บท
ตั้งค่า

บทที่6 l พนัน

เสียงโทรศัพท์ของริวดังขึ้น เขามองหน้าจอมือถือ แล้วแหงนมามองหน้าฉัน ก่อนจะรีบออกไปรับสายข้างนอกเพราะในนี้เสียงดนตรีดังมาก

ริวหายไปไม่ถึงห้านาที ก็กลับเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มนิด ๆ ให้ทายคงเป็นเรื่องดีแน่ ๆ แล้วฉันก็เอียงศีรษะเล็กน้อยไปให้ริวกระซิบ

“&คุณหนูครับเมื่อกี้คนของเราโทรมาบอกว่า คุณคุโรถึงบ้านแล้วครับ จะให้นอนห้องไหนดี?” ริวเอ่ยเป็นภาษาญี่ปุ่น

ฉันยกตัวออกห่าง แล้วหันไปหาเรียวจัง

“&มาเร็วดี ให้นอนห้องฉันไปก่อน เรียวจังกลับไปจัดการให้หน่อยนะ”

“&ได้ค่ะ ริวดูแลคุณหนูด้วย” เรียวจังสั่งเสร็จก็เดินออกไป

ในวินาทีเดียวกัน พี่นัตซึก็หันมาหาฉันอย่างไวคอแทบเคล็ด

“&น้องให้คุโรมาด้วยเหรอ!!” น้ำเสียงแข็งกระด้าง คงอยากมีเรื่องมาก ฉันเองก็รีบตอบกลับไปแบบไม่กลัว

“&ใช่!! ทำไมมาไม่ได้เหรอ” ฉันทำเสียงเข้ม จ้องเขม็งใส่พี่นัตซึ

“&ได้ครับ ๆ ตามใจน้องเลย” พี่นัตซึเปลี่ยนท่าทางเป็นอ่อนน้อมทันที แล้วค่อย ๆ หันกลับไปทางเพื่อนต่อ และฉันเองก็นึกครึมอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ ตัดสินใจพูดขึ้นเสียงดังว่า

“พี่นัตซึทำไมที่นี่มันน่าเบื่อยังงี้ คนมากันเยอะแค่มากินเหล้าแล้วเต้น ๆ เนี่ยนะ”

เสียงของฉันทำให้ทุกคนต่างหันมามอง รวมถึงคนถูกเรียกด้วย

“คนที่มาเที่ยวก็แบบนี้แหละ แล้วน้องจะให้เขาทำอะไรกัน” พี่นัตซึเอ่ยจบก็หันไปนัวเนียผู้หญิงบนตักต่อ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ทำเมิน ต่างส่ายหัวเบา ๆ แล้วหันกลับไป

“เอางี้ไหม มาเล่นอะไรสนุก ๆ กัน” คราวนี้ฉันกดเสียงต่ำกว่าเดิม ทำเอาทุกคนหันมามองด้วยสายตาเบิกโพลง ก็เพราะใบหน้าโหดอย่างฉัน ตอนนี้กำลังยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย พลันให้ทุกคนต่างพากันขนลุกกันเป็นระนาว

“&เดี๋ยว ๆ ยิ้มแบบนั้นอย่าบอกนะว่าจะ...” พี่นัตซึเอ่ยไม่จบประโยค นิ่งไปชั่วขณะ ฉันเลิกคิ้วส่งให้ เขาเลยเอ่ยต่อ

“&โอเค ๆ เข้าใจแล้ว เอาเป็นว่าอย่าเล่นแรงก็แล้วกัน พี่ไม่อยากให้ผับพัง” พี่นัตซึรีบพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นยืดยาว แต่ใครสน? เพราะในเมื่อฉันตัดสินใจไปแล้ว อะไรก็ห้ามไม่อยู่

ว่าแล้วก็หันไปสั่งริว “&ต่อโต๊ะดิ๊ เอาขวดเหล้าและแก้วออกให้หมด”

“&ได้ครับคุณหนู” ริวลุกขึ้นทยอยเก็บแก้วออกไป คนอื่น ๆ นั่งมองตาปริบ ๆ แล้วคนชื่อเคนก็หันไปถามพี่นัตซึ “น้องมึงจะทำอะไรวะ”

“คืนนี้สนุกแน่ว่ะฮ่าฮ่าฮ่า” พี่นัตไม่ตอบคำถาม กลับหัวเราะอย่างสะใจ เด็กเสิร์ฟที่อยู่ใกล้ ๆ ก็เข้ามาช่วยริวเก็บแก้ว และเมื่อใกล้จะเสร็จ ฉันก็หันไปถามพี่นัตซึ “มีไพ่ไหม?”

“ฮ่าฮ่า คิดไว้ไม่มีผิด มี ๆ อยู่บนห้องทำงานพี่ เดี๋ยวให้เด็กไปเอาให้”

ไม่ถึงสิบนาที...สำรับไพ่แบรนด์หรูแซงต์ โลรองต์สีดำก็มาวางอยู่บนโต๊ะที่ริวจัดไว้ปูด้วยผ้าสักหลาดสีแดงเสร็จสรรพ ส่วนกลุ่มเพื่อนพี่นัตซึตอนนี้นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เพื่อดูลาดเลาว่าฉันจะทำอะไรต่อ

เมื่อทุกอย่างพร้อม ฉันก้าวเข้าไปฝั่งด้านในที่ข้างหลังเป็นกำแพงมีโต๊ะเล็ก ๆ กั้น ยืนหันไปฝั่งตรงข้ามที่คนอื่น ๆ นั่งอยู่ พยักหน้าเบา ๆ ให้พี่นัตซึที่หันมาสบตากันพอดี เขาพยักหน้ารับ ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก แล้วตะโกนไปหาเพื่อน ๆ

“พวกมึง!! ใครจะเล่นไพ่กับน้องกูบ้างวะ”

เป็นอย่างที่คิด เพื่อน ๆ ของเขาต่างยกมือยกไม้เสนอตัวเกือบทุกคน

“กู ๆ” แต่ละคนต่างพูดแทรก จนจับใจความไม่ได้ว่าเป็นเสียงใครบ้าง และพี่นัตซึก็ตัดปัญหาโดยการให้เพื่อนหกคน ลงมาเล่นกับฉันก่อน สองคนในนั้นคือ คนที่ชื่อเลโอและเคน ส่วนอีกสี่คนที่เหลือก็คือกลุ่มผู้ชายที่ฉันเจอในบ้านเมื่อกลางวัน ฉันจำหน้าพวกเขาได้โดยเฉพาะไอ้คนสักเต็มตัว เพราะตั้งแต่มานี่แววตาของมันก็เอาแต่จ้องฉันราวกับจะกลืนกินทั้งตัว

ทั้งหกคนเดินมานั่งประจันหน้ากับฉัน สีหน้ายิ้มแย้มอย่างมั่นใจ คงคิดว่าจะชนะเกมนี้ได้ง่าย ๆ สินะ ฝันไปเหอะ!

“เล่นป๊อกเด้งละกัน ง่ายดีและจบไว ฉันจะเป็นเจ้ามือเอง” ฉันเสนอตัวเป็นเจ้ามือ ส่วนอีกหกคนได้แต่นั่งตาโต แล้วหันไปมองหน้ากันเอง คงไม่เชื่อละมั้งว่าฉันจะเล่นไพ่เป็น

“แน่ใจเหรอว่าน้องจุนโกะจะเป็นเจ้ามือจริง ๆ สับไพ่เป็นหรือเปล่า ไม่เอาแบบสับไปไพ่หล่นไปนะ มันเสียเวลา” คนชื่อเคนเป็นคนถามก่อน คนอื่นก็เออออตาม ฉันขี้เกียจตอบ เลยหยิบไพ่ขึ้นสับอย่างชำนาญ เป็นคำตอบให้พวกนั้นแทน สีหน้าทุกคนดูตกใจยิ่งกว่าเก่า ไม่มีใครค้านอะไร เป็นอันว่ารู้กันยอมให้ฉันเป็นเจ้ามือ

“ว่าแต่รอบแรกพนันอะไรวะ” คนที่นั่งหัวโต๊ะเอ่ยถามกับเพื่อน ๆ ทุกคนทำท่าทางครุ่นคิด และเป็นฉันที่เอ่ยแทรกขึ้น “เอาเบา ๆ ก่อนละกัน”

ว่าแล้วก็หันไปโต๊ะด้านหลังที่ริววางพวกขวดเหล้าไว้ จัดการเทเหล้าเพียว ๆ ใส่แก้วใบหนึ่งเต็มแก้ว แล้วถือแก้วนั้นหันกลับมาวางไว้บนโต๊ะ

“ใครแดกรับรองโรคตับถามหาแน่” ชายคนที่ตรงกลางเอ่ยแทรกพร้อมกับทำหน้าแหยง ๆ

“รอบแรกใครแพ้แดกเหล้าแก้วนี้เลย” คนชื่อเลโอทำเสียงเข้มกวาดสายตามองเพื่อน ๆ

แล้วการพนันก็ได้เริ่มต้นขึ้น ฉันสับไพ่รัว ๆ ไม่มีหลุดมือสักใบ ทุกสายตากำลังจับจ้องอยู่ ไม่มีหรอกคำว่าอายหรือเขิน ยิ่งมีคนมองนี่สิ ฉันก็ยิ่งแสดงความสามารถ

จากนั้นก็แจกไพ่ให้ทั้งหกคนตามลำดับ รวมถึงของตัวเองด้วย และแจกอีกรอบจนครบคนละสองใบ แต่ละคนหยิบไพ่แง้มดูด้วยสีหน้าลุ้น ส่วนฉันก็แค่แง้มมุมไพ่พอให้เห็นตัวเลข แล้วปิดมันไว้เหมือนเดิม

คนชื่อเคนหงายไพ่เป็นคนแรก “กูป๊อกเก้า” ใบหน้าเขาดีใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะตัวเองเป็นคนชนะ ส่วนอีกห้าคนได้แต่นั่งเงียบ ฉันเลยถามต่อ

“มีใครจะเรียกไพ่อีกไหม?”

“พี่เอาจ้ะ” คนชื่อลีโอเอ่ยก่อนใคร ฉันเลยส่งไพ่ให้เขาหนึ่งใบ ส่วนคนที่เหลือก็ทยอยเรียกตาม ฉันส่งไพ่ให้ครบทุกคน แล้วหยิบอีกใบให้ตัวเอง

ในตอนนั้น เสียงสูงก็เอ่ยขึ้นเสียงดัง “กูแปดแต้ม” เป็นเสียงคนชื่อเลโอ เขาเอ่ยพร้อมกับหงายไพ่สามใบในมือ แล้วคนอื่นก็ทยอยเปิดตาม

“กูหก”

“กูห้า รอดแล้วเว้ย”

“สี่”

เหลือแค่ไอ้รอยสักเต็มตัวที่ยังไม่เปิด เขาหันมาจ้องฉันที่ยังไม่เปิดไพ่เช่นกัน ใบหน้าเถื่อน ๆ ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะหงายใพ่ทั้งสามใบ แล้วยกมือขึ้นประสานวางไว้ระดับปากพอดี

“ของพี่หกนะน้องจุนโกะ ตานี้เจ้ามือแพ้แน่ ๆ”

ใช่! ตอนนี้ทุกสายตากำลังจับจ้องมาที่ฉัน เพื่อไม่ให้เสียเวลา ฉันก็หงายใพ่ตัวเองให้ทุกคนได้เห็น แววตาแต่ละคนส่อแววสมน้ำหน้าทั้งนั้น เพราะตานี้ฉันได้ไพ่คิงโพดำ แหม่มโพแดง และแหม่มข้าวหลามตัด นั่นหมายความว่าฉันไม่มีแต้ม

“กูรอดแล้วเว้ย” คนที่ได้สี่คะแนนตะโกนเสียงดังอย่างดีใจ

“อืม...เจ้ามือบอด ฉันแพ้” ฉันเอ่ยในขณะที่กำลังกวาดไพ่ของทุกคนมารวมกัน

“น้องจุนโกะแพ้ก็ต้องดื่มนะ ไม่มีข้อยกเว้น” และคนที่เอ่ยต่อก็คือคนชื่อเคน ฉันหันไปมองเขาด้วยสายตานิ่ง และในตอนนั้น มีก็เสียงแหลมเอ่ยแทรกมาจากด้านข้างพี่นัตซึ “คิดว่าแน่ เด็กพึ่งหัดเล่นชัด ๆ”

จะเป็นใครล่ะ...ก็ผู้หญิงที่เป็นเด็กพี่นัตซึนั่นแหละ ฉันหันไปมองหล่อน คุณเธอก็เบ้ปากใส่ทันที

‘อีนี่! น่าเอาลูกปืนกรอกปากจริง ๆ ’ แต่ฉันเลือกที่จะไม่ทำ เพราะเรื่องสนุกตรงหน้ามันหวานยั่วยวนกว่า...

พี่นัตซึคงเห็นว่าฉันเงียบไป เขาเลยจะลุกมาหา “จุนโกะ...มา ๆ เดี๋ยวพี่กินแทนเอง”

ก็นับว่าพี่นัตซึยังเป็นพี่ชายที่ดีอยู่บ้าง แต่แค่เหล้า ฉันไม่จำเป็นให้ใครมาช่วยหรอก

“ไม่ต้องยุ่ง!!” เอ่ยจบก็เอื้อมมือหยิบแก้วเหล้าซด วินาทีนั้นมีเสียงอื้ออึงดังสอดแทรกขึ้น ฉันไม่ได้สนใจฟัง เลยไม่รู้ว่าพวกนั้นพูดว่าอะไร

รสขมปนหวานลงคอไปหลายอึกจนในที่สุดก็หมดแก้วในเวลาไม่ถึงนาที แก้วเปล่าวางลงบนโต๊ะเสียงดัง ปึก!! แล้วฉันก็กวาดสายตามองทุกคนที่นั่งอ้าปากค้าง พลางใช้หลังมือเช็ดปากที่เลอะไปด้วยคราบเหล้า

“โคตรเก่งว่ะ” คนชื่อเลโอเอ่ยพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้ ฉันไม่ได้ปลาบปลื้มไปกับคำพูดของคนแบบนี้หรอก

“ไหวไหมน้องจุนโกะ เลิกเล่นไหม หรือให้พี่เป็นเจ้ามือแทน” คนชื่อเคนเอ่ยต่อ ฉันหันขวับไปมองเขาด้วยสายตาดุ ใบหน้าคม ๆ ที่ยิ้มอยู่ก็ถึงกับนิ่งไปเลย

“กะ...กูว่าน้องจุนโกะคงไหว” คนที่นั่งข้าง ๆ รีบสะกิดคนชื่อเคน ทุกอย่างเลยกลับเป็นปกติ ยกเว้นแต่สายตาไอ้คนสักเต็มตัว ที่มันกำลังมองฉันด้วยแววตาหวานเยิ้ม แต่ใครสน!!

ฉันหันกลับมาเก็บไพ่ พลางกวาดสายตามองผู้ชายตรงหน้าทั้งหกคน แล้วเอ่ยกดเสียงต่ำ “ต่อไปพนันอะไรกันดี”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel