บท
ตั้งค่า

บทที่3 l จัดการ

พี่นัตซึวางแก้วเหล้า แล้วรีบผลักตัวผู้หญิงบนตักออก ค่อย ๆ หยัดตัวลุกขึ้นยืน ด้วยใบหน้าเจื่อนดวงตาเบิกโพลง พลางเช็ดมือข้างที่พึ่งดึงออกมาจากใต้บิกินี่ผู้หญิงคนนั้น ถูครูดไปกับตะเข็บข้างกางเกงว่ายน้ำที่ตัวเองใส่อยู่

“พี่นัตคะ ทำงี้ได้ไง อีนี่มันเป็นใคร ทำไมต้องผลักออยด้วย” หล่อนชี้หน้าฉันอย่างไม่พอใจ แต่ดูเหมือนพี่ตัวปัญหาไม่ได้สนใจหล่อนเลย หันไปมองเพื่อนร่วมโต๊ะด้วยสายตาละห้อย แล้วเอ่ยต่อ

“พวกมึง...กลับก่อน ๆ งานเลิกแล้ว” พี่นัตซึเอ่ยพร้อมกับสะบัดมือไล่ แต่ละคนต่างทำหน้าซังกะตาย แต่ก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ไหวติง แล้วไอ้คนรอยสักเต็มตัว ก็หันมามองหน้าฉันแบบงง ๆ ก่อนลุกขึ้นมากระชากแขนฉันเข้าหาตัวเอง “ตกลงอีนี่เป็นใครวะไอ้นัต?”

ไอ้เราก็รีบสะบัดมือออกอัตโนมัติ มันยอมปล่อยอย่างว่าง่าย แต่สำหรับฉัน...ใครที่มันกล้ามาแตะเนื้อต้องตัว ล้วนไม่เคยมีชีวิตรอด

“มึงต่างหากล่ะที่เป็นใคร? กล้าดียังไงมาจับกู!! ริวเอาดาบมา!!” ฉันพูดด้วยความโมโห ทุกสายตาหันมาจับจ้อง รวมพี่นัตซึด้วย

‘การตายที่เหมาะสมกับคนแบบนี้ มันต้องเป็นดาบเท่านั้น ดาบที่ค่อย ๆ ปลิดชีวิตมันช้า ๆ เลือดอุ่น ๆ ที่ทยอยไหลรินออกมา นั่นแหละคือสิ่งฉันชอบที่สุด’

“ใจเย็น ๆ ได้ไหม” สายตาเว้าวอนหันมามองฉัน ก่อนจะหันไปทางริวที่กำลังจะเดินกลับไป “ไอ้ริวไม่ต้องเลยมึง ยืนเฉย ๆ ไว้” พี่นัตซึห้ามไว้ ริวก็ยอมฟังคำสั่ง ยืนอยู่ข้างหลังฉันห่าง ๆ แล้วพี่นัตซึก็หันไปหาเพื่อน ๆ อีกครั้ง

“พวกมึงกลับไปก่อนเลยกูไหว้ล่ะ” ไอ้พี่กระจอกยกมือไหว้อย่างเสียศักดิ์ศรี ถ้าพ่อรู้เข้า คงตัดมือมันทิ้ง น่าเสียดายที่เมื่อกี้ฉันถ่ายรูปเป็นหลักฐานไว้ไม่ทัน

และวินาทีนั้นผู้หญิงที่เคยนั่งตักพี่นัตซึก็ฉวยโอกาสเดินเข้าไปเกาะแขนแล้วเอ่ยแทรก

“พี่นัตคะ ออยไม่ยอมนะคะยังสนุกอยู่เลย ยัยนี่เป็นใครล่ะเสือกมางานนี้ ใครชวนมาไม่ทราบ” หล่อนใช้ทรวงอกถูไถไปกับแขนพี่นัตซึในขณะที่พูด สายตาไอ้พี่กระจอกดูอ่อนระทวยตาม ลืมไปแล้วมั้งว่าน้องสาวยังยืนอยู่ตรงนี้

“คนที่เสือก น่าจะเป็นมึง” ฉันเถียงกลับ หล่อนหันขวับมาจิกตาใส่ ก่อนจะเดินมาประจันหน้า

“อี่นี่!! มึงนั่นแหละเสือก” หล่อนไม่เอ่ยเปล่า กำลังง้างมือยกทำท่าทางจะตบ ฉันเร็วกว่าหยิบปืนจากเอวออกมาจ่อไปขมับผู้หญิงคนนั้น

“มึงลองตบกูซิ” น้ำเสียงกดต่ำ หรี่สายตาจ้องสอดประสานกับนัยน์ตาสีดำที่กำลังสั่นเครือ หล่อนหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด ส่วนคนอื่นต่างหันมองมาที่ฉันเป็นตาเดียว

ทันใดนั้น...

ปลายกระบอกปืนก็เปลี่ยนไปยิงขึ้นฟ้าแทน ปั้ง..ปั้ง สองนัดยิงออกไปอย่างไม่กลัวใคร จากนั้นก็ตามด้วยเสียงแผดระงมของเหล่าผู้หญิงดังยิ่งกว่าลำโพง ต่างวิ่งหนีอย่างชุลมุน พากันเบียดเสียดแย่งกันไปทางประตูบ้านด้วยความกลัวตาย ชนโน้นชนนี่จนทุกอย่างระเนระนาด เสียงดนตรีสนุกสนานก่อนหน้านี้ ก็เงียบกริบราวกับไม่เคยเปิดมาก่อน

‘ถ้ารู้ว่าจะทำให้ที่นี่เงียบเร็วขนาดนี้ ฉันคงใช้ปืนไปนานแล้ว’

ในตอนนั้นหนึ่งในคนร่วมโต๊ะกับพี่นัตซึก็เอ่ยแทรก

“น้อง ๆ ใจเย็น ๆ” มันไม่เอ่ยเปล่าแต่กลับเดินมาทางฉัน ไอ้เราไม่อยากจะพูดมากอีก เลือกที่จะหันปลายกระบอกปืนไปทางพี่นัตซึแทน

“ถ้าใครยังอยู่อีก กูยิงไส้แตกแน่” ทุกคนหยุดชะงัก ราวกับเป็นแท่นปูน โดยเฉพาะไอ้พี่กระจอกของฉัน มันยกสองมือขึ้นทันที เป็นการบอกยอมแพ้

“พี่ขอโทษจุนโกะ ใจเย็น ๆ นะครับ อย่าเล่นแบบนี้สิ เดี๋ยวผีผลักยิงโป้งป้างขึ้นมาจะทำไง” เจ้าตัวเข้ามาช้า ๆ หาฉัน และวินาทีนั้นเพื่อนมันคนหนึ่งก็เอ่ยถามขึ้น

“ไอ้นัตตกลงอีนั่นเป็นใครวะ? มึงรู้จักใช่ไหมหรือเป็นเด็กมึง” ชายคนนั้นถาม แต่สายตาทุกคนกลับหันมามองฉันด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“รู้จักดีเลยว่ะ ก็นี่น้องสาวกูเอง”

“ฮะ!!” แต่ละคนพูดอุทานออกมาพร้อมกัน เบิกตาโพลงอย่างตกใจ มองฉันสลับกับพี่นัตซึอีกครั้ง นัยน์ตาแสดงออกว่าไม่มีใครเชื่อหรอก

“น้องแก้ผ้าท้องชนกันเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า” ก็ไม่วาย มีผู้ชายอีกคนเอ่ยต่อพร้อมกับหัวเราะเสียงดังลั่น คงคิดว่าพี่นัตซึพูดโกหก ถึงฉันจะไม่ค่อยรู้ความหมายของประโยคนั่นเท่าไหร่ แต่เสียงหัวเราะนั่นทำเอาฉันไม่สบอารมณ์เลยแฮะ

“บ้าเหรอมึง นี่น้องสาวกูแท้ ๆ คลานตามกันมาเลยเว้ย”

“น้องสาวแท้ ๆ !!” ไอ้ผู้ชายทั้งห้าคนต่างทำหน้าตกใจมากกว่าเดิม จ้องพี่นัตซึเพื่อให้เขายืนยันคำพูดออกมาอีกครั้ง และเป็นฉันที่เอ่ยแทรกซะก่อน

“เออ พวกมึงมีปัญหาอะไรไหม?” ฉันกวาดสายตามองพวกมัน ถามกลับด้วยน้ำเสียงหาเรื่อง

“น้องมึงโหดว่ะ” ชายอีกคนเอ่ยต่อ ทุกสายตาหันมามองฉันด้วยหน้าขยาด ๆ ไม่รู้สิ...ฉันชอบแววตาที่คนอื่นมองฉันแบบกลัว ๆ นะ เพราะมันทำให้ฉันมีอำนาจดี

“เออ ๆ พวกมึงกลับก่อน กูขอเคลียร์กับน้อง” พี่นัตซึเดินมาจับปืนที่ฉันถืออยู่ จริง ๆ ก็แค่ขู่มันไปอย่างงั้นแหละ ใครจะยิงได้ ก็ในเมื่อพ่อไม่ได้สั่งมา

