บท
ตั้งค่า

บทที่2 l ถึงไทย

เวลาบ่ายสาม พวกฉันก็มาถึงประเทศไทย อย่างปลอดภัย

“&ประเทศไทยทำไมมันร้อนอย่างงี้เนี้ย” ฉันบ่นขณะที่พวกเรากำลังยืนรอรถมารับ ถึงจะเคยมาตอนเด็ก ๆ แต่ใครจะไปคิดว่าประเทศไทยจะร้อนกว่าเดิม เจออากาศร้อนเข้าไปพาลให้ฉันต้องหงุดหงิดทุกที ใบหน้าที่มักจะเรียบเฉย ตอนนี้หัวคิ้วแทบจะผูกติดกันได้

“&ใช่ค่ะคุณหนู แล้วจะทนได้ไหมเนี่ย” เรียวจังเอ่ย เธอเป็นผู้หญิงผมยาวสีดำขลับ ตัวผอม หน้าตาน่ารัก สูงกว่าฉันนิดหน่อย เธออายุมากกว่า แต่พวกฉันสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เธอกำลังช่วยเอามือโบก ๆ พัด ๆ ให้ฉันอย่างเป็นห่วง

“&บอกแล้วว่าอย่าเรียกคุณหนู ให้เรียกเป็นกันเองสิ พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ ลองเรียกจุนโกะซิ”

ก็มีแค่เธอคนเดียวแหละที่ฉันให้ความสำคัญ ไม่เคยคิดสักครั้งว่าฉันอยู่ในฐานะเจ้านาย ส่วนเธอแค่คนใช้ในบ้าน

“&ได้ค่ะคุณ..เฮ้ย ๆ จุนโกะ” เรียวโกะเอ่ยด้วยความเขินอาย มือที่ช่วยพัดอยู่ กลับเปลี่ยนไปยืนประสานกัน แล้วบิดตัวไปมาเบา ๆ จะบอกว่าเป็นครั้งแรกก็ได้ ที่เธอเรียกชื่อฉันเต็ม ๆ เพราะพวกเราพ้นจากสายตาพ่อเจ้าระเบียบมาไกล

“&รถมาแล้วครับ” ริวเอ่ยแทรก พร้อมหันไปมองยังรถเก๋งคันสีดำสนิทที่ขับมาจอดหน้าพวกฉันพอดี

“&คุโรล่ะ” ฉันหันกลับไปถามริว เพราะเป็นห่วงคุโรขึ้นมา อยู่ห่างกันแบบนี้ตั้งหลายชั่วโมงไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง

“&คุณคุโรจะตามไปทีหลังครับ” ริวตอบกลับด้วยเสียงปกติ แล้วเดินมาลากกระเป๋าเดินทางให้

“&จัดแจงให้คุโร เดินทางอย่างปลอดภัยที่สุดเข้าใจมั๊ย” ฉันเอ่ยเน้นย้ำกับริวอีกครั้ง

“&ครับคุณหนู” ริวก้มศีรษะเล็กน้อยเพื่อเป็นการรับคำสั่ง จากนั้นพวกฉันก็ขึ้นรถที่พ่อเตรียมไว้ให้ ทั้งริวและเรียวจัง พูดภาษาไทยได้นะเพราะอยู่บ้านเดียวกับฉัน มีป้าแววคอยสอนให้พูดกันมาตั้งแต่เด็ก การมาไทยเลยไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเรา

ในที่สุด รถก็จอดหน้าบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง

ฉันแหงนมองบ้านหลังนั่นในขณะที่ยังนั่งอยู่ในรถ บ้านที่พ่อซื้อให้ไอ้นัตซึ บ้านที่มันเริงร่าอย่างอิสระเมื่อพ้นสายตาพ่อ หึ! มันคงมีความสุขมากจนลืม ไปแล้วมั้งว่าที่ญี่ปุ่นเป็นยังไง และขอบอกเลยว่ามันจะมีความสุขก็แค่วันนี้แหละ เพราะฉันมาแล้ว...ฉันเดินทางไกลมาก็เพื่อมัน

ริวคือคนแรกที่ลงจากรถ มาเปิดประตูให้ฉันลงตามไป ในขณะที่ยืนอยู่หน้ารั้วเหล็กก็ได้มองสำรวจเข้าไปในบ้าน ในรั้วมีการ์ดหน้าดุดันยืนคุมเต็มพื้นที่นับด้วยตาเปล่าก็น่าจะเกือบยี่สิบคน การ์ดทั้งหมดเป็นคนญี่ปุ่น ที่รู้เพราะพวกนี้เป็นคนที่พ่อส่งมาให้ดูแลลูกชายสุดที่รัก การ์ดคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ประตูเหล็กที่สุด รีบเดินมาถามพวกฉันผ่านรั้วเหล็ก “ไม่ทราบมาหาใครครับ” การ์ดคนอื่นพลอยหันมามองพวกเรากันเป็นตาเดียว

อื้ม!! ไม่คิดว่าไอ้พวกการ์ดญี่ปุ่นจะพูดไทยได้ชัดขนาดนี้ เป็นข้อดีอย่างเดียวมั้ง ที่พวกมันเรียนรู้ไวในเรื่องการปรับตัว

แต่ด้วยความหงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บวกกับที่พวกการ์ดจำตัวเองไม่ได้ ฉันเลยเป็นฝ่ายที่เอ่ยตอบ ก่อนริวกับเรียวจังสะอีก

“&ต้องบอกไหมว่ามาหาใคร เปิดประตู!!” แค่ตะโกนไปเป็นภาษาญี่ปุ่นแสดงความไม่พอใจ การ์ดคนนั้นถึงกับเบิกตาโพลง อ้าปากค้าง นิ่งไปชั่วขณะ คงจำได้แล้วมั้งว่าฉันเป็นใคร และในตอนนั้นเรียวจังที่ยืนอยู่ใกล้รั้ว ก็สอดมือผ่านซี่เหล็กไปตบหน้าเขาเบา ๆ สองสามครั้งเพื่อให้ได้สติ เขาสะดุ้งก่อนจะรีบก้าวมาเปิดประตูให้ฉันด้วยความร้อนรน ส่วนการ์ดที่ยืนอยู่ไม่ไกลมากนัก ได้ยินทุกอย่างถึงกับยืนประสานมือหลุบคอก้มมองพื้น พาลให้การ์ดที่อยู่ไกล ๆ ต่างพากันทำหน้าตาฉงน แต่ฉันไม่สน เพราะเหตุผลที่ฉันมาที่นี่ก็เพื่อมาจัดการเจ้านายของพวกมันต่างหาก

“&ชะ...เชิญครับคุณหนู” การ์ดคนเดิมเปิดประตูออกกว้าง ผายมือให้ฉันเข้าไปในบ้าน เรียกฉันว่า ‘คุณหนู’ แน่นอนว่าคงจำกันได้แล้วล่ะสิ

“&ไอ้นัตซึอยู่ไหน?” ฉันเอ่ยเสียงต่ำถามกลับ พลางก้าวเข้าไปในบ้าน

“&เอ่อ...” มันพูดอ้ำอึ้ง กลอกตาไปมาอย่างมีพิรุธ ทำเอาฉันหงุดหงิดต้องหยุดเดินแล้วหันไปทำหน้าดุใส่มัน

“&ตะ..ตอนนี้นายกำลังจัดปาร์ตี้ที่สระว่ายน้ำครับ” การ์ดพูดด้วยเสียงเบา หลับตาปี๋ ท่าทางกลัว ๆ นั่นไม่สมเป็นยากูซ่าสักนิด อยู่ไทยสะนานคงลืมไปแล้วมั้งว่าวิถียากูซ่าเป็นยังไง รอให้ฉันจัดการไอ้นัตซึก่อน รายต่อไปจะเป็นไอ้การ์ดพวกนี้

“&หึ!! ปาร์ตี้ก็แสดงว่ามีหลายคนซินะ เข้าใจแล้ว เอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องดิ๊ เดี๋ยวฉันจะไปหาพี่ชายเอง”

“&ดะ...ได้ครับ” การ์ดเดินหิ้วกระเป๋าฉันเข้าบ้าน และเรียกการ์ดอีกสองคนมาช่วยหิ้วกระเป๋าของริวและเรียวจัง พวกนั้นคงส่งซิกกันแล้วว่าฉันเป็นใคร คนอื่นถึงได้ไม่มีใครกล้าหันมาสบตากับฉันสักคน

“&พวกแกตามฉันมา” ฉันหันไปพูดบอกริวกับเรียวจัง ทั้งสองคนพยักหน้ารับ ฉันเดินนำหน้าไปทางสระว่ายน้ำ อันที่จริงไม่รู้หรอกว่าอยู่ทางไหน แต่ที่เดินลิ่ว ๆ อย่างมั่นใจอยู่นี้ ก็เพราะเสียงเพลงมันดังสอดแทรกสลับกับเสียงโห่ร้องแว่วมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไอ้พวกขยะทั้งหลายคงกำลังสนุกอยู่ทางต้นเสียง

และเมื่อเดินมาถึงสระว่ายน้ำที่อยู่หลังบ้าน ภาพที่เห็นคือ มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายอยู่ในชุดว่ายน้ำประมาณรวม ๆ ก็น่าจะสามสิบคนได้ ไม่ใช่กำลังว่ายน้ำอยู่หรอก แต่กำลังมีเพศสัมพันธ์กันอยู่ต่างหาก บางกลุ่มอยู่ในน้ำ บางกลุ่มก็บนบกริมสระ มั่วกันทั้งหญิงทั้งชายจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เรียกง่าย ๆ ว่า ปาร์ตี้เซ็กซ์ดี ๆ นี่เอง เสียงเพลงเปิดดังจนแก้วหูจะแตกก็คงไว้กลบเสียงเนื้อกระทบเนื้อและเสียงครางของพวกมัน มีทั้งเหล้าเบียร์ อาหาร ขนมขบเคี้ยวเสร็จสรรพ คงสนุกพวกมันแหละ คำว่า ’ขยะ’ คงน้อยไปด้วยซ้ำที่จะเรียกไอ้พวกนี้

ว่าแล้วฉันก็หันไปพูดกับเรียวจังด้านหลัง

“&ถ่ายรูปไว้ หึ! ฉันอยากให้พ่อได้เห็นว่า บ้านหลังนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง”

“ได้ค่ะ” เรียวจังไม่รอช้า หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปตามคำสั่ง และในตอนนั้นฉันก็กวาดสายตาหาเจ้าของบ้าน

แล้วก็ได้เห็นพี่ชายตัวดีนั่งอยู่ที่โต๊ะริมสระ ถึงไม่เจอกันหลายปี แต่แค่แวบเดียว ฉันก็จำได้แล้ว ไอ้ตัวต้นเหตุนั่งรวมกลุ่มกับผู้ชายอีกห้าคน ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่มีผู้หญิงหุ่นเซ็กซี่ใส่ชุดบิกินี่นั่งตักอยู่ พี่ชายฉันไม่ได้แค่นั่งธรรมดา มือข้างหนึ่งถือแก้วเหล้า มืออีกข้างล้วงเข้าไปใต้บิกินี่ผู้หญิงบนตักที่กำลังทำหน้าเหยเก ปากจือครางเสียงออกมาจากลำคอ ให้ตาย! มันไม่อายกันบ้างเลยหรือไง

อย่าว่าแต่ไอ้นัตซึเลย ผู้ชายอีกห้าคนก็ไม่ย่อย นัวเนียกับผู้หญิงบนตัก น่าจะบอกว่าเอากันบนเก้าอี้ก็ได้ เห็นแล้วอุบาทว์ตามาก ฉันทนไม่ไหวอีก จ้ำอ้าวไปหาพวกมันอย่างไว

ยืนอยู่ตรงนี้พวกมันกลับไม่ได้หันมาสนใจ ฉันเลยต้องทำเสียงออกไป “อะแฮ่ม...”

พี่นัตซึเป็นคนแรกที่ค่อย ๆ เงยหน้ามามอง

“อ้าวเด็กใครเนี่ย? ปาร์ตี้เขาให้ใส่แต่ชุดว่ายน้ำมานะครับ” พี่นัตซึเอ่ยเสียงแกมเล่น มันยังจำน้องสาวคนนี้ไม่ได้ ส่วนฉันได้แต่ยืนเงียบ ๆ จ้องมองหน้าพี่นัตซึด้วยแววตาจริงจัง ความเงียบกินเวลาไปเป็นนาที จนเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งของมันเอ่ยขัดจังหวะ

“น้อง ๆ รู้จักใคร หรือมาหาใครครับ ถ้าไงมานั่งกับพวกพี่ก่อนได้ เอ๊ะ! หรือว่าไม่มีบิกินี่ งั้นแก้ผ้าแทนก็ได้นะ”

“หน้าตาน่ารักว่ะ แบ๋ว ๆ ดี” ผู้ชายอีกคนพูดเสริมขึ้น

“ท่าทางจะหวานว่ะ อยากชิมจัง” แต่ละคนพูดแทะโลมฉันอย่างสนุกปาก ริวรีบเดินมาทางฉันในทันที คงกลัว...กลัวว่าฉันจะน้อยใจที่ถูกแซว หือ!! เปล่าหรอก ริวกลัวว่าฉันจะฆ่าไอ้พวกปากหมาตายคามือต่างหาก

“เอ่อ..ใจเย็น ๆ นะครับ” ริวพูดห้ามพวกผู้ชายเหล่านั้น

“หยุดก่อนริว” ฉันพูดห้ามริวด้วยน้ำเสียงปกติ อดกลั้นความโกรธให้มากที่สุด

“โอ๊ะ!! มีแฟนมาด้วย จะแซนวิชพี่ก็จัดให้ได้นะ ฮ่าฮ่า” ชายคนหนึ่งรอยสักเต็มตัวพูดพร้อมกับมองฉันหัวจรดเท้า สายตาเยาะเย้ยฉันแทบทนไม่ไหว อยากเอาดาบเสียบทะลุเข้าไปในเบ้าตามัน แต่ยังไม่ทันได้ขยับ ก็มีอีกเสียงแทรกขึ้นมาก่อน

“ตกลงน้องมีอะไรหรือเปล่า มาปาร์ตี้หรือมาหาใคร หรือมาให้ใครเย” ฟังคำถามของไอ้พี่ชายฉันซิ ตอนนี้ก็ยังจำฉันไม่ได้อีก น่าเอาดาบเจาะหัวมันดูจริง ๆ ว่าในนั้นมีขี้เลื่อย หรือก้อนเนื้อสีแดง

และความเหลืออดของฉันก็ขาดสะบั้น จ้องหน้าไอ้พี่ชาย พร้อมกับเอ่ย “มาหามึงไง!!” เสียงตวาดทำเอาพี่นัตซึสะดุ้งโหยง ท่าทางแบบนั้นคงนึกขึ้นมาได้แล้วล่ะซิ

“ไรวะ ขึ้นมึงกูไม่เพราะ มันจะมากไปเปล่าน้อง” ชายอีกคนชี้หน้า ฉันถอดแว่นตาดำออกแล้วหันหน้าไปหาพี่นัตซึ จ้องด้วยสายตาเย็นชา พี่นัตซึถึงกับหน้าซีด ปากสั่นทำอะไรไม่ถูก

“มะ..มา...ได้ไง ใช่...ใช่จริงด้วย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel