11 คนมึน
เช้าวันต่อมา
หลังจากที่นักรบออกไปจากห้องของเธอ ม่านมุกก็รีบไปล็อคประตูไว้ทันทีทั้งสองชั้นทำให้นักรบไม่สามารถเข้ามาในห้องของเธอได้คืนนั้นจึงทำให้เธอนอนอย่างไม่ต้องระแวง จนกระทั่งเช้าวันต่อมาเธอลืมตาขึ้นมาก่อนจะยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วเดินไปเปิดผ้าม่านออกทำให้แสงตะวันในยามเช้าส่องเข้ามาภายในห้องนอนของเธอ
ม่านมุกนั่งลงบนเตียงใหญ่อีกครั้งสายตาของเธอมองทอดยาวออกไปด้านนอก บ้านของนักรบมันดูเงียบสงบเหมือนจะร่มรื่นดี แต่ก็แฝงไปด้วยความน่ากลัวที่เธอไม่อาจจะล่วงรู้ได้ ทุกครั้งที่เธอได้นั่งเงียบๆคนเดียวเธอมักจะคิดถึงพ่อของเธอตลอด พ่อของเธอชอบนั่งทำอะไรเงียบๆคนเดียวบางครั้งก็จะพาเธอไปอยู่ด้วยในห้องของเขา
ก๊อก ๆ ๆ ๆ
ม่านมุกถอนหายใจออกมาอย่างแรงก่อนจะลุกเดินไปเปิดประตู ทันทีที่ประตูถูกปลดล็อคและเปิดออกนักรบก็แทรกตัวเข้ามาทันที
"นี่!อะไรของคุณเนี่ย!!" ม่านมุกเดินตามนักรบเข้ามา
"เมื่อคืนเธอล็อคห้องทำไมฉันเข้ามาไม่ได้ไม่รู้หรือยังไง"
"นั่นมันก็เรื่องของคุณนี่คะ ห้องของคุณก็มีคุณก็ไปนอนห้องของคุณสิคะ" ม่านมุกพูด
"ไม่ได้!! ต่อไปนี้ฉันจะมานอนที่นี่กับเธอทุกคืน และเธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธด้วยเพราะว่าที่นี่เป็นบ้านของฉันฉันจะเข้าออกห้องไหนก็ได้"
"ไม่ได้ค่ะ! นี่มันพื้นที่ส่วนตัวของฉันอย่ามาล้ำเส้นกันสิคะ ให้ฉันมีความเป็นส่วนตัวของตัวเองบ้าง"
"...." นักรบทำเมินกับคำพูดของม่านมุก เขาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของเธออย่างสบายใจ
"นี่คุณ!ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะ ถ้าคุณง่วงคุณก็กลับไปนอนในห้องของคุณสิ" ม่านมุกพยายามดึงแขนนักรบให้ลุกขึ้นแต่ด้วยแรงของผู้หญิงทำให้เธอไม่สามารถทำให้นักรบขยับตัวได้เลย
"ฉันจะนอนที่นี่! ไปปิดผ้าม่านให้ฉันด้วยตะวันมันแยงตานอนไม่หลับ" พูดจบนักรบก็คว้าหมอนข้างของม่านมุกไปกอดเอาไว้พลางทำท่าเหมือนคนกำลังง่วงนอน ม่านมุกกัดฟันแน่นพยายามหักห้ามตัวเองไม่ให้ด่านักรบออกไป สุดท้ายเธอก็เดินไปปิดผ้าม่านให้กับนักรบส่วนตัวเธอนั้นก็คว้าผ้าขนหนูเดินเข้าไปในห้องน้ำ
หลังจากที่เสร็จธุระม่านมุกก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เรียบร้อยแล้ว ส่วนนักรบก็ยังคงนอนอยู่บนเตียงของเธอเช่นเดิม ม่านมุกเอาผ้าขนหนูไปตากแขวนเอาไว้ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปที่หน้าประตูแล้วเปิดออกไปด้านนอก
เธอเดินลงมาด้านล่างก็พบว่าแม่บ้านได้จัดเตรียมอาหารไว้บนโต๊ะให้กับเธอเรียบร้อยหมดแล้ว และในห้องโถงใหญ่นี้ก็ไม่มีใครอยู่เลย ถึงเธอจะอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้วแต่เธอก็ยังไม่ชินกับบรรยากาศที่นี่อยู่ดีเพราะมันช่างเงียบและวังเวงเอามากๆ ม่านมุกนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะนั่งกินข้าวอย่างเงียบๆคนเดียว
หลังจากที่กินข้าวเสร็จเธอก็เดินออกมารับลมที่ด้านหลังบ้านเพราะมันเต็มไปด้วยร่มไม้หนาทึบ มีลูกน้องของเขาเฝ้าอยู่เต็มพื้นที่ไปหมดไม่ว่าเธอจะขยับตัวไปทางไหนลูกน้องของนักรบก็จะคอยจับตามองตลอด
"ทำอย่างอื่นกันไม่เป็นหรือยังไง!" ม่านมุกบ่นกับตัวเองเบาๆเพราะเธอรู้สึกไม่มีความเป็นส่วนตัวเลยเพราะถูกสายตานับสิบจับจ้องมาที่เธอคนเดียว
"เขาก็ทำงานของเขาเธอจะให้เขาไปทำอย่างอื่นได้ยังไง"
"งานที่ว่าต้องคอยมาจับตาดูฉันอย่างเดียวเลยหรือไง!" ม่านมุกสวนกลับเจ้าของเสียงนั้นอย่างทันควันโดยที่ไม่ได้หันไปมอง เธอหยุดชะงักนิ่งก่อนจะค่อยๆหันหลังกลับไปอย่างช้าๆ
"เธอเป็นคนขี้บ่นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ลูกน้องของฉันก็ทำงานตามคำสั่งของฉันไง"
"กะ....ก็เรื่องของคุณสิ" ม่านมุกตอบกลับนักรบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักก่อนจะรีบหลบสายตาของนักรบไป ยิ่งภาพเหตุการณ์เมื่อวานลอยเข้ามาในหัวของเธอ ทำให้ม่านมุกแทบจะมองหน้านักรบไม่ติด
"คนเก่งเมื่อกี้หายไปไหนซะแล้วล่ะ"
"คุณพูดอะไรของคุณ ใครเก่งอะไร"
"ก็คนเก่งเมื่อที่พูดว่า ...ทำอย่างอื่นไม่เป็นกันหรือยังไงถึงต้องคอยมาตามฉัน...."
"....." คำพูดของนักรบทำเอาม่านมุกถึงกับเม้มปากแน่นทันที ใบหน้าและหูของเธอเริ่มร้อนระอุขึ้นมา
"เงียบทำไมล่ะ"
"นี่คุณ!ง่วงนักไม่ใช่เหรอทำไมไม่นอนล่ะ จะลงมาทำไม!!" ม่านมุกชักสีหน้าใส่นักรบเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าเธอไม่พอใจ แต่เธอไม่รู้จะพูดอะไรออกไปในตอนนี้เหมือนกำลังถูกนักรบกดดัน
"ฉันไม่ง่วงแล้ว" นักรบตอบกลับมาสั้นๆก่อนจะเดินมายืนอยู่ข้างๆเธอ
"งั้นฉันขึ้นไปนอนล่ะ" พูดจบม่านมุกก็หันหลังรีบวิ่งขึ้นบ้านไปทันที ทันทีที่เธอถึงห้องเธอก็ปิดประตูลงกลอนอย่างเรียบร้อย
ม่านมุกเดินไปยังหน้าระเบียงก็เห็นนักรบยืนอยู่กับลูกน้องของเขาเหมือนกำลังคุยอะไรกันอยู่สักอย่างก่อนที่จะพากันเดินไปยังโกดังหรืออะไรสักอย่างเพราะสภาพมันเก่ามาก แถมบรรยากาศโดยรอบยังปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อยหนาทึบอีกต่างหาก บางคนอาจจะมองว่าที่นี่ร่มรื่นดีน่าอยู่ แต่สำหรับม่านมุกเธอมองว่ามันน่ากลัวและเงียบสงัดราวกับที่นี่เป็นป่าช้า