บทย่อ
••คำโปรย•• ต้องอ่อยยังไง ถึงจะได้ผัวเป็นคุณเลขา ••⚘️••⚘️••⚘️••⚘️••⚘️••⚘️••⚘️•• เรื่องนี้เป็นภาคต่อของเรื่อง เมียสุดแสบของท่านประธาน พี่เพิร์ธเป็นเลขาของพี่ธีร์ ส่วนน้องนิวเยียร์เป็นเพื่อนรักของน้องพรีม ••⚘️••⚘️••⚘️••⚘️••⚘️••⚘️••⚘️•• ••เรื่องย่อ•• ทั้งสองคนเคยรู้จักกันตอนที่นิวเยียร์เรียนอยู่ปีสอง สาวสวยทั้งเคยเต๊าะ เคยหยอดคำหวาน แต่หนุ่มเลขาสุดหล่ออย่างเพิร์ธก็ซึนเกินที่จะเข้าใจว่าเธอกำลังให้ความสนใจ จนกระทั่งเรียนจบความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่พัฒนาไปมากกว่าคนรู้จัก แต่หลังจากนั้น 6 เดือนทั้งสองคนก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้งเพราะว่าเธอเมาจนครองสติพาตัวเองกลับบ้านไม่ได้ และก็ได้เพิร์ธเป็นคนมารับกลับ แต่ก็เมาจนหลับคารถ เขาจึงพาเธอกลับไปนอนที่คอนโดของตนเองแทน คราแรกจากที่แค่ไปรับเธอตามคำสั่งของเจ้านาย แต่ใครจะคิดว่าหลังจากที่พบกันอีกครั้งในวันนั้น เขาจะโดนหญิงสาวขี้อ้อน ขี้อ่อย เดินหน้ารุกจีบแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
ตอนที่ 1 พบกันอีกครั้ง
ณ สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง
นิวเยียร์ ณัฐชยาน์ ศิลป์สุนทรกมล หญิงสาวที่อยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีดำเปิดไหล่กว้าง กระโปรงตัวสั้นสีดำปักเลื่อมประกายวิบวับสะท้อนกับแสงหลากสีในผับดัง กำลังนั่งดื่มเหล้าตามลำพังด้วยความเคยชิน
เธอเป็นคนชอบดื่มและออกมาเที่ยวกลางคืนอาทิตย์ละครั้ง สองครั้ง และทุกครั้งก็มักจะนั่งอยู่คนเดียวเพราะเพื่อนสนิทก็แต่งงานมีสามีแล้ว มีเพียงแค่เธอที่อายุก็ย่างจะเข้ายี่สิบสี่ปี แต่ก็ยังไม่เคยมีแฟนแม้แต่คนเดียว
“ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” หนุ่มหล่อที่ออกมาเที่ยวกลางคืนเอ่ยกับเธอ
“เอ่อ…”
“ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ พอดีผมมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน แค่อยากหาคนนั่งดื่มเป็นเพื่อน” หนุ่มคนดังกล่าวเอ่ยออกมาอีกครั้ง เพราะเห็นว่าหญิงสาวกำลังใช้ความคิดและยังไม่ได้ตอบกลับมา
“นั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ” ไหน ๆ เธอก็นั่งคนเดียวอยู่แล้ว มีเพื่อนดื่มด้วยสักคนก็ดีเหมือนกัน
“ผมขอเลี้ยงคุณนะครับ” หนุ่มหล่อโชว์ความใจป้ำเสนอตัวเลี้ยงเหล้าสาวสวย
นิวเยียร์ก็ยกยิ้มพยักหน้าขึ้นลงเป็นเชิงตอบรับกับน้ำใจของการเจอกันเป็นครั้งแรก
เวลาผ่านไปประมาณสามชั่วโมง เหล้าขวดที่สองก็ได้พร่องลงจนเหลือก้นขวด นิวเยียร์ก็เกิดรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ ทั้งพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงหย่อนยาน สายตาพร่ามัว
ออกมาดื่มครั้งนี้ยอมรับว่าดื่มหนักกว่าทุกครั้ง เพราะเธอเป็นสายชิว เวลามาเที่ยวคนเดียวมักจะชอบจิบแบบเบา ๆ อึกสองอึกเพื่อไม่ให้เมาเกินไปจนครองสติขับรถกลับบ้านไม่ได้ แต่ครั้งนี้มีเพื่อนใหม่มานั่งคุยด้วย ทำให้ชวนกันดื่มหมดแก้วอยู่หลายครั้ง จนเธอนั้นเมามาก
“คุณเหมือนจะเมาแล้วนะครับ เรากลับเลยไหม เดี๋ยวผมไปส่ง”
หนุ่มหล่อเลื่อนมือไปโอบรอบเอวของหญิงสาวที่แม้จะดื่มด้วยกันแต่เธอก็ยังไม่ยอมบอกชื่อให้เขารับรู้ แล้วเลื่อนใบหน้าเข้ามากระซิบที่ข้างหูจนเธอรู้สึกว่าริมฝีปากของเขานั้นโดนใบหูของเธอเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะผละใบหน้าออกแล้วจ้องหน้าเธอด้วยสายตาเปล่งประกายวาววับ พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก
“ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหมคะ แล้วเราค่อยกลับ” นิวเยียร์รวบรวมสติที่แทบจะหมดลงตอบกลับไป
“ครับ”
เขายอมปล่อยแขนออกจากเอวของเธอ เปลี่ยนเป็นยกแก้วเหล้าจรดริมฝีปากกระดกน้ำเมาลงคอแทน แล้วมองการกระทำของสาวสวยด้วยริมฝีปากที่กระตุกยิ้ม
นิวเยียร์คว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กที่เธอนำติดตัวมาด้วยก็รีบเดินออกจากโต๊ะไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเลื่อนหาเบอร์ของเพื่อนสาวแล้วกดโทรออกเพื่อขอความช่วยเหลือ
“ยัยพรีม แกมารับฉันหน่อย”
พอเพื่อนกดรับสายนิวเยียร์ก็รีบบอกออกไปด้วยน้ำเสียงหย่อนยาน ตอนนี้เธอแทบจะทรงตัวไม่อยู่จนต้องยืนพิงกับผนังห้องน้ำ และคิดว่าคืนนี้คงขับรถไม่ได้แน่ ๆ
(แกอยู่ที่ไหน นี่เมามากเลยเหรอ)
พรีมรีบถามกลับ เพราะปกติเพื่อนไม่เคยดื่มจนเมามายถึงขั้นกลับคอนโดไม่ได้ แต่ครั้งนี้ทำไมถึงไม่ระวังตัวเอาเสียเลยทั้งที่ออกไปเที่ยวกลางค่ำกลางคืนคนเดียว
“ฉันว่า ฉันโดนมอม”
(ฮะ!)
พรีมตกใจกับคำตอบที่ได้รับ รีบดันตัวขยับขึ้นนั่งพิงหัวเตียง เพราะตอนนี้ก็เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้ว เธอและสามีก็เพิ่งจะเข้านอนกันไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้า
(แกอยู่ที่ไหน เดี๋ยวฉันไปรับ)
“ฉันอยู่แฮฟ ฟัน ผับ”
(แกรออยู่ตรงนั้นนะ แล้วอย่าดื่มอีกล่ะ เดี๋ยวฉันรีบไป)
“โอเค”
พอวางสายจากเพื่อนรัก พรีมก็หันไปหาสามีเพื่อจะขอออกไปรับนิวเยียร์ ตอนนี้เธอรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนมาก ขืนชักช้าก็กลัวว่าเพื่อนจะโดนคนที่มอมเหล้าหิ้วกลับไปเสียก่อน
“มีอะไรเหรอพรีม”
แต่ไม่ทันที่พรีมจะได้เอ่ยปากขอ ธีร์ก็รู้ว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ เพราะหน้าของภรรยามันฟ้องแบบนั้นจึงได้รีบถามขึ้น
“พี่ธีร์คะ นิวเยียร์บอกว่าโดนมอมเหล้า พรีมจะไปรับเพื่อนค่ะ”
“นิวเยียร์อยู่ที่ไหน”
“แฮฟ ฟัน ผับ ค่ะ”
“พี่ว่าให้พิรัชย์ไปรับดีกว่า คอนโดของพิรัชย์อยู่ไม่ไกลจากที่นั่นมาก น่าจะไปหานิวเยียร์ได้เร็วกว่าพวกเรา”
พอได้ยินชื่อของสถานบันเทิง ธีร์ก็นึกขึ้นได้ว่าพิรัชย์อยู่ห่างจากที่นั่นเพียงไม่กี่กิโลเมตร ต่างจากบ้านของพวกเขาที่อยู่ไกลกว่า ถ้าจะออกไปรับจริง ๆ คงต้องใช้เวลามากถึงสามสิบนาทีกว่าจะไปถึง
“เอางั้นก็ได้ค่ะ ฝากบอกพี่พิรัชย์ให้รีบหน่อยนะคะ”
พอภรรยาตอบรับ ธีร์ก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปหาเลขาของตนทันที เพื่อขอรบกวนให้ไปรับเพื่อนรักของภรรยา
เพิร์ธ พิรัชย์ อชิระโภคิน หนุ่มหล่อผู้เป็นเลขาคนสนิทของธีร์ที่ตอนนี้กำลังเตรียมตัวจะเข้านอน พอเขาได้รับสายจากเจ้านายที่โทรเข้ามาก็รีบหยิบกุญแจรถแล้วออกจากคอนโดทันที
เขาเหยียบคันเร่งด้วยความเร็วจนไปถึงผับดังกล่าวในเวลาไม่ถึงสิบนาที เพิร์ธก็เข้าไปเดินตามหาหญิงสาวจนทั่วแต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งลองเดินไปทางห้องน้ำก็พบว่านิวเยียร์กำลังถูกประคองด้วยชายคนหนึ่ง แต่มันดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไร เพราะท่าทางมันเหมือนคนที่กำลังพยายามขัดขืนแต่ก็ไร้กำลัง
เพิร์ธจึงรีบเดินเข้าไปหาแล้วคว้าข้อมือของเธอ ออกแรงดึงให้มายืนอยู่ข้างกาย นิวเยียร์ที่แทบจะทรงตัวไม่อยู่ก็โซเซเข้ามาหา เขาจึงส่งแขนไปโอบไหล่เอาไว้เพื่อประคองไม่ให้ล้ม
“นายเป็นใครวะถึงได้กล้ามาฉกผู้หญิงของฉัน” ชายคนนั้นถามขึ้นด้วยท่าทางไม่พอใจ ที่จู่ ๆ ก็มีใครไม่รู้มาแย่งหญิงสาวที่คืนนี้จะพากลับไปด้วยหน้าตาเฉย
“เป็นใครก็ช่าง แต่ผู้หญิงคนนี้ต้องไปกับฉัน” เพิร์ธตอบกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉย ความจริงเขาไม่จำเป็นต้องบอกอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาแค่มีหน้าที่มารับนิวเยียร์และพาเธอกลับไปส่งที่คอนโดก็แค่นั้น
“อยากได้ก็ไปหาผู้หญิงคนอื่นสิวะ ในผับมีตั้งเยอะจะมาแย่งผู้หญิงของฉันทำไม”
“อือ พี่พิรัชย์ หนูอยากกลับแล้วค่ะ”
หญิงสาวในอ้อมแขนปรือดวงตาและเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อสุดแสนจะเย็นชาของคนที่ไม่ได้เจอกันนานหลายเดือน นับตั้งแต่งานแต่งของพรีมและธีร์เมื่อหกเดือนก่อน
เขาคือคนที่เธอเคยเต๊าะ เคยคิดที่จะจีบตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสอง แต่ตอนนั้นพิรัชย์เป็นผู้ชายที่สุุขุม เยือกเย็น แม้จะเป็นกันเองแต่ก็เข้าถึงยาก และคืนนี้ไม่รู้ว่าทำไมคนที่มารับเธอถึงได้กลายเป็นเลขาหนุ่มไปได้ แต่ตอนนี้เธอยืนแทบจะไม่ไหวและอยากกลับให้เร็วที่สุด จึงไม่ได้ถามอะไรมาก อย่างน้อยเขาก็เป็นคนที่เธอรู้จักและไว้ใจได้มากกว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“เราไปกันเถอะ” เพิร์ธตอบกลับคนเมา แล้วหันไปบอกกับผู้ชายที่ยังไม่ยอมไปไหนด้วยน้ำเสียงเข้ม
“ได้ยินแล้วใช่ไหมว่าเรารู้จักกัน”
“เออ ๆ” ชายคนนั้นตอบกลับมาอย่างขอไปทีด้วยความรู้สึกเสียดาย เสียเวลา และเสียเงินไปฟรี ๆ กับค่าเหล้าหลายพันบาท กะจะพากลับไปนอนด้วย แต่ก็ดันมาถูกชิงตัวไปเสียก่อน
เพิร์ธประคองคนเมาออกมาที่รถ แล้วเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่งด้านใน แต่พอขึ้นรถได้นิวเยียร์ก็พลิกตัวตะแคงข้างหันไปทางเบาะที่อยู่ข้างกัน แล้วหลับตาลงโดยไม่สนใจอะไรสักอย่าง เขาจึงปิดประตูรถให้แล้วเดินอ้อมเข้าไปนั่งที่ฝั่งคนขับ แล้วยื่นมือไปเขย่าแขนของหญิงสาวเบา ๆ เรียกให้เธอตื่นขึ้นมาเพื่อถามทาง
“บ้านอยู่ที่ไหน เดี๋ยวผมไปส่ง”
น้ำเสียงเย็นชาที่ได้ยินเข้าหู ทำให้นิวเยียร์ปรือดวงตาขึ้นมามองเล็กน้อย ก่อนจะคลี่ยิ้มกว้าง ดวงตาหรี่เล็ก
“ขับออกไปเลยค่ะ เดี๋ยวหนูบอกทางให้”
“คาดเข็มขัดด้วยครับ”
นิวเยียร์ยอมทำตามอย่างว่าง่าย หันไปดึงเข็มขัดนิรภัยแล้วพยายามเสียบมันลงในช่องข้างเบาะด้วยความทุลักทุเล เพราะไม่ว่าจะทำอย่างไรมันก็เสียบไม่เข้าสักที เพิร์ธถึงกับส่ายหน้าถอนหายใจ รีบยื่นมือออกไปช่วยเหลือ
เขาขับรถออกจากผับไปได้ไม่นาน พอหันไปมองคนข้าง ๆ ก็พบว่าเธอนั้นหลับไปอีกครั้ง จึงได้เรียกชื่อเพื่อให้ได้สติ ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้คงจะไม่ถึงกันพอดี เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะไปส่งนิวเยียร์ที่ไหน
“คุณนิวเยียร์ครับ คุณนิวเยียร์”
“อือ...” นิวเยียร์ส่งเสียงในลำคอด้วยท่าทางงัวเงีย แต่ก็ยังไม่ลืมตา
ตอนนี้เธอทั้งเมาและง่วงมาก พอได้ขึ้นมานั่งบนรถที่เปิดแอร์เฉียบ จึงทำให้อยากนอนหลับเป็นที่สุด
“ตื่นก่อนครับ คอนโดของคุณไปทางไหน ผมจะได้ขับไปถูก”
นิวเยียร์ปรือดวงตาขึ้นตามที่เขาต้องการ เธอหันไปหาคนที่ขับรถอยู่แล้วดึงแขนของเขามากอด วางใบหน้าที่แดงระเรื่อไปด้วยฤทธิ์ของน้ำเมาซบลงที่แขน แล้วหันมองถนนด้านหน้าที่พอจะจำได้ว่ามันคือทางแยกที่จะไปคอนโดของเธอ แล้วยกมือข้างซ้ายชี้ออกไป
“ถึงแยกข้างหน้าก็เลี้ยว อึก อึก แหวะ” นิวเยียร์ยังไม่ทันได้ตอบจนจบประโยค เธอก็รู้สึกคลื่นไส้จนห้ามสิ่งที่กินลงไปจนเต็มกระเพาะเอาไว้ไม่อยู่ ขับของเหลวออกจากปากพุ่งใส่เต็มกางเกงของคนที่เธอกำลังจะบอกทาง
เพิร์ธเบิกตาโพลงแล้วกลั้นหายใจด้วยความตกใจ ไม่คิดว่านิวเยียร์จะกล้าอ้วกใส่เขา แถมทางที่จะไปเธอก็ยังไม่ทันได้บอก เพราะหลังจากที่เธออาเจียนออกมาจนหมดแล้ว หญิงสาวก็วางศีรษะซบที่ไหล่ของเขาแล้วหลับไปอีกครา เรียกเท่าไรก็ไม่ยอมตื่น