บท
ตั้งค่า

บทที่6

ยามรุ่งเช้าของวัน ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยหมู่เมฆคล้ายกับว่ามีฝนจะตก บรรยากาศแบบนี้มันทำให้ใครต่อใครหลายคนต่างพากันอยากนอนห่มผ้าอุ่น ๆ อยู่บนเตียงนอน ต่างจาก ของขวัญที่ต้องลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่ทันสว่าง ใบหน้าเรียวไร้รอยยิ้มขอบดวงตาหมองคล้ำจากการนอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง 

 ครีมรองพื้นถูกหยิบออกมาใช้เพื่อปกปิดความหมองคล้ำเป็นอันดับแรก ตามด้วยแป้งพัฟตบลงบนใบหน้าอย่างบางเบาตามด้วยลิปมันเปลี่ยนสีเป็นสิ่งสุดท้าย ใบหน้ารูปไข่มองตัวเองในกระจกพลันถอนหายใจออกมา ดวงตากลมโตเหลือบไปมองหน้าจอโทรศัพท์ ไร้วี่แววเสียงเรียกเข้าจากคนที่เธอรอมาตลอดทั้งคืน 

'เขาคงมีความสุขกับเมียจนลืมเธอไปแล้วสินะ'

ติ๊ด

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเมื่อมีสายโทรเข้ามา ของขวัญรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยความดีใจ แต่เมื่อได้เห็นเบอร์ของน้ำฝนที่โชว์อยู่บนหน้าจอริมฝีปากเรียวเล็กก็ต้องรีบหุบยิ้มก่อนจะเลื่อนกดรับปลายสาย

"ฝนมารับ ตอนนี้รออยู่ด้านล่าง"เพราะดูแล้วเมฆในด้านนอกคงไม่เป็นใจให้ของขวัญเดินทางไปทำงานคนเดียวเพียงลำพัง

"อืม เดี๋ยวขวัญจะรีบลงไป"เมื่อปลายสายตัดไปของขวัญมองดูความเรียบร้อยของตัวเองผ่านกระจก พร้อมกับหยิบกระเป๋าและเอกสารสำคัญก่อนที่จะสวมรองเท้าคู่เก่าพร้อมกับก้าวเดินออกจากห้องไป

"ไว้เจอกันตอนเที่ยงนะขวัญ จะได้ไปทานข้าวด้วยกัน"นี่คำคำพูดของน้ำฝนหลังจากที่ทั้งคู่เดินทางมาถึงบริษัท ของขวัญพยักหน้ารับรู้แค่เพียงเท่านั้น

"ยิ้มหน่อยสิ ไม่สมกับเป็นแกเลยนะขวัญ เพื่อนของฉันไม่ได้มีสีหน้าอมทุกข์แบบนี้ไปตลอดทั้งวันหรอกนะ"สีหน้าของเพื่อนรักไม่ต่างอะไรจากเมื่อวาน แต่มันยังดีขึ้นมาหน่อยเมื่อน้ำฝนไม่ได้เห็นน้ำตาของ ของขวัญดั่งเฉกเช่นเมื่อวาน 

"ยิ้มแบบนี้พอใจหรือยัง"เพราะไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง ของขวัญจึงฉีกยิ้มกว้างไปให้แม้มันจะเป็นรอยยิ้มฝืนใจก็ตาม ซึ่งข้อนั้นน้ำฝนก็รู้ดี

"ดีแล้ว ยิ้มเข้าไว้เผื่อว่าจะมีใครผ่านเข้ามาตกหลุมรักความสวยของแกบ้างนะของขวัญ"

"ใครกันจะมาชอบคนอย่างขวัญ ฝนก็พูดไปเรื่อย"ผู้หญิงที่ไม่ได้สวยโดดเด่นอะไรจะมีใครมาตกหลุมรัก แค่คิดมันก็ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้

"เอาเป็นว่ามีก็แล้วกัน ส่วนจะเป็นใครนั้นฉันขออุปเอาไว้ก่อน ไปทำงานก่อนนะเจอกันตอนเที่ยง"น้ำฝนรีบปลีกตัวเดินหนีโดยทันทีเมื่อของขวัญจะเอ่ยปากสอบถาม บนใบหน้าสวยประดับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ดวงตากลมโตมองแผ่นหลังของเพื่อนรักที่กำลังเดินหัวเราะชอบใจ น้ำฝนคือเพื่อนรักที่ทำให้เธอยิ้มได้อยู่เสมอ และเรื่องที่บอกว่ามีคนชอบเธอก็คงเป็นเรื่องล้อเล่นเพื่อให้เธอยิ้มตามก็เท่านั้น

"งานที่บริษัทเป็นยังไงบ้างล่ะช่วงนี้"นี่คือน้ำเสียงเรียบนิ่งของผู้เป็นพ่อตาเอ่ยถามระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัวของภรรยา

"ก็ดีครับคุณพ่อ ผลกำไรโตกว่าปีที่แล้วขึ้นเยอะเลยครับ และคาดว่าปีหน้ามันคงจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว"เพราะมีนักธุรกิจชาวต่างชาติติดต่อมาขอร่วมลงทุนหลายคน ซึ่งแต่ละคนนั้นล้วนมีประสบการณ์ในการทำงานและไหนยังมีอิทธิพลรอบด้าน ถ้าหากว่าเขาตัดสินใจร่วมลงทุนกับใครไปผลกำไรคงได้ไม่น้อย และอีกทั้งยังเป็นแนวทางขยายธุรกิจให้ออกไปไกลอีกด้วย

"ฉันได้ข่าวมาว่ามีนักธุรกิจจากสิงคโปร์มาขอร่วมลงทุนหลายรายด้วยหนิ"

"ครับ แต่ผมยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้ใครเข้ามาร่วมลงทุนด้วยกันดี อยากจะศึกษาข้อมูลของอีกฝ่ายดูก่อน"ลูกเขยคนนี้มีไหวพริบดี ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ทำให้พ่อตาชื่นชอบในตัวของธนากร

"ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอตกันทั้งสองคนแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะได้มีหลานให้พ่อกับแม่อุ้มล่ะ"ครานี้ถึงตาแม่ยายเป็นคนเอ่ยถามบ้าง ซึ่งคำถามของแม่ยายเล่นเอาธนากรและภรรยาสาวถึงกับนิ่งเงียบ 

"กรพร้อมตอนไหนวิก็พร้อมตอนนั้นล่ะคะคุณแม่"วิเวียนตอบคำถามผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานเช่นดั้งเดิม ถึงแม้ว่าส่วนลึกในใจเธออยากจะมีหลานตัวน้อย ๆ ให้กับท่านทั้งสองได้อุ้ม แต่เรื่องนี้มันแล้วแต่เธอคนเดียวได้เสียที่ไหนมันต้องถามความสมัครใจจากอีกคนด้วย

"ว่ายังไงล่ะพ่อกร เมื่อไหร่จะมีหลานให้พ่อกับแม่อุ้มสักที"

"ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมครับ ผมอยากทุ่มเทกับงานให้ได้มากที่สุดเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวก่อนที่จะมีหลานให้คุณพ่อกับคุณแม่"ซึ่งนี่คงเป็นคำตอบที่ดีสุดในตอนนี้สำหรับธนากร

"อย่านานนักล่ะ ฉันยังอยากวิ่งเล่นกับหลานไม่อยากนอนติดเตียงให้หลานต้องมาช่วยดูแล"น้ำเสียงเรียบนิ่งคล้ายกับเป็นคำสั่งมันทำให้ธนากรเริ่มหนักใจ เขาไม่อยากมีลูกในตอนนี้ซึ่งวิเวียนเองก็รู้ดีถึงได้ไปหาหมอเพื่อฉีดยาคุมกำเนิดทุก ๆ สามเดือน

"วิจะเข้าบริษัทกับผมหรือเปล่าครับ"

"คงไม่ล่ะคะ เพราะคุณแม่ชวนวิไปทำสปาด้วยกัน"ธนากรแทบจะเก็บความดีใจเอาไว้ไม่อยู่ คำตอบของวิเวียนมันทำให้เขาระบายยิ้มน้อย ๆ ออกมา แขนล่ำรีบคว้าตัวของเธอเข้ามากอด

"ถ้าอย่างนั้นผมไปทำงานก่อนนะครับ เจอกันตอนเย็นที่บ้าน"

"ค่ะ"ด้วยความสูงที่มีมากกว่า ธนากรก้มลงไปจรดริมฝีปากลงไปจูบผมหอมละมุนของคนที่อยู่ในอ้อมกอด

"ผมรักคุณนะครับ"

"วิก็รักคุณค่ะ"ทั้งคู่ยืนบอกลาก่อนเฉกเช่นอย่างทุกครั้งเมื่ออีกฝ่ายต้องไปทำงาน ดวงตากลมโตของวิเวียนมองรถคันหรูขับห่างออกไปจากบริเวณหน้าบ้าน ร่างเพรียวระหงหมุนตัวกลับเข้าไปด้านในเมื่อไม่สามารถเห็นตัวรถของสามี

ว๊าย

เสียงหวีดร้องของเลขาสาวสวยดังขึ้นภายในห้องทำงานของธนากร เมื่อเธอกำลังวุ่นวายอยู่กับการจัดโต๊ะพร้อมกับนำเอกสารของบริษัทที่ธนากรต้องเซ็นภายในวันนี้ แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีมือดีที่ไหนไม่รู้เข้ามากระชากตัวเธอเข้าไปกอด ด้วยความตกใจทำให้เธอร้องออกมาจนต้องรับสะบัดใบหน้าหันกลับไปมอง

"คุณกร เล่นอะไรกันคะเนี่ย"ของขวัญชักสีหน้ายุ่งเมื่อเห็นว่าคนโอบกอดเธออยู่ตอนนี้นั้นเป็นใคร

"ฉันคิดถึงเธอแทบแย่ของขวัญ"จมูกโด่งเป็นคมสันสูดดมความหอมจากซอกคอขาว กลิ่นความหอมแบบธรรมชาติของเธอมันทำให้เขาสดชื่นมากกว่ากลิ่นน้ำหอมราคาแพงพวกนั้น

"ปล่อยขวัญนะคะ ขวัญกำลังทำงานอยู่"ของขวัญรวบแรงทั้งหมดสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดของธนากร แต่แล้วร่างเพรียวระหงก็ถูกคว้าตัวเข้าไปกอดอีกครั้ง จนของขวัญเหนื่อยที่จะขัดขืนได้แต่ยืนนิ่งเงียบให้ธนากรจนกว่าเขาจะพอใจ

"เป็นอะไรไป โกรธคุณกรเรื่องอะไร"ธนากรเอ่ยถามพร้อมกับใช่ฝ่ามือลูบคลำไปตามร่างกายของเธอ

"เราสองคนควรยุติความสัมพันธ์กันได้แล้วนะคะ"

"พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่าของขวัญ"น้ำเสียงแข็งเอ่ยถามด้วยความไม่สบอารมณ์ ดวงตาคมกริบจ้องมองเสี้ยวหน้าของหญิงสาว ฝ่ามือใหญ่ทั้งสองข้างจับร่างของเธอให้พลิกตัวหันกลับมาเผชิญหน้า 

"ไหนลองพูดมาใหม่อีกที ว่าเธอต้องการจบความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคน"ดวงตาคมเข้มร้อนระอุดุดดังเปลวเพลิงจ้องมองใบหน้ารูปไข่อย่างไม่ละสายตา ของขวัญถึงกับต้องก้มหน้ามองพื้นเมื่อเจอสายตาดุดันของธนากร สองมือเรียวเล็กกำเข้าหาด้วยความประหม่าความเย็นจากเครื่องปรับอากาศไม่ได้ช่วยทำให้ความร้อนภายในใจของธนากรดับมอดลงได้

"หลบตาฉันทำไมของขวัญ พูดมาอีกทีสิว่าเธอไม่ต้องการฉันแล้ว"ธนากรเชยคางมนของ ของขวัญเงยหน้าขึ้นมาสบตา ความปรารถนาต่อร่างกายขอเธอฉายเด่นชัดออกมาจากแววตาของธนากร

"คือ ของขวัญ"ยามเมื่อได้สบตาแวววับของธนากร ความแกร่งกล้าที่จะขอจบความสัมพันธ์ก็บันดาลหายไปในพริบตา แข่งขาเริ่มอ่อนแรงเมื่ออีกฝ่ายใช้ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามใบหน้าลามจนไปถึงร่างกายและสิ่งหวงแหนของหญิงสาว

"อย่าไปจากฉันเลยนะของขวัญ ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ"ดวงตาของธนากรยามเมื่อพูดถึงของขวัญเต็มเปี่ยมไปด้วยเพลิงปรารถนาอย่างโจ่งแจ้ง และอีกคำพูดของธนากรในประโยคถัดไปนั้นทำให้ของขวัญยอมพ่ายแพ้ให้กับเขาอย่างราบคาบ

"อยู่กับคุณกรต่อไปนะครับ คุณกรรักของขวัญนะ เด็กดีของคุณกร"ถึงแม้ไม่รู้ว่าคำพูดเหล่านั้นมันจะออกมาจากหัวใจของเขาหรือเปล่า แต่เธอก็ยอมศิโรราบให้กับผู้ชายคนนี้ได้อย่างง่ายดาย

"ค่ะ ของขวัญจะอยู่กับคุณกร"ร่างเบาหวิวของเลขาสวยถูกอุ้มลอยเหนือพื้น แขนเรียวเล็กทั้งสองข้างโอบลำคอหนาเอาไว้ หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้สบตาเข้ากับแววตาคมกริบคู่นั้น ธนากรอุ้มร่างของเลขาสวยไปนอนบนโซฟา ร่างใหญ่หนาที่อยู่ในชุดสูทสีดำปีนขึ้นไปคร่อมร่างของเธอเอาไว้ สายตาของทั้งคู่ต่างซื่อผ่านความหมาย ก่อนที่ห้องทำงานแห่งนี้จะกลายเป็นสนามรักอันแสนเร่าร้อนให้กับทั้งสอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel