ตอนที่ 1 ความอิ่มเอมใจแม้ชั่วขณะ ep1
“มาถึงแล้วใช่ไหม?..”
เพียงแค่สิ้นคำถามของงามตาหรือที่ทุกคนคุ้นเคยคือเจ๊ตา ผู้จัดละครชื่อดัง สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องไปยังประตูทางเข้าห้องอาหารขนาดใหญ่ที่พรั่งพร้อมไปด้วยดารานักแสดงและผู้ร่วมงานเกือบ 100 ชีวิต ทุกคนมองไปที่นั่นเหมือนกำลังรอคอยใครบางคนที่มีความสำคัญยิ่ง
“มาแล้ว..”
เพียงแค่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ ทุกคนก็ยืนขึ้นเกือบพร้อมกันแล้วก้าวหลีกทางเมื่อเจ้าของร่างบางอรชรปรากฏตัวขึ้น
“อ้าว?..”
“เอ๊ะ!..”
ความกังขาผุดขึ้นในใจของผู้ที่อยู่ในห้องอาหารนั้นเกือบทุกคน ยกเว้นเพียงเจ๊ตาคนเดียวที่รีบก้าวตรงเข้าไปยังร่างบางอรชรและกลมกลึงสมสัดส่วนของหญิงสาววัยยี่สิบสี่ปี เจ้าของดวงตากลมโตดูสุกสกาวสดใส ด้วยความสูงกว่า 160 เซนฯ
เรือนร่างบางอรชรดูอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอมเธอมาในชุดลำรองสบาย ๆ เป็นเสื้อยืดสีเขียวอ่อนคลุมทับด้วยเชิ้ตสีขาว สวมกางเกงผ้าเนื้อดีลายตารางสีเทาดำ
เรือนผมยาวสยายดัดหยิกเป็นสีน้ำตาลอ่อนเพิ่มความหวานและเย้ายวนให้รูปหน้าเรียวสะอาดเป็นรูปไข่ที่เนียนกริบไร้สีสันของเครื่องสำอางใด ๆ ให้น่ามองมากขึ้น
ขนคิ้วเรียวโก่งราวคันธนูดูดกดำขนานกับกรอบขนตาที่ยาวและงอน ปกป้องดวงตากลมโตสุกสกาวสดใส ปลายจมูกเล็กโด่งเป็นสันสวยงามรับกับเรียวปากอิ่มรูปกระจับเป็นสีแดงผสานกับผิวแก้มขาวอมชมพูที่สลักรอยบุ๋มของลักยิ้มไว้อย่างน่ามอง
“ขอโทษนะคะที่มาช้า เพราะว่าหลงทางค่ะ..”
น้ำเสียงกังวานหวานแผดดังออกมาอย่างชัดเจนพร้อมกับก้มศีรษะลงเล็กน้อยแล้วก็เผยรอยยิ้มหวานยวนใจแจกให้กับทุกคนที่มองสบสานสายตากับเธอ
หนึ่งในจำนวนสายตาทุกคู่ที่จ้องมองเธอมีความกังขาอยู่ในทีเมื่อมองเห็นความงดงามของสาวน้อยที่ไม่เคยพบพานมาก่อน และก็อดคิดไม่ได้ว่าคงจะเป็นเด็กสร้างคนใหม่ของเจ๊ตา แต่ทว่ารอยยิ้มที่ผลิบานราวดอกไม้ที่เพิ่งผ่านหยาดน้ำค้างในยามเช้าตรู่กลับทำให้หัวใจที่แข็งแกร่งของใครคนหนึ่งเกิดความไหวหวามอยู่ในที
“สงสัยล่ะสิ..”
เจ๊ตาหรืองามตาหันมามองหน้านักแสดงทุกคนก่อนจะรวบมือบางให้ก้าวมาหยุดเคียงข้างร่างขาวท้วมของหล่อน
“นี่คือคุณตรีอภิรมย์ น้องสาวของเสี่ยพศ หรือก็คือลูกสาวคนเล็กของท่านเจ้าสัวปวเรศ เธอมาแทนเสี่ยพศค่ะ..”
“อ๋อ..”
เมื่อได้รับคำอธิบายความกังขาของทุกคนก็อันตรธานหายไปเหลือเพียงความสนใจใคร่รู้ความเป็นมาของเธอ
“นึกว่าเด็กสร้างของเจ๊เสียอีก..”
“ถ้าได้ก็ดีน่ะสิ รับรองว่าพวกหล่อนตกงานแน่..”
เจ๊ตากระเซ้าก่อนจะผายมือเชื้อเชิญให้ตรีอภิรมย์นั่งลงยังเก้าอี้ตัวหนึ่งเคียงข้างหล่อนแต่ตรงข้ามกับเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่คมกริบ ซึ่งเขาจับจ้องมองเธอตั้งแต่ก้าวแรกที่เธอก้าวเข้ามาแล้วให้รู้สึกไหวหวั่นในหัวใจเล็ก ๆ เมื่อเห็นรอยยิ้มของเธอ
“คุณตรีอภิรมย์ เพิ่งบินกลับมาจากเมืองนอกเมื่อสองวันก่อน แล้วบังเอิญว่าคืนนี้เสี่ยพศของเราติดธุระเลยส่งคุณตรีมาแทน..”
เจ๊งามตาอธิบายก่อนจะช้อนสายตาภายใต้กรอบแว่นสายตาไปยังใบหน้าสี่เหลี่ยมได้รูปของชายหนุ่มวัยสามสิบ ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับหล่อนและแขกรับเชิญ
“ปราชญ์ โกมลเฉลิมค่ะคุณตรี เขาเป็นผู้กำกับอิสระค่ะ แต่ว่าเป็นผู้กำกับประจำของเจ๊และของผู้จัดละครอีกหลายคนในสถานีโทรทัศน์ของท่านเจ้าสัว..”
เขาตวัดสายตามองดวงหน้าเรียวสะอ้านตรง ๆ ก่อนจะค้อมศีรษะให้เล็กน้อย เช่นเดียวกับเธอที่รีบส่งยิ้มหวานจับใจไปให้เขา แต่ก็ต้องรู้สึกเหมือนหัวใจกระตุกเมื่อมองสานสายตาคมกริบของเขาที่มองมา
เพราะดวงตาคมกล้าคู่นั้นมีความร้อนแรงและเฉียบคมบ่งบอกถึงพลังที่กล้าแกร่งในหัวใจของเขาที่ส่งกระแสผ่านมาหาเธอ แต่ภายใต้ความกล้าแกร่งเหมือนมีพลังบางอย่างที่สอดแทรกอยู่ทำให้เธอรู้สึกไหวหวามในหัวใจขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็น
“ในเมื่อแขกพิเศษของเรามาถึงแล้วพวกเราก็ขอเปิดงานเลี้ยงฉลองปิดกล้องละครเลยก็แล้วกันนะคะ..”
พิธีกรสาวในงานคือมัณฑิตา ดาราสาวมากบทบาทวัยเกือบสามสิบปีที่สวยพราวและเซ็กซี่ ประกาศก่อนจะเลี่ยงเมื่อดารานักแสดงชายหญิงกระโดดขึ้นเวทีพร้อมกับขวดแชมเปญที่ถูกเขย่าอย่างแรงเมื่อเปิดออกก็พุ่งออกมาท่ามกลางเสียงกรี๊ดของบรรดาผู้ร่วมงานที่มีทั้งทีมงานของผู้กำกับ กล้อง ช่างแต่งหน้าทำผม เสื้อผ้าและฉากต่าง ๆรวมถึงผู้เขียนบทที่มาร่วมงานด้วย
แชมเปญที่รินลงแก้วถูกยื่นมาตรงหน้าของเธอด้วยมือใหญ่สะอาดของปราชญ์ เธอยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะรับมาถือไว้แล้วก็ชูขึ้นเมื่อพิธีกรเชื้อเชิญให้ดื่มร่วมกัน
ริมฝีปากบางจรดลงที่ปากแก้วแล้วจิบน้ำในแก้วท่ามกลางสายตาของปราชญ์ที่เผลอจ้องมองเธอราวกับตกอยู่ในภวังค์จนลืมที่จะยกแก้วขึ้นจิบ ทำให้เกิดเสียงกระแอมขึ้นเบา ๆ จากทางด้านข้าง
“ตะลึงอะไรวะปราชญ์ ระวังเถอะแม่เสือจะตะปบกรงเล็บลงที่กลางหลังของนาย ดูนั่นเจ้าหล่อนกำลังมองมา..”
กิตติภพ ผู้ช่วยผู้กำกับหรือเพื่อนสนิทของปราชญ์กระซิบบอกเมื่อมองไปเห็นมัณฑิตาตวัดสายตามามองดูเขาในขณะที่เขายังเผลอจ้องมองดูตรีอภิรมย์นิ่ง
“งานนี้จะสำเร็จไม่ได้หากเราขาดผู้กำกับมือดีคนนี้ ปราชญ์ โกมลเฉลิมค่ะ..”
เขาลุกขึ้นท่ามกลางเสียงปรบมือของทุกคนแล้วก้าวขึ้นเวที
“ผมไม่ได้มีส่วนสำคัญที่สุดหรอกนะครับ แต่ความสำเร็จเกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของพวกเราทุกคนครับ ผมต้องขอบคุณนักแสดงและทีมงานทุกคนที่ยอมถูกผมด่า..”
เสียงโห่ขึ้นขึ้นติดตามด้วยเสียงปรบมือเมื่อเขาถูกขอให้ร้องเพลง
“พอดี ฑิตาแว่วมาว่า ผู้กำกับหนุ่มหล่อของเรา ร้องเพลงเพราะ ใครอยากฟังบ้างคะ..”
เสียงโห่ร้องดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง ตามด้วยไมโครโฟนจากมือเรียวของมัณฑิตาที่ส่งให้เขาเมื่อช้อนสายตาที่ฉ่ำหวานมองสานสายตากับเขา
“ผมต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า ทุกคนอาจจะผิดหวังเมื่อได้ฟังผมร้องเพลง แล้วอาจจะอยากให้ผมรีบลงจากเวที หากเกิดความรู้สึกอย่างนั้นช่วยระงับไว้ก่อนนะครับ แล้วค่อยกลับไประบายให้คนที่บ้านฟัง..”
เสียงกรี๊ดดังขึ้นหลังจากเสียงอินโทรของบทเพลงหวานดังขึ้น ติดตามด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มกังวานดังผสานกับเสียงดนตรีสะกดทุกสายตาของผู้ร่วมงานให้หยุดนิ่งที่ร่างสูงใหญ่ดูสง่างามด้วยความสูงเกือบ 190 เซนฯของเขา
หนึ่งในสายตาทุกคู่คือสายตาคมที่เจือแววหวานของตรีอภิรมย์ที่เธอแทบไม่รู้ตัวเลยว่า เธอเผลอจ้องมองผู้ชายหน้าเข้ม ตาคมคนนี้นานแค่ไหน มารู้ตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงปรบมือดังกระหึ่มเป็นสัญญาณว่าบทเพลงได้สิ้นสุดลงแล้ว