“เก็บปืนก่อนนะน้องรักของพี่ ดูสิคนอื่นกลัวหมดแล้ว”

ฉันยอมเก็บปืนเสียบไว้ที่เอวเหมือนเดิม ก่อนจะแหงนมองพี่ชายตัวดี

“ดูมึงทำสิจัดปาร์ตี้เซ็กซ์ในบ้านเนี่ยนะ กูยิงทิ้งดีไหมไอ้นัตซึ” ฉันหันไปมองที่ประตู ผู้ชายแปลกหน้าสองสามคนกำลังวิ่งออกไปเป็นกลุ่มสุดท้าย แล้วหันกลับมามองพื้นริมสระที่มันเลอะเทอะไปหมด ไหนจะเป็นเหล้าเบียร์หกกระจายเต็มพื้น ไหนจะน้ำข้น ๆ สีขาวขุ่นอีก ไม่มีร่องรอยความสะอาดเหลืออยู่เลย

‘เมื่อกี้น่าจะยิงทิ้งทีละตัว ให้รู้แล้วรู้รอดไป จะได้จบ ๆ เฮ้ออออ’

“พี่ขอโทษครับ” ตัวปัญหาเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา ฉันหันกลับไปมอง เจ้าตัวกำลังก้มหน้ามองพื้น ทำท่าทางเหมือนสำนึกผิด ใจจริงก็อยากใช้ด้ามปืนตบกบาลเรียกมโนสำนึกให้พี่นัตซึสักที แต่เลือกที่จะไม่ทำ เพราะถึงยังไงมันก็เป็นพี่ชายฉันอยู่ ถ้าเป็นคนอื่นนะ...แม่ง! จะยิงให้ไส้แตก

“ชิ๊!! ฉันจะไปรอห้องใหญ่ข้างบน เรียกลูกน้องทุกคนมาประชุมด่วน อย่าให้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง” ฉันยื่นคำขาด กดเสียงต่ำ สายตาดุจ้องพี่นัตซึ เจ้าตัวรีบพยักหน้ารับรัว ๆ พร้อมกับเอ่ยตอบ “ได้ครับ ๆ”

จากนั้นฉันก็เดินกลับเข้าบ้าน ขึ้นไปชั้นสาม

-ชั้นสาม-

เป็นห้องโถงที่พ่อทำไว้ ในสไตล์ญี่ปุ่นปูด้วยเสื่อทาทามิสีน้ำตาลอ่อน มีประตูโชจิ(บานเลื่อนญี่ปุ่น) เป็นทางเข้าสองทางคือด้านหลังที่ให้พวกลูกน้องเข้า และประตูด้านข้างไว้สำหรับเจ้านายเท่านั้น ห้องนี้มีไว้เพื่อประชุมและจัดการลูกน้องที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งโดยเฉพาะ พ่อเป็นคนอนุญาตให้ฉันใช้ห้องนี้ได้ตามสบาย ดังนั้นวันนี้แหละพวกมันจะได้รู้กันไปเลยว่าการลงโทษจากจุนโกะคนนี้มันเป็นยังไง...

ฉันเปลี่ยนชุดเป็นกิโมโนสีดำอย่างเป็นทางการ ปล่อยผมสยายยาวละถึงกลางหลัง แล้วเดินเข้าไปในห้องโถงกว้าง เลือกนั่งข้างหน้าในท่าคุกเข่าของญี่ปุ่น

สามสิบนาทีผ่านไป

พรึบ!!

ประตูโชจิบานหลังห้องก็ถูกเปิดออก มีกลุ่มผู้ชายแต่งชุดยูกาตะสีเทา ข้างเอวเสียบดาบซามูไรเดินเข้ามาสามสิบคน มานั่งคุกเข่าเป็นแถว ๆ อย่างเป็นระเบียบต่อหน้าฉัน และคนสุดท้ายที่เข้ามาคือ พี่นัตซึ ที่เปลี่ยนเป็นชุดยูกาตะสีดำ เดินมานั่งข้างหน้า เมื่อเห็นว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว ฉันก็หันไปบอกเรียวจังที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

“&เอาของมา”

เรียวจังก้มคำนับ แล้วลุกไปหยิบดาบซามูไรเล่มยาว ปลอกสีดำ มีตราแก๊งนกยูงอยู่บนดาบ ที่วางอยู่บนแท่นโชว์ข้างหลังมาให้ มันเป็นดาบที่พ่อให้ฉันเอาติดตัวมาจากญี่ปุ่น เพื่อยืนยันคำสั่งที่จะให้ฉันเป็นคนคุมที่นี่

