไหร่ ก็ชอบหาแต่ยัยม่านฟ้าไปคนเดียวตลอด แล้วอีกอย่างถ้านาธานพาม่านฟ้าไปพบลูกค้าด้วย แล้วใครจะทำงานให้เธอกันล่ะกำหนดส่งพรุ่งนี้แล้วด้วย
“ใช่ ก็ม่านฟ้าทำงานที่สั่งเสร็จแล้วนี่” นาธานพูดตอบกลับเสียงเรียบ
“โรสว่าให้โรสไปแทนไม่ดีกว่าเหรอคะ ถ้าให้เลขาที่แต่งเชย ๆ แบบนั้นไปด้วย พี่นาธานเสียภาพลักษณ์หมดนะคะ ลูกค้าเห็นอาจจะคิดดูถูกบริษัทของเราเอาก็ได้นะคะ” โรสเดินมายืนข้าง ๆ ม่านฟ้าแล้วพูดเปรียบเทียบตัวเองกับม่านฟ้าให้ชายหนุ่มตรงหน้า เห็นความแตกต่างของทั้งสองคนอย่างชัด ๆ
โรสที่แต่งตัวจัดเต็มใส่ของแบรนด์ตั้งแต่หัวจดเท้ามาทำงานทุกวัน ราคาเสื้อผ้าของเธอที่ใส่มาแต่ละวันนั้นหลักล้านเลยก็ว่าได้ ส่วนม่านฟ้าทั้งตัวถึงหมื่นหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ เพราะเสื้อผ้าที่เธอใส่มาแต่ละวันไม่มีของแบรนด์เนมเลยสักชิ้น ดูก็รู้ว่าคงเป็นเสื้อผ้าที่ซื้อมาจากร้านค้าข้างทาง ถ้านาธานต้องไปพบลูกค้าจริง ๆ คนที่จะต้องไปด้วย ก็ควรที่จะเป็นเธอมากกว่าไม่ใช่หรือไง
“หึหึ เสียภาพลักษณ์อย่างงั้นเหรอ ขอโทษด้วยนะครับคุณโรส ผมรับเลขามาเพื่อช่วยงาน ไม่ได้รับมาเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเอง” นาธานหัวเราะออกมาเบา ๆ กับสิ่งที่ได้ยิน เสียภาพลักษณ์ อย่างงั้นเหรอ แล้วไงก็คนที่เขาอยากจะให้ไปด้วยคือม่านฟ้า ไม่ใช่คุณหนูที่ชอบแต่งตัวสวยไปวัน ๆ แต่ทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่างแบบผู้หญิงตรงหน้านี้นี่นา อีกอย่างนาธานไม่เคยสนใจ เรื่องภาพลักษณ์อะไรพวกนั้นเลยสักนิด ใครจะพูดหรือว่าอะไรก็ช่างสิ เขาไม่สนใจอยู่แล้ว
“…” โรสที่ถูกนาธานว่ากลับมาแบบนั้นก็พูดอะไรไม่ออก มือบางทั้งสองข้างได้แต่กำหมัดแน่น เข้าหากันเพื่อระบายความหงุดหงิด ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงเย็นชามากขนาดนี้นะ เขาไม่คิดจะสนใจเธอแบบเลยหรือไง
“ส่วนคุณก็อยู่ทำงานต่อให้เสร็จซะ ไปได้แล้วม่านฟ้า” นาธานหันไปพูดสั่งโรสเสียงเรียบ โดยไม่สนใจว่าหญิงสาวที่ยืนอยู่จะแสดงท่าทีอย่างไง หลังจากนั้นก็หันมาพูดกับม่านฟ้าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ต่อ
“ค่ะ” ม่านฟ้าที่ปฏิเสธอะไรไม่ได้ ก็รีบพยักหน้าตอบกลับแล้วก้าวเดินตามชายหนุ่มออกไปอย่างช่วยไม่ได้
โรสยืนจ้องมองทั้งสองคนเดินจากไปด้วยความขุ่นเคือง อะไร อะไรก็ม่านฟ้า ๆ เธอละอยากรู้จริง ๆ ว่ายัยพนักงานแต่งตัวเชย ๆ นั้น มันมีดีอะไรนักหนานาธานถึงได้ชอบเรียกใช้แต่ผู้หญิงคนนั้นตลอด