ตอนที่ 3 เป็นของผมนะ
หลังจากที่เพิร์ธส่งหญิงสาวกลับไปเอารถที่ผับ นิวเยียร์ก็รีบขับกลับคอนโด และเมื่อไปถึงห้องก็วิ่งไปที่หน้ากระจกเพื่อส่องดูสภาพอันน่าอับอายของตัวเอง ไม่คิดว่าการเจอกันในครั้งนี้จะทำให้เธอขายขี้หน้า แทนที่เขาจะได้เห็นเธอในสภาพที่ดีกว่านี้ แต่กลับได้เห็นผู้หญิงเมาจนเอาตัวเองไม่รอด แถมยังอ้วกใส่เขาอีกต่างหาก
“ยัยนิวเยียร์เอ๊ย แกนี่ขายขี้หน้าเก่งชะมัด”
แล้วอย่างนี้เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ครั้งหน้าหากเจอกันอีกเธอจะกล้าสู้หน้าเขาอีกเหรอ
“อย่าคิดอย่างนั้นสิ เธอมันใจกล้าหน้าด้านอยู่แล้วยัยนิวเยียร์ เจอก็เจอสิ จะกลัวอะไร” เธอได้แต่ปลอบใจและเรียกความกล้าให้กับตัวเองผ่านเงาในกระจก
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ ก็ขึ้นไปนั่งบนเตียงส่งมือเล็กไปหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรู ต่อสายไปหาเพื่อนรักเพื่อเมาท์มอยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
“ยัยพรีม แกรู้ไหมว่าเมื่อคืนฉันนอนที่ไหน” พอเพื่อนรักกดรับสาย นิวเยียร์ก็รีบเอ่ยออกไปทันทีด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น
(อย่าบอกนะว่าแกโดนผู้ชายคนนั้นหิ้วกลับไปด้วย)
พรีมรู้สึกตกใจกับคำถามที่ได้รับเลยรีบถามกลับ
“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้ไปกับผู้ชายคนนั้นสักหน่อย” ใครจะอยากไปกับผู้ชายที่คิดจะมอมเหล้าเธอล่ะ
(ก็แกเล่นถามมาแบบนี้ฉันก็ตกใจหมดน่ะสิ สรุปเมื่อคืนแกไปนอนที่ไหนมา)
จะไม่ให้พรีมตกใจได้อย่างไร ทั้งที่เมื่อคืนสามีของเธอก็ได้บอกให้เลขาของเขาไปรับแล้วแท้ ๆ แต่เพื่อนรักเล่นถามมาแบบนั้นอีก เธอก็นึกว่าโดนผู้ชายคนนั้นพากลับไปด้วย
“คอนโดพี่พิรัชย์”
นิวเยียร์ตอบออกไปตามตรงโดยไม่อายปาก ถึงอย่างไรพรีมก็รู้ว่าเธอรู้สึกสนใจเลขาสุดหล่อมาตั้งนานแล้ว ผิดก็แต่เมื่อก่อนเธอไม่กล้าจีบเขาตรง ๆ เพียงเพราะอายุของทั้งสองคนห่างกันหลายปี ทำได้แค่เพียงพูดแหย่เขาเล่นก็เท่านั้น
(ฮะ!!!)
พรีมอุทานออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าสองคนนี้จะไปนอนด้วยกันได้
“ตกใจอะไรขนาดนั้น”
(ไม่คิดว่าแกจะไวไฟขนาดนี้น่ะสิ)
“ไวไฟอะไรกัน เมื่อคืนเราไม่ได้ทำอะไรกันเลย ฉันเมามากจนหลับคารถ พี่พิรัชย์เลยพากลับไปนอนที่คอนโดของเขาก็แค่นั้นเอง”
พอคิดถึงเรื่องเมื่อคืนนิวเยียร์ก็รู้สึกร้อนหน้าขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด ถึงแม้จะไม่ได้มีอะไรกัน แต่ทั้งสองคนก็นับว่าได้นอนร่วมเตียงเดียวกันแล้ว
(ไม่ได้ทำอะไรกันจริงเหรอ คริคริ)
“แกอย่ามาหัวเราะฉันนะยัยพรีม แกรู้ไหมว่าเมื่อเช้าฉันแทบจะไม่อยากมองหน้าเขาเลย โคตรอายเลยอะ เมื่อคืนฉันอ้วกใส่พี่เขาด้วย”
(โอ๋ ๆ ไม่หัวเราะแล้ว เล่นไปอ้วกใส่เขาแบบนั้นมันก็น่าอายอยู่หรอก)
“ต่อไปฉันจะไม่เมาแบบนี้อีกแล้ว สาบาน”
(ให้มันจริงเถอะ)
“ฉันพูดจริง แค่เรื่องเมื่อคืนฉันก็อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว”
(เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละ เอาน่า ไม่ต้องคิดมาก พี่พิรัชย์ไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยอะไร ฉันว่าเขาคงไม่ถือสาแกหรอก)
“งั้นแค่นี้ก่อนนะแก ฉันปวดหัวนิดหน่อย ขอนอนพักเอาแรงก่อน”
(โอเค ว่าง ๆ ก็โทรมาเมาท์กันนะ)
“อื้ม”
หลังจากวางสายของเพื่อนรัก นิวเยียร์ก็เก็บโทรศัพท์ไว้ใต้หมอนแล้วหลับตาลงอย่างคนหมดแรง เมื่อคืนคงจะเป็นคืนที่ดื่มหนักที่สุดเท่าที่เธอเคยออกไปเที่ยวกลางคืนคนเดียว และยังเป็นครั้งแรกที่เจอกับผู้ชายนิสัยไม่ดีแบบนี้ แต่พ่อคนดีอย่างพิรัชย์นี่สิกลับมาทำให้เธอใจสั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานาน
ไม่รู้หลับไปนานเท่าไร แต่ก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงกริ่งที่ดังอยู่หน้าประตู เธอจึงลืมตาขึ้นอย่างงัวเงียแล้วเดินออกจากห้องนอนไปที่ด้านนอก พอเปิดประตูออกไปก็พบว่าเป็นหนุ่มเลขารูปหล่อที่เธอไปนอนด้วยเมื่อคืน
“พี่พิรัชย์มาได้ยังไงคะ” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจที่จู่ ๆ ก็เห็นเขามายืนอยู่หน้าห้อง ทั้งที่ไม่เคยรู้จักที่อยู่กันมาก่อน
“ผมคิดถึงคุณ”
เสียงทุ้มเอ่ยจบเขาก็เดินแทรกตัวเข้ามาในห้อง ส่งผลให้เจ้าของห้องอย่างเธอต้องเดินร่นถอยหลัง พร้อมกันนั้นเขายังหันไปปิดประตูและจัดการล็อกให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินหน้าเข้ามาหาเธอ ส่งมือหนามาคว้าเรียวแขนของนิวเยียร์แล้วออกแรงดึงเข้าหาตัว
“พะ พี่พิรัชย์จะทำอะไรคะ”
หญิงสาวที่โดนดึงจนร่างกระแทกกับแผงอกของคนตัวสูง ก็เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อของคนที่ก้มมองลงมาพร้อมกับสายตาที่ยากจะคาดเดา
“เป็นของผมนะ” เอ่ยจบพิรัชย์ก็ก้มหน้าลงมาประกบกับริมฝีปากอวบอิ่มของคนในอ้อมแขน
สาวเจ้าของห้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจกับการกระทำที่ได้รับ ความเป็นสุภาพบุรุษเมื่อคืนมันหายไปไหนหมด เขาถึงได้มาหาเธอถึงห้อง แถมยังเป็นคนเริ่มจูบเธอก่อน
ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่นิวเยียร์ก็ไม่คิดจะขัดขืน หลับตาลงแล้วปล่อยให้เขาได้ส่งเรียวลิ้นเข้ามาฉกชิมความหวานในโพลงปากด้วยความนุ่มนวลจนกระทั่งเขาพึงพอใจ แล้วถอนริมฝีปากออก
นิวเยียร์ที่ตอนนี้พวงแก้มได้เปลี่ยนเป็นสีแดงปลั่งด้วยความขัดเขิน หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำอย่างบอกไม่ถูก มันทั้งตื่นกลัว หรือว่าตื่นเต้นกันแน่ก็ไม่แน่ใจ และตอนนี้เธอก็กำลังถูกชายหนุ่มที่บุกมาหาถึงห้องอุ้มขึ้นในท่าเจ้าหญิงพาเข้าไปในห้องนอน วางร่างของสาวสวยลงบนเตียงอ่อนนุ่มอย่างเบามือ ก่อนจะขึ้นไปนอนทาบทับอยู่ด้านบน
“พี่พิรัชย์คะ” เสียงหวานขานชื่อของเขาแผ่วเบา มือเล็กก็จับลำแขนของคนด้านบน แล้วช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าหล่อราวกับกำลังชั่งใจแล้วตั้งคำถาม ว่าสิ่งที่ทั้งสองกำลังจะทำมันถูกต้องแล้วหรือไม่
“ผมชอบคุณ”
พอได้ยินคำว่าชอบ ใจของเธอก็ยิ่งเต้นแรงราวกับกลองที่กำลังถูกตีรัว ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ยินคำนี้จากผู้ชายหน้านิ่ง ขี้อาย และชอบหลบสายตาของเธออยู่บ่อย ๆ
เมื่อก่อนเธอหยอดคำหวานไปไม่รู้ตั้งกี่คำ เขาก็ไม่เคยแสดงท่าทีว่ามีใจให้เธอเลย แต่พอไม่ได้เจอหน้ากันมาหกเดือน ทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนเป็นคนละคน เขาเริ่มจู่โจมเธอก่อนจนใจเธอแทบจะละลายเป็นของเหลว
“หนูก็ชอบพี่พิรัชย์ค่ะ”
แค่คำว่าชอบหลุดออกจากปากของสาวสวยที่อยู่ใต้ร่าง เพิร์ธก็ไม่รีรอจู่โจมริมฝีปากของเธอทันที รสจูบแสนหวาน อ่อนโยน ละเมียดละไม ทำให้เธอเคลิบเคลิ้มกับสัมผัสที่ได้รับ เขาอ่อนโยนอย่างบอกไม่ถูก เธอรู้สึกเสียววาบยามที่มือหนาเคลื่อนผ่านไปตามสัดส่วนบนเรือนร่างอย่างเบามือ โดยเฉพาะอกอวบที่ถูกมือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อแล้วเคล้นคลึงอย่างนุ่มนวล
‘ทำไมเขาถึงได้อ่อนโยนแบบนี้นะ’
ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งปล่อยให้เขากระทำได้ตามใจชอบ อยากจะบีบ จะขย้ำตรงส่วนไหน เธอก็พร้อมรับ
“เป็นของผมนะ” เสียงพร่าเอ่ยที่ข้างหูอีกครั้ง พรางขบเม้มติ่งหูเบา ๆ ลมหายใจอุ่นเป่ารดจนเธอรู้สึกสยิวจนต้องเอียงคอหลบ
“พี่ชอบหนูจริง ๆ ใช่มั้ยคะ” แม้จะปล่อยตัวปล่อยใจไปแล้ว แต่เธอก็ต้องการคำยืนยันอีกครั้ง
“ครับ ผมชอบคุณ”
เอ่ยจบเขาก็ดันตัวนั่งตรงแล้วถอดเสื้อของตัวเองออก เผยให้เห็นผิวกายสะอาดสะอ้าน หน้าอกแน่นล่ำ หน้าท้องมีซิกซ์แพ็กเป็นลอนงาม บ่งบอกได้ถึงคนที่รักสุขภาพและออกกำลังกายเป็นประจำ
‘ทำไมถึงได้น่ามองแบบนี้ ถ้ารู้ว่างานดีขนาดนี้น่าจะจับปล้ำเสียตั้งแต่ตอนนั้น’
หญิงสาวถูกร่างกายท่อนบนของหนุ่มเลขาสะกดสายตา จนเผลอคิดทะลึ่ง ถ้าตอนนั้นเธอเดินหน้าจีบจริงจัง เขาจะยอมรับเธอเป็นแฟนหรือไม่
แต่ตอนนี้ผู้ชายคนนี้ก็กำลังจะมีเรื่องอย่างว่ากับเธอแล้ว จะมามัวเสียดายอดีตทำไม
พิรัชย์โน้มใบหน้าลงไปบดจูบกับเธออีกครั้ง นิวเยียร์ก็ยกแขนขึ้นกอดรอบคอของเขา แล้วจูบแลกลิ้นตอบอย่างไม่ประสา เห็นเธอชอบเที่ยวกลางคืนแบบนี้ แต่จะบอกไว้เลยว่าไม่เคยมีชายใดได้แตะต้องของสงวนอย่างแน่นอน มันยังอยู่ดี และพร้อมที่จะเป็นของผู้ชายที่ชื่อพิรัชย์
และแล้วเสื้อผ้าของเธอก็ได้ถูกถอดออกทีละชิ้น ทีละชิ้น จนเหลือเพียงเรือนร่างขาวนวลเนียนราวกับผิวเด็ก ที่เผยให้เห็นแก่สายตาของชายหนุ่มที่กำลังส่งดวงตาคู่คมสำรวจไปทั่วร่าง และมือของเขาก็กำลังจัดการกับเข็มขัดที่เอว