“&นี่ค่ะคุณหนู” เรียวจังพูดพร้อมทั้งก้มศีรษะยื่นสองมือส่งดาบมาให้ ฉันหยิบดาบมาแล้ววางแนวตั้งตรงหน้า หันสัญลักษณ์แก๊งออกนอกตัว ให้ทุกคนได้เห็นชัด ๆ มือข้างขวาจับด้ามไว้แน่น ส่วนปลายดาบวางปักบนพื้น ทุกคนก้มศีรษะแตะพื้นทำความเคารพพูดพร้อมกันว่า “&คารวะนายใหญ่”

แน่นอนเมื่อเห็นดาบนี้เปรียบเสมือนได้เห็นนายใหญ่ ทุกคนเลยต้องทำคำนับแบบนี้

“&ทุกคนเงยหน้าขึ้นได้ รู้ไหมว่าฉันมาที่นี่ทำไม”

แต่ละคนต่างพากันเงียบ ไม่มีเลยที่จะหันมาสบตา

“&มาเที่ยวหรือมาพักผ่อนครับ” พี่นัตซึพูดแทรกขึ้น ฉันหันไปมองเขาทันที

“&ไม่ใช่!! ฉันมาที่นี่เพื่อมาคุมและดูแลทุกอย่างแทนคนไม่ได้เรื่อง” ฉันพูดด้วยเสียงเข้ม ทำตาดุใส่พี่นัตซึที่กำลังหน้าซีด เม็ดเหงื่อพราวเต็มหน้าผากอย่างเห็นได้ชัด คงจะรู้ตัวแล้วล่ะว่าพ่อรู้ความจริงเรื่องทั้งหมดแล้ว

“&จะขอเข้าเรื่องเลย ใครมีหน้าที่ส่งรายการไปให้หัวหน้าใหญ่ที่ญี่ปุ่น” ฉันหันกลับไป กวาดสายตามองพวกลูกน้อง และในจังหวะเดียวกันก็มีผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งแถวหน้าสุดอายุประมาณสามสิบกว่า ๆ ยกมือขึ้น

“&กระผมเองครับคุณหนู”

“&ชื่ออะไร” ฉันถามคนนั้น

“&กระผม เคซึเกะ เป็นหัวหน้าการ์ดและเป็นคนส่งรายงานให้นายใหญ่ที่ญี่ปุ่น”

“&ส่งไปว่าอะไร”

“&กระผมส่งไปว่าทุกอย่างที่นี่เรียบร้อยดี นายน้อยไปเรียนและตั้งใจทำงานครับ”

ปึก!! ปึก!! ฉันกระทุ้งปลายดาบซามูไรกับพื้นด้วยความโมโห เพราะรู้อยู่แล้วว่าผู้ชายคนนั้นกำลังโกหก ส่วนคนอื่น ๆ พลอยตกใจหน้าซีดตาม

“&กูถามว่าเรื่องจริงเป็นแบบนั้นไหม!!” ฉันกำลังโมโหมาก พูดตวาดเสียงดัง ถึงขั้นผู้ชายบึกบึนทั้งสามสิบคนพากันสะดุ้ง ต่างพากันหลบสายตาเอาแต่นั่งมองพื้น

“&คือ ๆ”

“&กฎของแก๊งว่าไง”

“&ลูกน้องในแก๊งคนไหนโกหก ต้องคว้านท้องตัวเองเป็นการลงโทษ”

“ห๊ะ!!” คนที่ดูเหมือนจะตกใจที่สุดคือพี่นัตซึ เขาหันไปมองลูกน้องคนนั้น แล้วหันมามองฉัน

“&เดี๋ยว ๆ พี่ผิดเอง พี่ให้เคซึเกะเป็นคนรายงานแบบนั้น พี่บังคับเอง จุนโกะลงโทษพี่สิ จะไปทำลูกน้องทำไมกัน”

ระหว่างที่พี่นัตซึพูดแทรกขึ้นนั้น เคซึเกะก็ดึงเสื้อยูคาตะลงจากไหล่ข้างขวาไปมาถึงหน้าอก แล้วชักดาบสั้นอันเล็กออกมาง้างขึ้นสุดแขนเตรียมแทงเข้าท้องตัวเอง ฉันหันไปเห็นซะก่อน เลยรีบห้ามไว้ “&หยุดเดี๋ยวนี้เคซึเกะ!!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel