บทที่ 9
"คุณหมอนอนเถอะค่ะฉันไม่กวนก็ได้" หญิงสาวที่นอนชิดผนังห้องรีบพาตัวเองออกมาจากเตียงก่อน แค่เห็นสายตาก็รู้แล้วว่าเขาไม่ใช่ประเภทที่ชอบผู้ชายด้วยกัน
จะออกไปข้างนอกก็ไม่ได้ ในห้องนี้ก็มีแค่เก้าอี้ตัวเดียวที่จะลากมานั่งริมหน้าต่าง เพื่อปล่อยให้เขาได้นอนพักผ่อนไป
ชั้นล่างของโรงพยาบาล..
"ตอนนี้ใกล้ค่ำมากแล้ว ลูกคงกำลังพักผ่อนอยู่แน่เลยคุณ"
"วันนี้ยังไงผมก็ต้องลากมันกลับไปนอนที่บ้านให้ได้" ผู้เป็นพ่อโทรมาเช็คที่โรงพยาบาลแล้วว่าลูกชายมีผ่าตัดไหม
"วันนี้พากลับไปได้ วันหลังลูกก็มาค้างโรงพยาบาลอีกอยู่ดี งานของลูกอยู่ที่นี่นี่คะ"
"คุณอย่าเข้าข้างมันนักเลยได้ไหม ถ้ามันยุ่งยากมากนัก เดี๋ยวผมจะหาผู้บริหารโรงพยาบาลคนใหม่"
แพทย์หญิงอมรรัตน์เหลือจะทนแล้ว แต่ก็จำเป็นต้องได้ตามสามีขึ้นไป เพราะกลัวว่าจะมีปากเสียงกับลูกเดี๋ยวลูกก็เตลิดไปทางอื่น
แกร็ก! แกร็ก!!
"คุณก็เคาะประตูสิคะ" ตอนนี้ชั้นบนไม่มีใครอยู่แล้วจะขอกุญแจสำรองก็ไม่ได้
แกร็ก.. ชายหนุ่มเดินมาเปิดประตู โดยให้เธอไปนั่งรออยู่บนเตียง
"ต่อไปนี้กลับไปนอนที่บ้าน"
"คุณพ่อก็รู้ว่าผมไม่อยากไปเสียเวลาอยู่บนรถ" เวลาที่รถติดเขานอนพักผ่อนจะไม่ดีกว่าเหรอ ก็เลยไม่ค่อยกลับบ้าน
"พ่อไม่ยอมปล่อยให้ลูกใช้ชีวิตไม่มีจุดหมายแบบนี้หรอก" ขณะที่พูดสายตาของพลตรีเหลือบมองไปที่ผู้หญิงซึ่งตอนนี้เธอเอาหมอนใบใหญ่มากอดไว้ เพื่อปิดบังสายตา
"ก็ได้ครับ ถ้าพ่อจะให้ผมไปที่บ้าน ดีเหมือนกัน ผมจะได้พาเธอเข้าบ้านเลย"
"อะไรนะ?!!" เสียงผู้เป็นพ่อดุดันมาก "แกคิดว่าพ่อจะให้แกพาผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้าบ้านอย่างนั้นเหรอ"
"พ่อจะพูดอะไรเกรงใจเมียผมหน่อยสิครับ"
"เมีย?! แกอย่ามาเรียกผู้หญิงแบบนี้ว่าเมีย"
"คุณคะ"
"หยุด ผมถามความคิดเห็นจากคุณหรือยัง"
"คุณพ่อจะด่าก็ด่าแค่ผม อย่าว่าให้แม่"
พอถูกสามีตำหนินางก็เริ่มจะไม่พอใจ หันหลังแล้วเดินออกจากห้องไป แบบไม่พูดไม่จา
"โธ่เว้ย แกรู้ไหมว่าวงศ์ตระกูลของเราจะเสื่อมเสียเพราะแกเอาผู้หญิงคนนี้มาไว้ข้างกาย"
ผู้หญิงแบบเธอมันเป็นยังไงเหรอ หญิงสาวทำได้แค่นั่งฟังอยู่เงียบๆ ให้พวกผู้ดีแบบพวกเขาพูดดูถูกและเหยียดหยาม โดยทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
พอเจ้าใหญ่นายโตทั้งสองท่านไปแล้ว เขาก็เดินกลับไปนอนลงที่เตียงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่แม้แต่จะขอโทษที่พ่อของเขาด่าเธอเสียๆ หายๆ
แล้วเธอจะทำอะไรได้ล่ะ หญิงสาวแอบเดินเข้าไปในห้องน้ำ เพราะมันเป็นสถานที่เดียวที่เธอจะปลดปล่อยน้ำตาได้
"พ่อคะ" ถ้าเวลาที่เธอสิ้นหวังก็มักจะคิดถึงคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับพ่อก่อนที่ท่านจะจากไป ว่าเธอจะดูแลแม่แทนท่านเอง "อายทำถูกแล้วใช่ไหมคะพ่อ"
ไอยวริญใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำ จนคิดว่าเขาคงหลับไปแล้วเธอถึงได้ออกมา
เช้าวันต่อมา..
"นี่คุณคะ คุณไม่คิดจะก้าวขาออกจากห้องของคุณหมอเลยเหรอ" คำสั่งใหม่ถูกส่งมาที่เลขานุการ ก็เลยใจกล้าบุกเข้ามาในห้องของท่านประธาน ในขณะที่เขาออกไปจากห้องแล้ว
"ฉันเหรอคะ"
"แล้วคุณคิดว่าฉันพูดกับสัมภเวสีที่ไหนล่ะ"
"ฉันคิดว่าคุณควรจะถามคุณหมอมากกว่า"
"อะไรก็เอาแต่คุณหมอมาอ้าง อยากเกาะท่านก็บอกมาเถอะ"
"ค่ะ"
"นี่เธอ!"
"มันเป็นคำที่คุณอยากได้ยินไม่ใช่เหรอคะ"
"และดูชุดที่ใส่เข้าสิ คงพร้อมเสมอเลยสินะ"
"พร้อมเสมอหมายความว่ายังไง"
"ก็พร้อมที่จะอ้าขาให้คุณหมอไง"
"ดีกว่าคนที่ทำงานมาจนเหี่ยวแห้งเหมือนคุณ ถึงแม้อ้าขาให้คุณหมอก็คงไม่เอา"
"กรี๊ด!! แก!!"
เที่ยงวันเดียวกัน..
ตั้งแต่เมื่อเช้าจนถึงเที่ยงแม่บ้านก็ยังไม่ได้เอาอะไรเข้ามาให้ทาน จะออกไปถามก็ไม่ได้
เย็นวันเดียวกัน..
เขาไม่คิดจะขึ้นมาพักผ่อนเลยหรือไง ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าคงถูกแม่เลขาหน้าห้องแกล้งจะออกไปก็ไม่ได้
ดึกๆ วันเดียวกัน..
แกร็ก..
"??" เซอร์เวย์กลับมาห้องทำงาน ก็ไม่เจอเธออยู่ในนี้แล้ว ชายหนุ่มก็เลยรีบเข้าไปดูในห้องน้ำ..