07 สั่งสอน
หลายวันต่อมา
“คุณ คุณ คุณไอศูรย์!!” หญิงสาวตะโกนใส่หูมาเฟียหนุ่มเสียงดัง เมื่อเห็นว่าเขากำลังนั่งใจลอยขณะที่กำลังยืนเช็ดแก้วอยู่
“เอ้ย!!”
เพล้ง! และแล้วแก้วในมือก็หลุดตกลงพื้นแตกกระจาย เพราะตกใจเสียงเรียกของหญิงสาวจนเผลอทำแก้วในมือหล่นพื้น
“ขอโทษๆ เดี๋ยวเก็บให้นะเธอออกไปยืนรอตรงโน้นก่อน”
“นี่คุณเป็นอะไรของคุณเนี่ย ฉันเห็นเหม่อลอยตั้งแต่เข้ามาในร้านแล้ว”
“ไม่มีอะไรหรอก เธอไปยืนรอตรงโน้นก่อนนะ เดี๋ยวเหยียบเศษแก้วเอา”
“….” เธอถอยออกมาเล็กน้อย ให้มาเฟียหนุ่มเก็บกวาดเศษแก้วที่แตกกระจายอยู่บนพื้นของร้าน “คุณไม่สบายหรือเปล่า”
“เปล่าๆ ฉันสบายดี”
“แน่ใจนะ”
“อืม…โอ้ยซี๊ด!”
“เห้ย ถอยออกมาเลยเดี๋ยวที่เหลือฉันทำต่อเอง” หญิงสาวเดินเข้าไปแทรกมาเฟียหนุ่มแล้วพาเขามานั่งลงที่เก้าอี้ “ฉันว่าคุณกลับไปพักก่อนจะดีกว่านะ พักนี้คุณดูแปลกตาไปมากเลย”
“ขอโทษนะ” ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าสวยที่กำลังทำแผลในมือของเขาอย่างใจจดใจจ่อ
“ขอโทษเรื่องอะไร?”
“ก็ขอโทษที่ทำของในร้านของเธอพัง แล้วก็ขอโทษที่ทำให้เธอต้องวุ่นวายมาคอยดูแลฉันด้วยแบบนี้”
“ช่างเหอะ มันไม่ได้มากมายอะไรอยู่แล้ว ว่าแต่ไปหาหมอหน่อยดีไหมเลือดไหลไม่หยุดเลย”
“ไม่ล่ะ แผลแค่นี้ฉันไม่เป็นอะไรหรอก” เขาปฏิเสธ
“แล้วแต่”
หลังจากที่ทำแผลให้กับชายหนุ่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินไปเก็บกวาดเศษแก้วที่กระจายอยู่บนพื้นร้านก่อนที่จะมีลูกค้าเข้ามาเหยียบ
“แล้วเธอไม่ได้กลับไปพักที่บ้านแล้วเหรอ?”
“ไม่หรอก บ้านพักหลังร้านตรงนี้เขาปล่อยเช่าพอดี ฉันก็เลยเช่าอยู่น่ะขี้เกียจขับรถไปมา”
“ฉันขออยู่ด้วยได้ไหม”
“จะบ้าเหรอ คุณกับฉันไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยจะมาอยู่ด้วยกันได้ยังไง อีกอย่างคุณก็มีคอนโดของคุณแล้วนี่ จะมาอยู่กับฉันทำไม”
“ฉันอยู่คนเดียวมันเหงานี่นาเลยอยากมาอยู่ด้วย แค่อาทิตย์ละไม่กี่วันเอง” เขาต่อรอง เพราะต้องทำตามข้อตกลงของไอรดาด้วย
“บ้าบอ”
“ได้มั้ย”
“ไม่” เธอปฏิเสธชายหนุ่มเสียงแข็ง
“นะ นะ นะ ขอร้องล่ะ”
“นี่คุณเป็นคนประเภทไหนกันเนี่ย คอนโดก็มีอยู่สบายดีอยู่แล้ว จะมาแออัดอยู่ในบ้านของฉันทำไม”
“อบอุ่นดีออก”
“….”
“ขออยู่ด้วยคนนะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเธอเลยแม้แต่ปลายเล็บ นอนคนละห้องก็ได้ เธอเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวมันอันตรายนะ อย่างน้อยมีฉันที่เป็นผู้ชายอยู่ด้วยมันก็ปลอดภัยขึ้นมาบ้าง”
“ฉันว่ามันจะอันตรายมากกว่าเดิมน่ะสิ”
“เราก็รู้จักกันมานานแล้วนะ เธอยังไม่ไว้ใจฉันอีกเหรอ”
“ไม่เคยได้ยินรึไง คนที่ใกล้ตัวที่สุดคือคนที่อันตรายที่สุด”
“อะโห…” เขาร้องอุทานเบาๆ คำพูดของเธอมันตรงไปตรงมาซะจนเขารู้สึกหน้าชาอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่ไว้ใจใครเลยโดยเฉพาะคนอย่างเขาที่อยู่ใกล้ชิดกับเธอมากที่สุดในช่วงเวลานี้
“….”
แต่แล้วมาเฟียหนุ่มก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์ ราวกับว่ามีแผนร้ายอยู่ในใจแล้ว
เวลาต่อมา
หลังจากที่ปิดร้านเรียบร้อยหมดแล้วหญิงสาวก็เดินออกมายังหลังร้าน ซึ่งเดินต่อไปอีกนิดเดียวก็จะเป็นบ้านพักที่เธอเช่าเอาไว้ก่อนหน้านี้
เธอไม่ค่อยอยากกลับบ้านเท่าไหร่เพราะกลับไปก็เจอแต่เรื่องปวดหัว จนเธอคิดว่าแค่ส่งเงินให้พ่อกับแม่ของเธอใช้ทุกเดือนก็พอแล้ว การที่ได้ออกมาอยู่คนเดียวแบบนี้มันทำให้เธอรู้สึกสบายใจมากกว่าอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ สำหรับเธอแล้วมันไม่ได้มีความสุขอะไรเลย มันมีแต่เรื่องปวดหัวและคำว่าเงินอย่างเดียว เพราะทุกคนเห็นเธอเป็นแค่ตัวนำเงินนำทองเข้ามาในบ้านเท่านั้น
พ่อติดเหล้าแม่ติดการพนันส่วนน้องชายก็ติดเที่ยวติดเพื่อนแต่งรถไม่ยอมไปโรงเรียน
“หื้อ หื้ม หื้อ ตื๋อดื่อ ดื๊ดดื่อ” หญิงสาวร้องรำทำเพลงอย่างสบายใจ เพราะเธออยู่บ้านคนเดียวและมันเงียบหูมาก เธอไม่ได้กลัวการอยู่คนเดียวแต่กลับกันเธอรู้สึกว่ามันสบายทั้งกายและใจมากกว่า ไม่ใช่ว่าเธอไม่รักครอบครัวเลยเธอรักทุกคนมาก แต่เธอเลือกที่จะออกมาอยู่คนเดียวเพราะมันสะดวกสบายดีกว่า
ตุบ!
เสียงเหมือนของบางอย่างที่หนักหล่นลงพื้น หญิงสาวหยุดชะงักเพื่อฟังเสียงนั้นว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่เสียงนั้นมันก็เงียบหายไปทำให้เธอสงสัยหนักกว่าเดิมอีก
“ใครกัน…” หญิงสาวบ่นพึมพำก่อนจะนุ่งผ้าขนหนูเดินออกไปอย่างช้าๆ ในมือจับกระบอกไฟฉายแน่นถ้ามันเป็นขโมยเธอก็จะใช้กระบอกไฟฉายในมือฟาดหัวมันให้แตกไปเลย
“อื้ออ กรี๊ดด อื้ออ” จู่ๆ ก็มีมือปริศนามาปิดปากหญิงสาวแล้วลากเธอไปมัดติดไว้กับเสา พร้อมกับใช้ผ้าปิดปากเธอไว้ไม่ให้เธอส่งเสียงร้องเสียงดัง
“เฮ้ย ขนเอาของมีค่าไปให้หมด มีผู้หญิงอยู่บ้านแค่คนเดียว” เสียงทุ้มต่ำของใครบางคนดังขึ้น
“อื้ออ ไอ้อ๊ะ อ่อยอื้ออ” หญิงสาวพยายามดิ้นทุรนทุรายเพื่อให้หลุดจากพันธนาการถูกมัด แต่เธอถูกมัดแน่นมากขยับเท่าไหร่ก็ไม่มีทางที่จะหลุดเลย
“ผู้หญิงคนนี้สวยเหมือนกันนะมึง กูว่าจับทำเมียก่อนดีมั้ยวะ” ชายหนึ่งในนั้นพูดขึ้นมา ทำให้หญิงสาวหวาดกลัวมากขึ้นกว่าเดิม
“อย่าทำเกินหน้าที่ เจ้านายสั่งมาแค่ว่าปล้นเอาของมีค่าของเธอไป และก็สั่งสอนเธอแค่นั้น”
“….” หญิงสาวเบิกตาโพลงความตกใจ เมื่อรู้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีคนอยู่เบื้องหลัง แต่มันจะเป็นใครกันล่ะเพราะเธอก็ไม่เคยไปสร้างศัตรูที่ไหนเลย
“มึงอยากตายมึงก็ทำสิ” เสียงเข้มพูดขู่อีกคน
“เออๆ พวกมึงขึ้นไปเอาของมีค่าก็แล้วกัน เดี๋ยวกูจะสั่งสอนมันเอง”
มีชายฉกรรจ์คนหนึ่งเดินมายังเธอที่ถูกมัดอยู่กับเสา ก่อนจะดึงผ้าปิดปากของเธอออก
“ชะ ช่วยด้วย ช่วยด้วย” ทันทีที่เป็นอิสระเธอก็รีบร้องตะโกนหาคนช่วยทันที
“หุบปาก!!” มือหนาบีบปากของหญิงสาวแน่น
“ฮึกก พวกแกเป็นใคร แล้วทำแบบนี้ทำไม ฉันไปทำอะไรให้พวกแกตอนไหน”
“เธอไม่ทำพวกฉันหรอก แต่อยากเสือกไปยุ่งกับคนของคนอื่นเอง เรื่องนี้ก็ช่วยไม่ได้”
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
“อะ โอ้ย ฮึก”
“จำเอาไว้ให้ดี อย่าทะเล่อทะล่าไปยุ่งกับคนที่มีเจ้าของอีก นี่แค่คำเตือนเท่านั้นนะ”
“ไปเว้ยพวกมึง”