บทที่ 5 ความบังเอิญ
ในที่สุดวันที่ม่านฟ้ารอคอยก็มาถึง นั่นก็คือวันที่เธอจะได้เริ่มงานใหม่ในตำแหน่งเลขาท่านประธานนั้นเอง บอกเลยว่าตอนที่เธอรู้เรื่องว่าตัวเองถูกเลือกนั้น เธอดีใจจนแทบจะเป็นลมเลยทีเดียว เพราะม่านฟ้าไม่คิดจริง ๆ ว่าพนักงานตัวเล็ก ๆ อย่างเธอจะได้รับเลือกแบบนี้
ถึงตอนนี้หญิงสาวจะมายืนรอพบท่านประธานอยู่หน้าแล้วก็ตาม ม่านฟ้าก็ยังแทบไม่อยากเชื่อตัวเองอยู่ดี ไม่คิดเลยว่าการที่ตัดสินใจลองยื่นใบสมัครในวันนั้น จะทำให้เธอได้เลื่อนขั้นเป็นเลขาคนใหม่ของท่านประธานจริง ๆ แถมเงินเดือนที่จะได้รับก็เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเลยด้วย
ม่านฟ้ายืนอยู่หน้าห้องของประธานบริษัทด้วยความตื่นเต้น มือทั้งสองข้างเย็นเฉียบไปหมด เพราะใจหนึ่งหญิงสาวก็รู้สึกดีใจมากที่ได้มาเป็นเลขาคนใหม่ของท่านประธานแบบนี้ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกกลัวมากด้วยเหมือนกัน
เพราะเท่าที่ม่านฟ้าได้ยินมาท่านประธานคนนี้เป็นคนเย็นชาเจ้าระเบียบและเข้มงวดมาก เห็นว่าทำงานผิดพลาดแค่นิดหน่อยก็จะถูกเรียกตัวมาตำหนิทันที และอีกเรื่องที่พวกเพื่อน ๆ ในแผนกชอบพูดถึงกัน นั้นก็คือหน้าตาของท่านที่ว่าหล่อมากจนติดท็อปอันดับหนึ่งของประเทศเลยทีเดียว แต่ม่านฟ้าก็ยังไม่เคยเห็นหน้าของท่านเลยสักครั้ง เพราะตอนที่พวกเพื่อน ๆ ดูรูปของท่านกันเธอก็ไม่เคยสนใจที่จะไปดูด้วยสักครั้ง
ประตูบานใหญ่ที่ปิดอยู่ก็ถูกเลขาหนุ่มเปิดออก ม่านฟ้ากับโรสเดินตามหลังเจมส์เข้ามาในห้องอย่างช้า ๆ สายตาของทั้งคู่แอบมองสำรวจรอบ ๆ ห้องหรูของประธานอย่างอดไม่ได้ ด้านในดูกว้างมากและสวยมากเพราะมันถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูแบรนด์ดังเกือบทั้งหมด ม่านฟ้าแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองว่านี่คือบริษัทเดียวกันที่เธอทำงานอยู่ เพราะห้องนี้มันแตกต่างจากที่ทำงานเก่าของแผนกเธออย่างลิบลับ
หญิงสาวทั้งสองก้าวเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของท่านประธาน ที่ชายหนุ่มใส่สูทสีน้ำเงินเข้มกำลังก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่ที่โต๊ะ ประธานหนุ่มค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นดูเลขาสาวทั้งสองคนตรงหน้าอย่างช้า ๆ พอได้เห็นคนที่ตัวเองอยากเจอมาหลายวันยืนอยู่ตรงหน้า ริมฝีปากหนาก็ยกยิ้มออกมาจาง ๆ อย่างชอบใจ ต่างจากหญิงสาวตรงหน้า ที่พอได้เห็นคนที่นั่งอยู่ ก็ถึงกับแทบล้มทั้งยืน
ดวงตาคู่สวยเบินกว้างขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อม่านฟ้าได้เห็นหน้าคนที่นั่งอยู่แบบชัด ๆ เธอยืนนิ่งค้างราวกับว่าวิญญาณได้ หลุดลอยออกจากร่างไปไกลแล้ว นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย โลกนี้มันจะกลมเกินไปแล้วไหม ทำไมหน้าของท่านประธาน ถึงได้เหมือนกับผู้ชายที่เธอตบหน้า ในคืนนั้นมากขนาดนี้เลยล่ะ
ม่านฟ้าที่พยายามดึงสติกลับมา ใบหน้าสวยรีบก้มหน้าลง เพื่อหลบสายตาคนที่กำลังมองมาทางตัวเองทันที นี่เขาจะจำเธอได้ไหมนะ ถ้าเกิดจำได้ขึ้นมาจริง ๆ เธอมีหวังได้ออกไปเดินหางานใหม่อย่างแน่นอน โอ๊ย ตาย ตาย ม่านฟ้าครั้งนี้เธอจะรอดไหมเนี่ย
นาธานเงยหน้ามองเลขาสาวทั้งสองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ก้มหน้าอ่านเอกสารในมือตัวเองต่ออย่างไม่สนใจ ริมฝีปากหนาแอบกระตุกยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ออกมาจาง ๆ เมื่อชายหนุ่มได้เห็นสีหน้าตกใจของหญิงสาวตรงหน้า หึหึ คิดจะมาก้มหน้าหลบเขาตอนนี้มันก็สายไปแล้วแม่ตัวดี ถึงวันนี้หญิงสาวจะเปลี่ยนลุค อยู่ในชุดพนักงานออฟฟิศแต่งตัวเรียบร้อย ราวกับเป็นคนละคนในคืนนั้น แต่ชายหนุ่มก็ยังคงจำเธอได้เหมือนเดิม
“สวัสดีค่ะ พี่ธาน” โรสเอ่ยทักทายขึ้นอย่างสนิทสนม
ใบหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางแบรนด์ดัง ฉีกยิ้มหวานหยาดเยิ้มให้กับประธานหนุ่มอย่างยั่วยวน โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าการแสดงท่าทางสนิทสนมออกมาแบบนั้น มันทำให้ชายหนุ่มตรงหน้ารู้สึกไม่ชอบใจมาก ๆ
“อืม…แล้วอีกคนมัวยืนก้มหน้าทำอะไรอยู่” นาธานตอบกลับสั้น ๆ อย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็หันไปพูดเสียงแข็งใส่คนที่ยืนก้มหน้ามองพื้นห้องอยู่แทน หึหึ วันนี้ทำมาเป็นกลัว ทีวันนั้นเล่นตบเขาจนหน้าชาเลยนะ
“เออ…สวัสดีค่ะ คุณนาธาน” ม่านฟ้าสะดุ้งตกใจ แล้วรีบเงยหน้าขึ้นมาทันที ใบหน้าสวยพยายามฝืนยิ้มแห้ง ๆ ออกไปอย่างเสียไม่ได้
ในใจของม่านฟ้าตอนนี้ก็พยายามภาวนา ให้ชายหน้าจำหน้าเธอไม่ได้ อีกอย่างวันนั้นมันดึกมากแล้ว เขาอาจจะเห็นหน้าของเธอไม่ชัดก็ได้ เพราะถ้าท่านประธานจำหน้าของหญิงสาวได้จริง ๆ ก็คงจะไม่เลือกให้เธอมาเป็นเลขาคนใหม่แบบนี้อย่างแน่นอน แถมการแต่งตัวของเธอในตอนนี้กับคืนนั้นมันก็ต่างกันมากเลยด้วย ท่านประธานคงจะจำเธอไม่หรอก ว่าเธอคือผู้หญิงที่ตบหน้าท่านและด่าว่าท่านในคืนนั้น มันจะต้องเป็นอย่างนี้แน่ ๆ
“แล้วเธอชื่ออะไร” นาธานแกล้งถามออกไปเหมือนว่าตัวเองยังไม่รู้จักหญิงสาวตรงหน้า แต่ความจริงแล้วชายหนุ่มนั่งอ่านประวัติส่วนตัวเองของเธอมาเป็นสิบ ๆ รอบไปแล้ว...