บทที่4
หัวใจดวงน้อยแทบจะแตกสลายยามเมื่อคนข้างกายของธนากรนั้นไม่ใช่เธอ แต่สถานะคนในความลับอย่างเธอทำได้แค่เพียงยิ้มรับยืนมองคู่สามีภรรยาแสดงความรักแค่เพียงเท่านั้น ถึงแม้ว่าข้างในหัวใจของเธอนั้นจะแตกสลายพังยับเยินไปแล้วก็ตาม
"ขวัญ"
"ฉันไม่เป็นไรฝน เราเข้าไปด้านในกันเถอะ"เธอไม่อยากทำตัวอ่อนแอให้เพื่อนคอยเป็นห่วงอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าตอนนี้ใจของเธอคิดอยากจะกลับไปนอนร้องไห้ซบหมอนอยู่ที่ห้องแล้วก็ตาม
"แกไหวแน่นะขวัญ ฉันว่าเรากลับกันดีกว่า ไอศกรีมค่อยมากินวันหลังเอาก็ได้"น้ำฝนรู้ดีว่าตอนนี้ในหัวใจของเพื่อนรักมันบาดเจ็บแสนสาหัสเพียงไหน ดวงตาแดงก่ำคล้ายกับน้ำตาเริ่มจะรินไหลออกมาอีกครั้งนั้นมันทำให้น้ำในรู้สึกสงสารและเห็นใจเพื่อนตัวเอง จะมีคนรักกับคนอื่นเขาทั้งทีก็ดันไปรักคนที่มีเมียแล้วแถมธนากรดันเป็นรักแรกของเพื่อนเธออีก แล้วแบบนี้ชีวิตรักของเพื่อนเธอยังไม่รู้เลยว่ามันจะจบยังไง
"ฉันไม่เป็นอะไรจริง ๆ ฝน ในเมื่อฉันเลือกที่จะอยู่ในสถานะนี้แล้วฉันก็ต้องทำใจยอมรับมันให้ได้ ไปเถอะ"ฝ่ามือเรียวเล็กจูงแขนของเพื่อนรักเพียงคนเดียวเข้าไปในร้าน เสียงกระดิ่งสีทองที่ติดอยู่ตรงที่ประตูดังขึ้นยามเมื่อผลักประตูชน พนักงานภายในร้านรวมถึงลูกค้าบางคนหันไปมองทางประตู ไม่เว้นแม้แต่ ธนากรและภรรยาสาวอย่าง 'วิเวียน'ก็อดที่จะหันไปมองเสียมิได้
"นั่นมันน้องของขวัญ เลขาของคุณหนิคะกร แล้วนั่นใครกันเหรอคะผู้หญิงคนนั้น"น้ำเสียงอ่อนหวานของวิเวียนเอ่ยถามผู้เป็นสามีที่แต่งงานร่วมอยู่กินกันมาเป็นเวลาย่างเข้าปีที่สาม
"น้ำฝนน่ะ เพื่อนสนิทของ ของขวัญ ทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ"ดวงตาคมกริบละสายตาจากผู้หญิงสองคนหันมาสนใจใบหน้าอันแสนอ่อนหวานของภรรยา
"ไม่เจอกันตั้งนานน้องของขวัญสวยขึ้นเยอะเลยนะคะ ดูโตเป็นสาวแตกต่างจากเด็กฝึกงานเมื่อไม่กี่เดือนก่อน"ธนากรกระตุกยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของคนเป็นภรรยา สายตาคมประดุดเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ลามเลียร่างกายของเธอ ภายใต้ชุดทำงานของเด็กสาวผู้มีนามว่าของขวัญนั้น ธนากรรู้ดีว่ามันใหญ่โตอวบอั๋นล้ำหน้ามากกว่าอายุของเธอเสียอีก
"ชมแต่คนอื่น คุณก็ดูสวยเหมือนกันหายไปทำงานเมืองนอกเป็นเดือน ๆ ผมคิดถึงคุณจะแย่"
"แหม คิดถึงวิแต่โทรหาแทบจะนับครั้งได้เลยนะคะปากบอกคิดถึงวิ แต่ตัวของคุณไปอยู่กับอีหนูคนไหนหรือเปล่าคะ"
เคร้ง
เสียงของตกดังมาจากโต๊ะของผู้ที่อยู่ในบทสนทนาเมื่อครู่ คู่สามีรวมทั้งแขกคนอื่น ๆ รีบหันไปมองยังโต๊ะของน้ำฝนและของขวัญ ทั้งสองรีบกล่าวคำขอโทษพร้อมกับหนีบหยิบช้อนที่ถูกทางร้านเตรียมเอาไว้ให้ขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะเช่นดังเดิม
"เด็กสองคนนั้นเป็นอะไรกันหรือเปล่าคะกร เราไปดูกันดีไหมคะเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง"
"อย่าเลยวิ แค่เด็กซุ่มซ่ามอย่าไปสนใจอะไรเลย เราทานกันต่อดีกว่า"ธนากรเลี่ยงตอบพร้อมกับตักไอศกรีมรสหวานป้อนให้กับภรรยา วิเวียนรีบอ้าปากรับแต่โดยดี
"แล้วที่นู่นเสร็จงานดีแล้วหรือยัง หรือว่าคุณต้องบินไปดูงานอีก"
"ยังไม่เสร็จดีเท่าไหร่เลยค่ะ แต่วิกลัวว่าคุณจะเหงาก็เลยรีบบินกลับมา"วิเวียนคือลูกสาวเพียงคนเดียวของครอบครัว หน้าที่หลักของเธอคือช่วยครอบครัวดูแลธุรกิจน้ำหอมมีมากมายหลายสาขาแทบจะทุกประเทศเลยก็ว่าได้ ซึ่งนั้นมันก็เลยทำให้เธอต้องบินไปต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งครั้งนี้เธอไปดูงานนานกว่าปกติเพราะขั้นตอนการผลิตน้ำหอมมีปัญหาจึงทำให้การผลิตออกมาล่าช้าจนเธอต้องอยู่เคลียร์ปัญหาเป็นเดือน
"ผมไม่เหงาหรอก วัน ๆ เอาแต่ทำงานจะมีเวลาไหนไปนั่งเหงา"
"จ้า พ่อคนเก่ง พ่อคนขยันทำงานอย่าให้วิรู้นะว่าตลอดเวลาที่วิไม่อยู่แบบไปเลี้ยงอีหนูเอาไว้ที่ไหน"
"ทำไม วิจะทำอะไรผม"ธนากรยิ้มแย้มสีหน้าทะเล้นไม่เกรงกลัวต่อใบหน้าอันแสนหวานที่พยายามปั้นหน้ายักษ์ให้เขากลัว
"กรอะ กลัววิบ้างหน่อยก็ดีนะคะ"วิเวียนหน้ายู่เมื่ออีกฝ่ายไม่คิดจะกลัวคำขู่ของเธอ แถมยังแสดงสีหน้าล้อเลียนเธออีก ใช่สิเธอมันเป็นผู้หญิงหัวอ่อนแบบนี้จะมีอะไรไปทำให้ราชสีห์อย่างธนากรกลัวได้ มีปัญญาทำได้แค่แยกเขี้ยวดั่งแมวเหมียวขู่เสือไปก็เท่านั้น
"เอาหน่าอย่าคิดมากเลย ผมไม่มีใครหรอกนอกจะวิคนเดียว ทานกันต่อเถอะครับ คืนนี้วิต้องใช้แรงอีกเยอะ"ประโยคสุดท้ายธนากรขยับเข้าไปใกล้กระซิบข้างกกหูเพียงเบา ๆ เพื่อให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน ส่วนวิเวียนถึงกับแก้มขาวเปลี่ยนสีเมื่อมีมือใหญ่ของสามีมาลูบไล้ต้นขาขาวที่อยู่ใต้โต๊ะ
"กรไม่คิดจะให้วิพักบ้างเลยหรือคะ"
"แล้ววิคิดว่ายังไงล่ะ"สายตาหื่นกระหายมันฉายเด่นเสียขนาดนี้ คืนนี้เธอคงไม่มีเวลาได้ก้าวขาลงมาจากเตียงอย่างแน่นอน เพราะความหื่นกระหายของธนากรคงจะหมดในยามรุ่งเช้าของอีกวัน
"เลิกมองได้แล้วขวัญ ถ้ามองแล้วมันเจ็บแกจะมองทำไม"ไอศกรีมละลายเป็นน้ำอยู่ในถ้วยแก้ว เพราะคนที่สั่งมันกำลังนั่งมองสองสามีภรรยากระซิบหวานอยู่จากโต๊ะไม่ไกล
"ก็มองให้มันตอกย้ำไงฝน ว่าขวัญคงเป็นได้เพียงแค่เมียน้อยเขาจริง ๆ "
"ถ้ามันเจ็บนักก็ลองถอยออกมาดีไหมขวัญ มันดีกว่าที่แกจะต้องทนอยู่ในสถานะเมียน้อยที่ไม่สามารถเปิดเผยให้ใครรู้ได้ไปตลอดชีวิตนะ"
"ถ้ามันถอยออกมาได้ง่ายตามที่พูดก็ดีน่ะสิฝน"เพราะเธอเคยคิดจะถอยออกมาแล้วเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายมีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เมื่อเธอพูดออกไป คำพูดของเธอก็ไม่ต่างอะไรกับสายลม เมื่อธนากรเลือกที่จะเพิกเฉยต่อมันและยิ่งไปกว่านั้น คำว่ารักที่ออกมาจากปากของเขาไม่ต่างอะไรกับโซ่ตรวนที่มันหัวใจของเธอไม่ให้บินหนีไปไหน