2
“ได้เลยค่ะ คุณแม่จัดให้ จัดเสื้อให้สักตัวดีไหมคะ” คนเป็นแม่ถาม
“ดีค่ะ เสื้อสีชมพูนะคะ” เด็กหญิงต่อรอง
“ได้ค่ะคุณลูกสาวที่น่ารัก” ว่าจันทร์หอมแก้มลูกสาว
“ขอบคุณค่ะคุณแม่” เด็กหญิงยกไหว้ กอดว่าจันทร์ “รักคุณแม่ที่สุดในโลกค่ะ”
ตบท้ายด้วยการอ้อน พ่อกับแม่เห็นแล้ว อดยิ้มกับความอ้อนของหนูน้อยไม่ได้
“รักคุณแม่คนเดียวหรือครับ แล้วคุณพ่อล่ะ ไม่รักเหรอ คุณพ่อน้อยใจนะเนี่ย”
“รักค่ะ รักที่สุดในสามโลกค่ะ” ก่อนหันมากอดคนกำลังน้อยใจหลอกๆ ที่ยิ้มกว้าง กอดร่างเล็ก หอมแก้มทั้งซ้ายกว่า
“คุณพ่อก็รักคุณแม่และคุณลูกครับ” แม้ฐานะไม่ได้ร่ำรวย แต่ครอบครัวนี้ก็อุดมไปด้วยความรัก ความสุขและความเข้าใจ จนหลายคนอิจฉา
ว่าจันทร์จูงมือจันทร์ฉายออกมายืนรอตฤณหน้าบ้าน ที่ขับขี่มอเตอร์ไซร์คู่กาย กลางเก่ากลางใหม่ออกมาทีหลัง เมื่อสองแม่ลูกนั่งประจำที่ ตฤณนำรถคู่ใจออกห่างหน้าบ้าน ไปส่งว่าจันทร์ตรงหน้าปากซอย จากนั้นจึงขับรถไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน ห่างจากบ้านราวหนึ่งกิโลเมตรครึ่ง
ขณะตฤณขับรถกลับบ้าน เขาแวะร้านกาแฟประจำซอย เพื่อเก็บเงินค่าขนมที่นำมาฝากขาย แม้กำไรจะน้อย แต่ถือว่า ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ตฤณเดินเข้าไปในร้านกาแฟ ที่มีคนนั่งอยู่สามสี่คน เขาเดินไปหาลุงตี๋ด้วยไม้เท้าพยุงเดิน ที่พอเห็นหน้าคนเข้ามาในร้าน ก็รีบหยิบเงินที่เตรียมไว้ส่งให้ตฤณ
“ขอบคุณครับลุงตี๋” ตฤณยกมือไหว้ ก่อนรับเงิน
“เอามาให้สี่สิบถุงนะ คละๆ กันน่ะ” ลุงตี๋สั่งออเดอร์
“ครับ ขอบคุณครับ ตอนเย็นผมเอามาส่งให้นะครับ”
“ว่าแต่ ขาเป็นไงบ้างล่ะ ใกล้ถอดเฝือกหรือยัง”
“เดือนหน้าก็ถอดเฝือกแล้วครับ”
“เออดี จะได้หายสักที ถือว่าฟาดเคราะห์ไป” ลุงตี๋พูด ขณะชงกาแฟ
“ผมกลับก่อนนะครับ ต้องไปดูยาย” ลุงตี๋ยิ้ม ตฤณหมุนตัว ตั้งใจเดินกลับไปยังมอเตอร์ไซร์ของตน แต่เขาหยุดความตั้งใจ เมื่อมีคนเรียก
“ไอ้ตฤณ” คนเรียกมีนามว่า ภมรหรืออ๋อ
“ว่าไงวะ” ตฤณทักกลับ นั่งลงบนเก้าอี้ “หายหัวไปไหน ไม่เห็นหน้าเลย”
“ไปอยู่แถวอรัญมา” ภมรตอบ “กูเจอมึงก็ดีแล้ว ว่าจะให้มึงเปิดบัญชีอีกสองบัญชี ต่างธนาคารกันนะ ให้บัญชีละสองพัน”
“สองพันเหรอ มากกว่าครั้งที่แล้วห้าร้อย”
“ใช่ ให้เฉพาะมึงนี่แหละ ว่าไง โอเคป่ะ”
“สองบัญชีก็สี่พัน เอาสิ ได้เงินตั้งเยอะ” ตฤณไม่ได้ถามต่อถึงเหตุผลของการให้เปิดบัญชี ภมรบอกเขาตอนให้เปิดบัญชีครั้งแรกว่า เอาไปให้คนงานที่ยังไม่ได้บัตรคนต่างด้าว ใช้ในการรับเงินเข้าบัญชี หากได้บัตรก็จะยกเลิกบัญชีนั้น ที่มาให้ตนเปิดบัญชีอีกครั้ง เหตุผลคงไม่ต่างกัน อีกทั้งเขาไว้ใจภมร เพราะเป็นเพื่อนกันมานานหลายปี
“งั้นวันนี้มึงว่างไหม กูอยากได้วันนี้เลย”
“รอสักชั่วโมงได้ไหม ต้องกลับไปดูยายก่อน เสร็จถึงจะไปได้”
“เออ ไม่มีปัญหา กูรอได้ กูไปรอมึงที่บ้านเลยละกัน มึงดูยายเสร็จจะได้ไปกันเลย เอารถกูไป เดี๋ยวกูขับรถมาส่งมึงที่บ้านเอง”
เมื่อสองเพื่อนตกลงกันได้ ทั้งสองต่างไปบ้านตฤณ หลังจากตฤณดูแลยายบุญเสร็จ เขาโทรศัพท์บอกป้าเพ็ญ คนละแวกบ้านให้มาอยู่เป็นเพื่อนยายบุญสักชั่วโมงกว่าๆ โดยให้สินน้ำใจหนึ่งร้อยบาท จากนันจึงไปธนาคารกับภมร
เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางหัว...
คำพูดของศรีวรรณ เจ้าของธุรกิจออนไลน์ ที่ว่าจันทร์ทำงาน ทำให้คนที่ได้รับฟัง เหตุผลของการปิดกิจการ แบบไม่ทันตั้งตัว ไม่คิดไม่ฝันว่า เรื่องนี้จะเกิดขึ้นด้วย
ว่าจันทร์ทำงานที่นี่มากว่าสามปี หรือเท่ากับอายุของจันทร์ฉาย ไม่มีแนวโน้มว่า บริษัทจะขาดทุน แม้บางเดือนกำไรจะน้อย แต่ก็ถือว่าได้ แล้วช่วงนี้ลูกค้าสั่งสินค้าเพิ่มขึ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์
ใครจะคิดว่า ตนจะตกงานแบบไม่ทันตั้งตัว ยิ่งตอนนี้ทางบ้านต้องการใช้เงิน แล้วยังมีหนี้สินที่ต้องชำระ จากการไปกู้หนี้ยืมสิน มาเป็นค่าใช้จ่ายตอนตฤณป่วย เป็นจำนวนเงินสูงเกือบหนึ่งแสนสามหมื่นบาท สามเดือนมาแล้วที่ว่าจันทร์จ่ายดอกเบี้ยเดือนละห้าพันบาท ที่ไม่รู้ว่า จะมีเงินมาจ่ายต้นคืนเมื่อไหร่ ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าใช้จ่ายในบ้านจิปาถะ และค่ากินค่าใช้ของจันทร์ฉายอีก หากตนว่างงาน มิเท่ากับว่า เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหนักกว่าเดิมหรอกหรือ
การมีเงินเดือนประจำ ถือว่าช่วยว่าจันทร์ได้มาก เงินเดือนออก นำเงินไปจ่ายค่าต่างๆ ที่ต้องจ่ายรายเดือนได้ทั้งหมด มีเหลืออยู่ไม่กี่พัน ก็อาศัยงานพิเศษที่คงยึดเป็นหลักไม่ได้ เพราะไม่ได้มีงานให้ทำทุกวัน ว่าจันทร์ใช้เงินรายได้เสริม ในการใช้จ่ายประจำวัน หากไม่มีงานประจำ เท่ากับว่า หล่อนหมุนเคว้งกลางอากาศ
ศรีวรรณยื่นซองสีขาวที่ในนั้น มีเงินเดือนของพนักงานทุกคน และมีส่วนต่างที่อาจเรียกว่า เป็นเงินชดเชยให้คนละสามพันบาท ว่าจันทร์รับซองเงินนน้ำตาปริ่ม ความตั้งใจอะไรหลายอย่าง พังครืนลงมา
ตกงานก็ต้องหางานใหม่ เป็นคำพูดง่ายๆ ที่ยุคสมัยนี้ งานหายาก นักศึกษาจบใหม่ก็มีเยอะ ไหนจะคนที่อยากเปลี่ยนงาน หรือตกงานอีก ต่างแย่งชิงงานใหม่กันมากมาย การหางานไม่ใช่ว่า ได้งานแล้วได้เงิน ต้องดูอะไรหลายอย่าง เช่นระยะทางจากบ้านไปทำงาน เงินเดือนที่ได้รับ เวลาในการทำงาน หากได้เงินเดือนน้อย ระยะทางไกล เดินทางใช้เวลานาน นั่งรถหลายต่อ ก็ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายขณะไปทำงาน คงต้องหางานใกล้บ้าน งานอะไรก็ได้ ขอแค่มีงานทำ
ขณะกลับบ้าน ว่าจันทร์น้ำตาไหล นึกถึงชะตาชีวิตตนเอง ที่เหมือนถูกสาปอย่างไรอย่างนั้น กำลังจะดีขึ้นก็ต้องพบเจอกับเรื่องไม่คาดฝัน มันเกิดขึ้นกับหล่อนสองครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งสาม ที่ไม่รู้ว่า จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ ได้แต่ภาวนา เว้าวอนสวรรค์ ขออย่าให้มีเรื่องร้ายเข้ามาในชีวิตอีกเลย แค่นี้ว่าจันทร์ก็เต็มกลืนแล้ว