บทที่3
"ขวัญ วันนี้แกจะกลับยังไง"น้ำเสียงอ่อนหวานของน้ำฝนเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวตั้งแต่ที่เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันเอ่ยถาม ดวงตากลมโตใสแจ๋วมองเพื่อนสาวที่กำลังเก็บกระเป๋าเพราะถึงเวลาเลิกงานของวันนี้แล้วนั่นเอง
"ก็คงจะกลับรถเมล์หรือไม่ก็แท็กซี่ ฝนมีอะไรหรือเปล่า"ของขวัญเอ่ยถามพร้อมกับหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายไหล่
"ฝนนึกว่าขวัญจะกลับคุณกรเสียอีก"สองมือเล็กกุมสายสะพายเอาไว้แน่นเมื่อนึกถึงผู้ชายที่เธอแอบมีความสัมพันธ์ด้วย
"คุณกรเขาออกไปจากบริษัทตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้วล่ะ"
"จริงเหรอ แล้วคุณกรเขาไปไหนล่ะแกรู้หรือเปล่า"
"ฉันไม่ได้มีความสำคัญขนาดที่คุณกรจะต้องรายงานให้รู้ทุกเรื่องหรอกนะฝน"น้ำฝนแทบจะหุบปากไม่ทัน สายตาเศร้าหมองของเพื่อนสาวนั้นมันทำให้เธอรู้สึกเห็นใจ ความสัมพันธ์ของเพื่อนรักกับเจ้านายเธอรู้มาตลอดเพราะวันนั้นเธอไปหาเพื่อนรักที่หอพักแต่กับเจอแจ็คพอตใหญ่เมื่อเห็นว่าผู้เป็นเจ้านายกำลังจูบดูดดื่มกับเพื่อนสาวอยู่บนโซฟา ทั้งสองมีอาการตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นเธอยืนอยู่หน้าประตูห้อง ธนากรเอ่ยกำชับห้ามเธอบอกเรื่องนี้กับใครเป็นอันขาดเพราะกลัวว่าคนภายในบริษัทอาจจะมองของขวัญในทางที่ไม่ดี ซึ่งเธอก็ยอมตอบตกลงเพราะกลัวว่าเพื่อนสาวจะถูกครหาเป็นไก่วัดสาวสวยแอบพลีกายให้สมภารเชยชม
"ไม่เอานะอย่าเครียดเลย คุณกรอาจจะมีธุระก็ได้ เอาอย่างนี้ไหมไปเที่ยวผ่อนคลาย กินไอติมให้สบายใจดีกว่าเดียวฝนเลี้ยงเอง"ความน่ารักกับบุคลิกอันแสนอ่อนหวานของสายฝนมันทำให้ของขวัญยิ้มออกมาได้บ้าง แต่มันคงไม่กว้างมากพอเมื่อในใจของเธอยังคงเฝ้าถามว่าธนากรหายไปไหน เพราะทุก ๆ วันเขาจะพาเธอไปส่งที่คอนโดหลังจากเลิกงาน แต่วันนี้เขากลับหายไป หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเธอเริ่มสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังคืบคลานเข้ามาในชีวิตของเธออีกไม่ช้านี้
สองสาวมาถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมืองกรุง แหล่งรวบรวมของช้อปปิ้งทุกอย่างเอาไว้ในนี้ และทุกอย่างล้วนแต่เป็นของแบรนด์เนมสำหรับผู้มีอันจะกิน แค่ก็ยังมีของใช้ราคาไม่แพงมากนักสำหรับมนุษย์เงินเดือน ซึ่งภายในห้างก็จะมีร้านขายของกินของใช้แบ่งแยกออกเป็นสัดส่วน ความใหญ่โตหรูหราของตัวตึกบวกด้วยสินค้ามากมายทำให้นักช้อปนักเที่ยวมากมายต่างกันพาเข้ามาเลือกชมสินค้าภายในห้างสรรพสินค้าภายใต้การบริหารของ
'ธนากร ปิริยะสกุล'
"เห้อ ได้มาเที่ยวผ่อนคลายหลังจากเลิกงานแบบนี้มันก็ดีเหมือนกันนะ ทำแต่งานอุดอู้อยู่แต่กับเอกสารทั้งวันฝนล่ะเบื๊อเบื่อ"ของขวัญส่ายหน้าให้กับการขี้บ่นของเพื่อนสาวอย่างน้ำฝน
"แล้วทำไมฝนไม่ไปช่วยคุณอาทั้งสองทำงานล่ะ ขวัญว่ามันสบายกว่ามานั่งทำงานในบริษัทแบบนี้อีกนะ"
"ฝนไม่เอาด้วยหรอกวัน ๆ อยู่แต่ในร้านต้องคอยอธิบายนู่นนี่นั้นให้ลูกค้าฟัง แถมลูกค้าบางคนยังเรื่องมากอีก ฝนไม่เอาด้วยหรอก"เมื่อน้ำฝนพูดถึงกิจการเปิดร้านขายทองคำของครอบครัวถึงกับต้องขยาด งานบริการลูกค้าแบบนั้นเธอไม่ถนัดจริง ๆ ถึงแม้ว่าพ่อกับแม่ของเธออยากจะให้เธอไปช่วยทำงานที่บ้านมากกว่าจะมาทำงานบริษัทแบบนี้
"เกิดเป็นฝนก็น่าอิจฉาเหมือนกันนะ มีทั้งพ่อและแม่ที่คอยรักคอยเป็นห่วง ถึงไม่ต้องทำงานก็ยังมีเงินให้ใช้"พูดแล้วก็นึกน้อยใจชะตาชีวิตของตัวเอง น้ำฝนหยุดเดินเมื่อได้ยินคำพูดของคนเป็นเพื่อน ก่อนจะหมุนตัวหันไปมองน่าเศร้าของเพื่อสนิท
"แต่พ่อแม่ฝนก็รักขวัญเหมือนกับลูกสาวอีกคนนะ อย่าน้อยใจในโชคตาตัวเองเลยขวัญ ถ้าพรุ่งนี้เราไม่ตายสักวันเราก็ต้องรวย"นี่คือคติคำสอนของสายฝนที่เอาไว้พูดกับของขวัญอยู่เสมอ
"เชื่อฝนสิ ชีวิตของคนเรามันไม่ตกต่ำแบบนี้ตลอดไปหรอกนะ"
"ก็ได้ ขวัญจะเชื่อฝน"สองสาวส่งยิ้มเพิ่มกำลังใจให้กัน ทั้งคู่นั้นเดินกอดคอร้องเพลงเหมือนสมัยที่ยังเรียนเดินเข้าไปในร้านขายไอศกรีมภายในห้างดัง ร้านไอศกรีมร้านนี้ไม่ใช่ขายเพียงแค่ไอศกรีมอย่างเดียว ยังมีขนมเค้ก บราวนี่ หรือชานมไข่มุกขายอีกด้วย ซึ่งร้านนี้ถือเป็นที่นิยมสำหรับคู่รักหลายวัยที่เข้ามาใช้บริการภายในร้านนั้นตกแต่งด้วยสีชมพูหวานแหววเหมาะสมสำหรับคู่รักมากกว่าเพื่อนสาวอย่างพวกเธอสองคน ซึ่งภายในร้านไอศกรีมตอนนี้มีลูกค้าเพียงไม่กี่โต๊ะซึ่งทุกโต๊ะล้วนเป็นคู่รักชายหญิง
"ขวัญวันนี้เราจะกินอะไรกันดะ.."สองเท้าเรียวบางของน้ำฝนหยุดชะงักตรงหน้าประตูร้านพร้อมกับน้ำเสียงเอ่ยถามที่ขาดหายไป ดวงตากลมโตของเธอกำลังมองใครบางคนที่นั่งอยู่ภายในร้านพร้อมกับหญิงสาวแสนสวนที่เธอคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี
"เอ้าหยุดทำไมล่ะฝน"
"ฝนว่าเราไปทานร้านอื่นดีกว่านะ"
"ทำไมล่ะ นี้เป็นร้านโปรดของฝนเลยนะ"ของขวัญถามด้วยความสงสัย มาทานไอศกรีมทีไรน้ำในต้องเลือกทานร้านนี้เป็นประจำ
"คะ..คือว่า"ใบหน้าและสายตาของน้ำฝนมีพิรุธจนของขวัญนึกสงสัย ใบหน้าสวยชะโงกมองเข้าไปในร้าน ดวงตากลมโตกวาดมองหาความผิดปกติ ก่อนที่ตัวเธอจะถูกสาปให้ยืนนิ่งเมื่อเจอคนรักของเธอกำลังนั่งป้อนขนมให้กับ 'ภรรยาของเขา'
'นี่สินะสาเหตุที่ทำให้เขาหายออกจากบริษัทตั้งแต่ตอนเที่ยง เพราะคงไปรับภรรยาที่สนามบินหลังจากอีกฝ่ายบินไปดูงานที่เมืองนอกมาร่วมเดือน'
"ขวัญแกอย่าร้องไห้เลยนะ"น้ำตาแห่งความเสียใจไหลออกมาตอนไหนก็ไม่อาจจะรู้ได้ แต่สิ่งที่เธอควรรู้ในตอนนี้ก็คือ ตัวจริงของเขานั้นกลับมาแล้ว แล้วตัวสำรองอย่างเธอก็คงจะต้องกลับไปอยู่ในที่ลับ ๆ ของตัวเอง รอเพียงแค่เศษเวลาอันน้อยนิดที่เขาแบ่งมาให้เธอ