บท
ตั้งค่า

บทที่5

รถเก๋งธรรมดาของน้ำฝนวิ่งเข้ามาจอดตรงหน้าคอนโดมิเนียมขนาดกลาง แต่ตัวอาคารยังใหม่เอี่ยมเพราะคอนโดมิเนียมแห่งนี้พึ่งเปิดใหม่ได้เพียงไม่นานซึ่งยังเป็นกิจการอีกหนึ่งอย่างของ ตระกูล ปิริยะสกุล 

"แกแน่ใจนะว่าอยู่คนเดียวได้ ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนเอาไหม"ดวงตากลมโตของน้ำฝนมองที่พักแห่งใหม่ของเพื่อนสาว หลังจากที่ธนากรและของขวัญมีความสัมพันธ์กัน โครงการคอนโดมิเนียมขนาดกลางที่กำลังใกล้จะสร้างเสร็จก็ถูกยกให้กับของขวัญห้องหนึ่ง ซึ่งตอนแรกเธอไม่อยากจะรับไว้ แต่อีกฝ่ายบังคับจนในที่สุดแล้วเธอจำเป็นต้องรับแถมเขายังให้คนมาขนของหลังจากที่ห้องตกแต่งแล้วเสร็จโดยทันที

"ไม่เป็นไรหรอก ฉันไหว"

"แต่สีหน้าของแกมันไม่ใช่เลยนะขวัญ"ใบหน้าสวยงามเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง ดวงตาสวยเหม่อมองออกไปนอกรถ เมื่อนึกถึงชายคนรักเดินโอบแขนภรรยาของเขาออกไปจากร้านโดยไม่คิดจะหันมาสนใจหรือปรายสายตาแลเธอที่นั่งหัวโด่อยู่สักนิด

"ถ้ามันไม่ไหวก็ถอยออกมาเถอะ อยู่แบบนี้ไปก็มีแต่แกที่เจ็บอยู่คนเดียว"

"แต่ฉันรักเขา"

"แล้วเขารักแกหรือเปล่าขวัญ คำพูดพวกนั้นคุณกรเคยบอกแกหรือเปล่า"ดวงตากลมโตเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา เพียงแค่กะพริบน้ำตาก็พร้อมจะร่วงสู่ลงมาโดยทันที

"คุณกรเคยบอกว่าเขารักฉัน"น้ำเสียงติดสั่นเอ่ยตอบเพื่อนสาว น้ำฝนถอนหายใจออกมาไม่รู้กี่รอบแล้วในเย็นของวันนี้ ความดี ความไม่ทันคนของเพื่อนกำลังจะกลายเป็นบ่วงลากตัวเองลงไปสู่ความเจ็บปวด

"แล้วแกก็เชื่ออย่างนั้นเหรอ ฉันจะบอกอะไรให้แกรู้เอาไว้นะของขวัญ ผู้ชายเวลามันอยากได้ก็พูดดีหมดแหละ แล้วแกดูตอนนี้สิ คุณกรที่แสนดีของแกเป็นยังไงล่ะ พอได้สมใจแล้วเป็นไงหายหัวไปรับเมียเขานู่นทำเหมือนแกไม่ใช่คนคิดที่จะมาตอนไหนก็มาอย่างนั้นน่ะเหรอ เหอะ นี่น่ะเหรอคนที่บอกว่ารักกัน"น้ำฝนพูดด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูกด้วยความขุ่นเคืองแทนเพื่อนรัก การกระทำและคำพูดของธนากรนั้นมันชั่งแตกต่างราวฟ้ากับเหว 

"ฉันไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดีแล้วฝน ถึงเขาจะไม่รักฉันตามที่พูด แต่หัวใจของฉันมันมีเขาอยู่เต็มข้างใน"ใบหน้าสวยหวานอาบอิ่มไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความเสียใจ น้ำฝนรีบดึงร่างของเพื่อนเข้ามาโอบปลอบ น้ำตาเปียกชุ่มลงบนเสื้อตัวสวย แต่เธอก็ไม่คิดจะก้มลงไปสนใจ ปล่อยให้ของขวัญได้ร้องไห้ระบายความเสียใจออกมา

"โถ่ ขวัญเอ๊ย ชีวิตของแกทำไมมันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ"

"ชาติที่แล้วฉันคงทำกรรมเอาไว้หนัก ชาตินี้เลยต้องมาชดใช้กรรมอยู่แบบนี้ยังไงล่ะ"สองสาวนั่งกอดร้องไห้ปลอบใจในรถอยู่หลายนาที จนตอนนี้น้ำตาเริ่มแห้งเหือด ของขวัญจึงบอกลาเพื่อนพร้อมกับเอ่ยกล่าวขอบคุณที่คอยอยู่เคียงข้างมาเสมอ

"ถ้าพรุ่งนี้ไปทำงานไม่ไหวก็โทรไปบอกด้วยนะ"น้ำฝนลดกระจกลงมาตะโกนบอกของขวัญที่ก้าวเดินพ้นตัวรถของเธอออกมาได้ไม่ไกล ใบหน้าสวยหวานพยักหน้าให้ก่อนจะรีบก้าวเท้าเข้าไปในตัวอาคาร

หุ่นเพรียวบางอัดแน่นไปด้วยสัดส่วนอวบอิ่มนั่งลงบนโซฟาขนาดกลางที่ตั้งวางอยู่กลางห้องด้วยความเหนื่อยล้า ลมหายใจเบา ๆ ผ่อนออกมาจากปลายจมูกดวงตากลมโตหลับพริ้มเพราจะรู้สึกปวดตรงบริเวณเปลือกหนังตาเนื่องจากผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักนานหลายนาที 

ติ๊ด ติ๊ด

เสียงข้อความดังขึ้นทำให้ของขวัญรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอ่านเพราะคิดว่ามีลูกค้าติดต่อมา แต่มันกลับไม่ใช่ หัวใจดวงน้อยปวดหนึบเมื่อได้อ่านข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์ น้ำตาที่แห้งเหือดแทบจะไหลออกมาอีกครั้งหลังจากที่ได้อ่านจบ

'คืนนี้ฉันไม่ว่างคงไม่ได้ไปหาเธอ ส่วนพรุ่งนี้ไปก็คงไม่ว่างไปรับต้องพาวิเวียนไปทำธุระ'โทรศัพท์เครื่องบางเฉียบถูกวางลงบนโซฟาหลังจากได้อ่านข้อความที่ธนากรส่งมาเสร็จ คืนนี้เขาไม่ได้มาหาเพราะต้องอยู่กับภรรยาของเขาสินะ คืนนี้คนที่ได้รับความอบอุ่นจากอ้อมแขนของเขาคงไม่ใช่เธอแต่กลับเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย 

ดวงตากลมโตถูกซ่อนอยู่ภายใต้ม่านน้ำ ดวงตากวาดมองไปทั่วทั้งบริเวณโดยรอบ ๆ ห้องแห่งนี้ ความรู้สึกโดดเดี่ยวและแสนจะอ้างว้างกำลังเล่นงานเธอยามเมื่อไร้เงาของธนากร แต่ก็อย่างว่าเมื่อตัวจริงกลับมาเขาก็ต้องรีบเข้าไปหา ส่วนตัวสำรองอย่างเธอก็ต้องกลับมานอนกอดหมอนปาดน้ำตาที่ห้องนอน อย่างเฉกเช่นทุกครั้งที่ธนากรไม่สามารถมาหาเธอได้ 

คืนนี้เขาคงจะมีความสุขเมื่อได้นอนกอดภรรยา เธอรู้สึกอิจฉาเมียหลวงอย่างคุณวิเวียนจัง ที่สามารถเดินกุมมือไปไหนมาไหนกับธนากรได้อย่างไม่อายใคร ต่างจากเธอแค่เพียงไปทำงานพร้อมกันยังต้องหลบแอบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่ให้ใครได้เห็น สถานะเมียหลวงกับเมียน้อยมันชั่งแสนจะแตกต่างกันเสียจริง ๆ 

"เธอเลือกที่จะอยู่ในสถานะนี้เองนะของขวัญ"ถึงแม้ว่าตัวเธอนั้นจะตกลงปลงใจเพราะไม่รู้ว่าธนากรมีเมียอยู่แล้วก็ตามเถอะ แต่เมื่อถูกอีกฝ่ายทำดีเข้าให้หัวใจอันแสนอ่อนไหวก็พร้อมจะมอบให้เขาได้ทุกเมื่อ

"ขวัญขอให้คืนนี้คุณกรนอนหลับฝันดีนะคะ"ส่วนเธอคืนนี้คงจะหลับไม่ลงเพราะไร้วงแขนอบอุ่นที่คอยนอนกอดเธอยามเมื่อหลับอยู่เป็นประจำ

"กรคะ พอได้แล้วค่ะ วิไม่ไหวแล้ว"น้ำเสียงแหบเอ่ยห้ามเมื่อสามีตัวร้ายกำลังจะเริ่มเกมรักครั้งที่สี่ของคืนนี้ ธนากรถึงกับแสดงสีหน้าบึ้งเมื่อได้ยินคำพูดนี้ออกมาจากปากของภรรยาสาวทั้งที่ท่อนเอ็นของเขายังของแข็งขยายใหญ่อยู่ในช่องทางรักของเธอ

"แต่กรยังไม่อิ่มเลยนะ วิจะมาทิ้งกรไว้กลางทางแบบนี้ไม่ได้"

"แต่วิไม่ไหวแล้วจริง ๆ ค่ะ วิเหนื่อย"น้ำเสียงอ่อนล้าของวิเวียนทำเอาธนากรผ่อนลมหายใจร้อนออกมา ท่อนเอ็นขยายใหญ่ถูกถอดออกจากช่องทางรักบวมเป่งฝ่ามือใหญ่รูดเอาเกราะป้องกันทิ้งใส่ถังขยะอย่างคนอารมณ์เสียอย่างคนที่ไม่สามารถต่อเกมรักได้ 

ร่างกายของวิเวียนบอบบางไร้เรี่ยวแรง จนไม่สามารถตอบสนองอารมณ์รักของธนากรได้อย่างเต็มที่ มากสุดก็ได้เพียงแค่ไม่ถึงสี่เกมเธอก็ต้องขอร้องให้เขาหยุดดั่งที่เห็น ซึ่งทำให้ธนากรหัวเสียอยู่บ่อยครั้งจนต้องแอบไปลักกินนอกบ้านยามเมื่อวิเวียนไม่อยู่บ้านอยู่บ่อยครั้ง จนได้มาเจอกับของขวัญซึ่งเด็กสาวผู้นั้นสามารถตอบสนองเขาได้ทั้งคืนทั้งวันโดยไม่ปริปากบ่นให้ได้ยิน ซึ่งนั้นทำให้ธนากรถูกใจและทำให้เขากักขังตัวของเธอเอาไว้ในสถานะเมีย(น้อย)ของเขาอีกคน

"กรอย่าโกรธวิเลยนะคะ วิเหนื่อยจริง ๆ ค่ะ "

"คุณนอนเถอะวิ ผมจะไปอาบน้ำ"ธนาการเดินกระแทกเท้าเข้าไปในห้องน้ำด้วยสีหน้าบึ้งตึงจนทำให้ วิเวียนรู้สึกผิดที่ไม่สามารถตอบสมองอารมณ์ตามที่เขาต้องการได้

ฝ่ามือใหญ่กอบกุมลำเอ็นแข็งพร้อมกับขยับขึ้นลงตามจังหวะ ดวงตาหลับพริ้มพยายามนึกถึงร่างกายอันหอมหวานของใครอีกคนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้จะหลับแล้วหรือยัง

"อ๊า ของขวัญเร็วอีก"ตอนนี้เขาทำได้เพียงจินตนาการการถึงรูปร่างอันเย้ายวนของเธอพร้อมกับชักรูดแก่นกายของตัวเองอย่างโดยเร็วเมื่อใกล้ถึงขีดสูงสุด

ปริ๊ด

น้ำกามสีขาวขุ่นพุ่งกระฉูดเต็มฝ่ามือ ความต้องการอันเปี่ยมล้นทำให้ลูก ๆ นับล้านตัวของเขาพุงกระฉูดโดนฝาผนังไปด้วย ความต้องการของธนากรยังคงไม่หมดไป แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงรีบอาบน้ำแต่งตัวเข้านอน ก่อนที่พรุ่งนี้จะพาวิเวียนไปเยี่ยมบ้านของเธอและหลังจากนั้นเขาคงจะเข้าบริษัทเพื่อหาใครบางคนที่ช่วยเขาดับความต้องการของอารมณ์นี้ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel