ตอนที่ 9 กังวล
ตอนที่ 9 กังวล
เสี่ยวซิงค่อยๆยื่นมือผลักประตูกระท่อมนั้นออก แล้วรีบวิ่งเข้าไป คิดในใจ : โชคดีที่ประตูไม่ได้ล็อก! ไม่งั้นวันนี้คงเปียกฝนตายแน่
หลังจากหันไปปิดประตูไม้ เสี่ยวซิงใช้สายตามองไปรอบๆกระท่อมไม้เล็กๆที่มืดสลัว พบว่าห้องเล็กๆนี้สร้างมาจากไม้ การออกแบบในห้องก็ธรรมดา มีแค่เตียงหนึ่งตัว โต๊ะและเก้าอี้ง่ายๆหนึ่งตัว มองบนเตียงเล็กๆปูผ้าห่มได้แน่นตึงเป็นระเบียบ เสี่ยวซิงเผยรอยยิ้มที่ประหลาดใจออกมา ฝนเมื่อกี้นี้ทั้งชื้นทั้งเย็น ตอนนี้เธอก็เหมือนลูกไก่ตกน้ำ แถมเป็นลูกไก่ตกน้ำโคลนซะด้วย
เสี่ยวซิงอาศัยแสงไฟสุดท้ายจากท้องฟ้า ถอดชุดกระโปรงที่เลอะโคลนออก เธอรีบวิ่งไปตรงโต๊ะ หาทุกซอกทุกมุมว่ามีเทียนหรือของอะไรที่ส่องแสงสว่างได้ ท้องฟ้าเริ่มใกล้มืดลงแล้ว ไม่มีแสงไฟแล้วเธอจะกลัวมาก! โชคดีที่ในที่สุดเธอก็หาเทียนที่หักไปครึ่งอยู่หลายเล่มเจอกับไม้ขีดไฟหนึ่งกล่อง หลังจากจุดเทียนหนึ่งแท่ง ในห้องเป็นเพราะมีแสงเทียนนิดหน่อยเลยทำให้ดูอบอุ่นขึ้นมา
เสี่ยวซิงรีบปีนขึ้นไปบนเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นมาขดตัวอยู่ในผ้าห่ม แม้ว่าเสื้อในเธอจะเปียกหมดแล้ว แต่ตอนนี้เธออยู่ในกระท่อมไม้เล็กๆคนเดียว เนื่องจากไตร่ตรองถึงความปลอดภัยแล้วเธอไม่สามารถถอดชุดออกทั้งหมดได้! ถ้าหากมีโรคจิตอะไรพวกนี้มาก็ขาดทุนแย่ คิดถึงตรงนี้แล้ว เสี่ยวซิงก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่เสียบประตู รีบวิ่งไปที่หน้าประตู ท่ามกลางแสงไฟอ่อนๆก็หาไม้มาเสียบประตูไว้อย่างแน่นถึงจะค่อยๆอุ่นใจ
ลมฝนข้างนอกยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ได้ยินเสียงลมแรงจากข้างนอก ช่องว่างเล็กๆตรงหน้าต่างเห็นเงาต้นไม้ที่ถูกลมพัดแกว่งไปมา เสี่ยวซิงกลัวสุดขีด! เธอห่อตัวในผ้าห่มอย่างแน่น สายตาที่หวาดกลัวมองไปที่หน้าต่าง ในใจหมดหวังแทบตาย! ตอนนี้เป็นเวลากินมื้อเย็นแล้วด้วย ไม่รู้ว่าคุณแม่ในนามกับพวกสาวใช้หาเธอไม่เจอจะเป็นยังไง? เธอไม่ได้บอกใครไว้เลยว่าจะเข้าไปในป่ามะพร้าวนี้ จริงๆแล้วแม้กระทั่งตัวเธอเองก็เดินเข้ามาอย่างงงๆ ลมฝนข้างนอกแรงขนาดนี้ คงไม่มีใครมารับเธอได้แล้ว! ดูแล้วคงต้องรอถึงพรุ่งนี้ฝนหยุดค่อยออกไป ดูท่าคืนนี้ต้องอดข้าวแล้ว! เสี่ยวซิงลูบท้องดังกุกๆ
เนื่องจากเวลาพลบค่ำฝนตกกระหน่ำ ดังนั้นน้อยมากที่คืนนี้ฉินจู้นจะกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้าน
“คุณชายคะ! คุณนายยังไม่กลับมาเลยค่ะ” พอฉินจู้นเข้าไปห้องรับแขกที่กว้างใหญ่ป้าจางก็รีบวิ่งมาแจ้งทันที
“เธอได้บอกมั้ยว่าจะไปไหน?” ฉินจู้นหันไปมองลมฝนข้างนอก
“คนเฝ้าประตูบอกว่าไม่เห็นคุณนายออกไปเลยค่ะ! แต่ว่าขึ้นๆลงๆสี่ชั้นแล้วก็หาไม่เจอแม้แต่เงา!” ป้าจางขมวดคิ้ว
“ไม่ออกไป!” ฉินจู้นก้มศีรษะลงพูดเบาๆกับตัวเอง
“อาจู้น ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นดีที่สุด!ข้างนอกฝนตกหนักขนาดนี้
เด็กคนนี้ เธอไปไหนแล้ว? ทำไมไม่บอกสักคำนะ?” เหยาเฟินก็ดูกระวนกระวาย
ฉินจู้นไม่ได้ตอบอะไร แต่เดินไปที่ห้องวงจรปิด เขาสาวเท้าเดินเร็วๆเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยแผงควบคุมกล้องวงจรปิด มือกดที่ปุ่มกด กล้องโทรทัศน์กี่สิบเครื่องก็เปิดขึ้นทั้งหมด ฉินจู้นใช้สายตาแหลมคมมองไปที่ภาพวงจรอย่างไว เหมือนกับนกอินทรีย์ที่จะจับกุมคนที่ต้องการหา เร็วมากเขาก็หาเป้าหมายเจอแล้ว
บนโต๊ะที่มีแสงเทียนอ่อนๆ ในจอปรากฏภาพเสี่ยวซิงกำลังขดตัวอยู่ในผ้าห่มสีน้ำตาลอมเหลือง ตาโตๆคู่นั้นเหม่อมองหน้าต่างอย่างหวาดกลัว......
หรือว่าสายตาที่หวาดกลัวคู่นั้น สีหน้าแบบนี้ฉินจู้นไม่หยุดที่จะดูอีกครั้ง ไม่รู้เพราอะไรสายตาที่หวาดกลัวคู่นั้นของเธอมักจะทำให้ส่วนลึกในหัวใจที่อ่อนโยนของเขาสั่นไหวได้ ทำให้เขาหยุดไม่ได้ที่จะไปปกป้องเธอ!
“ที่แท้เสี่ยวซิงก็หลบฝนอยู่กระท่อมเล็กในป่ามะพร้าว!” ในที่สุดเหยาเฟินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“หม่ามี๊ ผมจะไปรับเธอ!” ฉินจู้นพูดจบก็รีบเดินออกไป
“อาจู้น ลมฝนข้างนอกแรงมาก เรียกอาเจี๋ยไปเป็นเพื่อนเถอะ!” เหยาเฟินตะโกนจากด้านหลัง
“ไม่จำเป็นแล้ว!” เสี่ยงที่ตอบกลับมาจากข้างนอก
ฉินจู้นใส่เสื้อกันฝนในมือถือไฟฉายเดินเข้าไปในป่ามะพร้าว ตอนเด็กเขามาเล่นในนี้บ่อยๆ เขาก็เป็นแขกประจำของกระท่อมไม้เล็กๆ เพียงแต่หลังจากโตขึ้น เขาก็มาที่นี่น้อยลง แต่ที่นี่กลับเก็บความทรงจำในตอนเด็กไว้มากมาย
ฉินจู้นคุ้นเคยกับทางที่นี่มาก เดินอยู่ไม่นานเขาก็มาถึงประตูกระท่อมไม้เล็กๆ
ฉินจู้นผลักประตูออก พบว่าข้างในล็อกไว้อยู่!
ทันใดนั้นเสี่ยวซิงเห็นเงาเดินเข้ามาใกล้กระท่อมไม้ เหงื่อออกหลังขึ้นมาทันที มือยิ่งดึงผ้าห่มไว้แน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว! จะมีใครมาที่นี่ได้? มือของเสี่ยวซิงเริ่มสั่นเบาๆ
“ปังปัง......ปัง......” ข้างนอกมีเสียงเคาะประตูอย่างแรง
“ใคร?” เสี่ยวซิงใช้ความกล้าถามอย่างเสียงสูง
ลมฝนข้างนอกแรงมาก กลบเสียงของเสี่ยวซิงไว้หมด ฉินจู้นที่เคาะประตูอยู่นานทนไม่ไหวเลยถอยหลังหนึ่งก้าวยื่นขาเตะประตูออกอย่างแรง มองเห็นคนที่สูงใหญ่ใส่เสื้อกันฝนพร้อมกับหมวกกันฝนพุ่งเข้ามา
เสี่ยวซิงตกใจคลุมผ้าห่มยืนชิดในสุดของเตียงเล็กๆ
“นาย......จะทำอะไร?” เสี่ยวซิงถามด้วยเสียงที่สั่นเทา
คนนั้นกลับไม่มีท่าทีที่จะตอบกลับ แต่หันไปล็อกประตูใหม่ หลังจากนั้นค่อยๆถอดหมวกกันฝนลง คนที่ปรากฏขึ้นมา มีหยดน้ำฝนเกาะเส้นผมที่ดำสนิทกับใบหน้าที่เคร่งขรึม พอเห็นใบหน้านี้แล้ว การป้องกันตัวของเสี่ยวซิงก็ค่อยปล่อยวางลง ใบหน้ายังเผยรอยยิ้มที่ดีใจออกมา เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะมาหาตัวเธอเองที่นี่! ปกติเวลานี้เขายังไม่กลับบ้านนะ!