ตอนที่ 2 ความอิ่มเอมใจแม้ชั่วขณะ ep2
“ขอบคุณนะคะคุณตรีที่อุตส่าห์มา..”
รอยยิ้มหวานผุดขึ้นบนดวงหน้าที่เนียนกระจ่างของเธอท่ามกลางสายตาของปราชญ์ที่มักจะลอบชำเลืองสายตามองหน้าหวานละไมของเธอบ่อยครั้ง ใช่ว่าเขาไม่เคยพบเจอคนสวย เพราะดารานักแสดงทุกคนล้วนเรียกว่าดาวทั้งสิ้น ย่อมมีความสวยงามไม่แพ้กัน
แต่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เหมือนผู้หญิงอื่นสำหรับเขาคือจริตของเธอและการวางตัว แม้จะอยู่ในวัยสาวที่อาจจะเด็กสำหรับเขาแต่เธอดูนิ่งและสำรวม ไม่ว่าจะยิ้มจะพูดจะคุยดูดีไปหมด ตรงนี้มันคือเสน่ห์ที่ทำให้เขาเผลอมองเธอแล้วอยากจะเก็บทุกรายละเอียดเกี่ยวกับเธอเอาไว้ให้หมด
“ไม่เป็นไรค่ะเจ๊ตา ตรีเองก็ต้องขอบคุณที่เจ๊ตาเปิดโอกาสให้ตรีได้ทำความรู้จักกับผู้ร่วมงานนะคะ เพื่อที่วันหน้าเวลาตรีได้เข้าไปทำงานจริง ๆ จะได้ทำงานได้ง่ายขึ้น..”
“หมายความว่า คุณตรีกำลังจะมารับหน้าที่ทางด้านละครแทนเสี่ยพศหรือคะ..”
“ต้องบอกว่าพี่ไชยพศให้โอกาสตรีมากกว่าค่ะ..”
งามตายิ้มเย็นเมื่อมองดวงหน้าหวานละไมของเธออย่างนึกเอ็นดู
“ปราชญ์ขา..”
น้ำเสียงเล็กที่กรีดแผ่วในช่วงท้ายดังแทรกขึ้นก่อนที่ร่างบางอย่างเย้ายวนของมัณฑิตาจะก้าวเข้ามายังร่างสูงใหญ่ของปราชญ์ ทำให้สายตางามที่คมหวานค่อย ๆ ตวัดไปมองด้วยความสนใจ เพราะมัณฑิตานอกจากจะสวยสะดุดตาแล้วเจ้าหล่อนยังมีกระแสตาที่เชิญชวนและหวานฉ่ำอยู่ในทีเมื่อมองตรงมาหาเขา
“เจ๊ขา ฑิตาจะขอตัวกลับก่อนนะคะ เพราะว่าพรุ่งนี้ต้องพาคุณพ่อไปตรวจตามนัดแต่เช้า..”
“ตามสบายเลยค่ะฑิตา ขอบคุณนะคะที่ทำให้ละครเรื่องนี้ผ่านฉลุย..”
มัณฑิตาชำเลืองสายตามามองดวงหน้าเข้มคมของเขาก่อนจะวางมือเรียวลงที่บ่ากว้างที่แน่นเครียดไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ ของเขาแล้วบีบเบา ๆ
“ก็ผู้กำกับ นอกจากจะเก่งและเอาจริงแล้ว ยังดุมาก ๆ อีกด้วย ใคร ๆ ก็กลัวทั้งนั้นแหละค่ะ..”
เจ้าหล่อนฉอเลาะพลางมองสบสานสายตาคมกับเขาที่มองมาพลางยิ้มน้อย ๆ ไม่เห็นไรฟัน
“ปราชญ์จะกลับพร้อมฑิตาไหมคะ..”
เขานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะช้อนสายตามองดวงหน้าหวานใสของตรีอภิรมย์ที่รีบหลุบเปลือกตามองที่แก้วน้ำตรงหน้าแล้วยกขึ้นจิบ ราวกับไม่ใส่ใจเขานัก
“ไม่กลับพร้อมฑิตา ฑิตาคงต้องกลับแท็กซี่..”
เจ้าหล่อนทำเสียงแผ่วเชิงประชดกลาย ๆ หมายเรียกความสนใจ
“รถคุณล่ะครับ..”
“เกเรกะทันหันน่ะสิคะ..ไม่อย่างนั้นฑิตาไม่รบกวนคุณหรอกค่ะ..”
เจ้าหล่อนตีหน้าเศร้า
“เอาเถอะค่ะ แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้ว ไว้โอกาสหน้าค่อยทานข้าวกันนะคะปราชญ์ ฑิตาเชิญด้วยนะ เพราะละครเรื่องหน้ามีฑิตาอยู่ด้วย..”
เพียงเท่านั้นสีหน้าที่เศร้าก็อันตรธานหายไปแทบทันทีเมื่อรอยยิ้มผลิบานขึ้นมาแทนที่
“จริงหรือคะ..”
“ไว้เจ๊จะส่งบทให้ฑิตานะจ๊ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องหลังจากที่บทละครผ่านการอนุมัติจากคุณตรีก่อน..”
งามตาหันไปหาตรีอภิรมย์ที่รีบยิ้มรับ
“ด้วยความยินดีค่ะ หากเจ๊จะส่งบทให้ตรีอ่าน เพราะละครทุกเรื่องของเจ๊ การันตีคุณภาพของงานได้อยู่แล้ว เพราะว่าพี่ไชยพศไว้วางใจเจ๊มาก และก่อนมานี่ ตรีก็ได้ดูละครทุกเรื่องที่ออกอากาศทางสถานีของเรามาบ้างแล้ว..”
เพียงเท่านั้นงามตาก็ยิ้มแก้มแทบแตก
“คุณตรีนี่ล่ะ เตรียมทำการบ้านมาก่อนหน้าก็ไม่บอก..”
งามตาหันกลับมาหาปราชญ์กับมัณฑิตาที่แอบมองดูทุกอากัปกิริยาของตรีอภิรมย์ด้วยความรู้สึกหนึ่งที่แวบเข้ามา เนื่องมาจากสัญชาตญาณของลูกผู้หญิงมีสิ่งหนึ่งที่แม่นยำที่สุดคือความรู้สึก โดยเฉพาะในเรื่องของความรักและการเป็นเจ้าของ
จากระแสตาที่คมราวรังสีเอกซเรย์ของปราชญ์ที่มักจะเผลอจ้องมองตรีอภิรมย์ แม้มัณฑิตาจะมองเห็นในระยะห่าง แต่ก็มีบางสิ่งที่บอกหล่อนว่า มีอะไรบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นในห้วงลึกของความรู้สึกที่ยากคาดเดาของผู้ชายคิ้วหนา ตาคม จมูกโด่ง ปากแดงคนนี้
“งั้นก็ตามสบายนะคะไว้โทรคุยกันนะปราชญ์..”
“ครับ..”
เขามองหน้าตรีอภิรมย์พร้อมกับค้อมศีรษะให้เล็กน้อย
“ขอตัวนะครับ..”
“ค่ะ”
เพียงแค่ปราชญ์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ท่อนแขนกลมกลึงของมัณฑิตาก็สอดมากอดเอาไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ท่ามกลางสายตาของตรีอภิรมย์ที่ลอบชำเลืองมองตามไปเงียบ ๆ ด้วยความรู้สึกหนึ่งที่เริ่มประเดประดังเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว