บท
ตั้งค่า

ความเข้มแข็ง

เมษา....

ห้านาทีผ่านไป...

"แม่จ๋าไข่ตุ๋นของหนูเสร็จหรือยังจ๊ะหนูกับน้องตุ๊กตาหิวมากเลย" น้องพอใจหันมาถามอีกรอบขณะนั่งเล่นตุ๊กตาตัวโปรดซึ่งเป็นตุ๊กตาตัวเดียวที่แกมีและแกก็รักมากเนื่องจากว่าตุ๊กตาตัวนี้ฉันเป็นคนเย็บให้แกเองกับมือเพราะฉันไม่มีเงินซื้อตุ๊กตาตัวแพงๆให้ลูกก็เลยลองเย็บเองปรากฏว่าแกชอบมากไปไหนก็จะเอาไปด้วยทุกที่

"อ้อ เสร็จแล้วจ๊ะ" ฉันรีบตักไข่ตุ๋นออกมาจากซึ้งนึ่งแล้วนำใส่จานรองก่อนจะเดินเอาไปให้ลูกสาวสุดที่รักตัวน้อยที่นั่งกอดตุ๊กตารอด้วยความหิว

"น่ากินจังเลยจ๊ะแม่ไข่ตุ๋นของแม่อร่อยที่สุดในโลก^^"

"น่ากินก็กินให้หมดนะอิ่มแล้วแม่มีกล้วยบวชชีให้หนูด้วยน๊า" น้องพอใจแกชอบกล้วยบวชชีมากๆค่ะอาจจะเป็นเพราะตอนฉันแพ้ท้องฉันกินกล้วยบวชชีเกือบทุกวัน  เมนูนี้ยายมักจะทำให้ฉันกินเป็นประจำเพราะมันอิ่มท้องและประหยัดฉันก็เลยชอบทำ เวลาทำหรือได้กินก็จะนึกถึงยายตลอด แต่เหตุผลหลักจริงๆก็คือฉันไม่มีเงินไปซื้อของบำรุงแพงๆกินน่ะอะไรที่หาได้และประหยัดเงินฉันก็จะทำกินเองกล้วยมะพร้าวก็หาเอาในสวน แต่เมนูนี้มีอยู่คนนึงที่ไม่ชอบมันเอามากๆก็คือพ่อของน้องพอใจนั่นเองค่ะ เพราะตอนที่ฉันอยู่บ้านเดียวกับเขาแล้วฉันทำกล้วยบวชชีกินเขามาเทหม้อกล้วยบวชชีของฉันทิ้งลงถังขยะไปทั้งหม้อเขาให้เหตุผลว่าอาหารแบบนี้อย่ามาทำกินในบ้านมันเป็นอาหารของคนจนที่ไม่มีอะไรกินไม่มีเงินซื้อของดีๆกิน คำพูดที่มาพร้อมด้วยคำดูถูกสารพัด เขาชอบหาเรื่องฉันเป็นประจำถ้ามีโอกาสและคอยสรรหาคำมาด่าเพื่อให้ฉันทนไม่ไหวซึ่งฉันก็ไม่ต่ตอบโต้อะไรเพราะอาศัยบ้านเขาอยู่เขาว่าอะไรฉันทำได้แค่เงียบอย่างเดียว 

ย้อนไปหลายปีก่อน....

"ป้าเสียใจด้วยนะลูก ยังไงหนูก็ต้องเข้มแข็งเข้าไว้นะ คิดซะว่ายายไปสบายแล้ว"

"พวกเรากลับก่อนนะ"

"พรุ่งนี้ป้าจะมาใหม่นะ"

"หนูขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะที่มาร่วมงานของยาย" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณคนที่มาร่วมงานศพยายของฉันแม้จะมีไม่ถึงสิบคนก็ตามก่อนที่พวกเขาจะพากันเดินออกไปจากศาลาเพราะคืนพิธีทางศาสนาได้เสร็จสิ้นลงแล้วพรุ่งนี้ก็เป็นวันเผา ฉันหันกลับไปมองดูรูปถ่ายของยายที่ตั้งอยู่หน้าโลงศพ ยายของฉันท่านจากไปด้วยโรคชรา ร่างกายของท่านไม่แข็งแรงมานานหลายปีแล้วจนในที่สุดท่านก็จากฉันไปอย่างสงบ

เหมือนตอนนี้ฉันอยู่ตัวคนเดียวบนโลกไม่มีใครไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนทั้งชีวิตของฉันตั้งแต่จำความได้ฉันอยู่กับยายแค่สองคนพ่อแม่ไม่มีฉันเคยถามยายว่าทำไมฉันถึงไม่มีพ่อไม่มีแม่เหมือนคนอื่นๆ ยายบอกว่ายายไม่รู้ว่าพ่อแม่ฉันเป็นใคร ยายเล่าว่าตอนนั้นยายออกไปเก็บของเก่าตามถังขยะแล้วได้ยินเสียงเด็กร้องยายก็เลยเดินหาดูปรากฏว่ายายเจอฉันที่นอนร้องไห้อยู่ข้างกองขยะตอนนั้นตัวของฉันมีแต่มดรุมไต่รุมตอมยายก็เลยรีบอุ้มฉันขึ้นมาแล้วพากลับบ้านจากนั้นยายก็เลี้ยงดูฉันจนถึงทุกวันนี้ ทั้งชีวิตของฉันฉันจึงมียายเพียงคนเดียวที่เลี้ยงดูฉันมาจนเติบใหญ่ฉันรักยายมากแม้เราจะยากจนมีอาชีพเก็บขยะเก็บของเก่าขายแต่ฉันก็มีความสุข ฉันยังจำได้ดีว่าตอนที่ฉันยังเด็กบางวันเราสองคนก็ไม่มีข้าวกินบางวันโชคดีหน่อยก็ได้กินข้าวกับไข่ต้มไข่ทอด บางมื้อเราสองคนต้องกินน้ำประทังชีวิตเพราะไม่มีเงิน คืนไหนถ้าฝนตกหนักๆ ฉันกับยายก็ต้องคอยหลบฝนหาถังน้ำกะละมังมารองเพราะหลังคามีแต่รอยรั่ว แต่ฉันก็มีความสุขที่มียายได้นอนกอดยายทุกคืนแค่นี้ฉันก็มีความสุข แต่ตอนนี้ความสุขของฉันได้หายไปแล้ว หายไปอย่างไม่มีวันกลับ

"ยายจ๋า เมคิดถึงยายจังเลย หลายวันแล้วนะที่เมไม่ได้เห็นหน้ายายไม่ได้กินข้าวกับยายไม่ได้นอนกอดยาย ฮืออ ฮือออ"

ฉันนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ข้างโลงศพของยายเพราะคิดถึงยายสุดหัวใจ หลังจากจัดการปิดไฟปิดศาลาเรียบร้อยฉันก็เดินกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่เพราะบ้านที่ฉันอาศัยอยู่อยู่ด้านหลังวัด เป็นสวนกล้วยที่เจ้าของสวนใจดีให้ฉันกับยายปลูกบ้านอยู่ในสวนนั้นโดยไม่คิดค่าเช่าฉันกับยายก็เลยช่วยดูแลสวนให้เป็นการตอบแทน ฉันเดินมาถึงบ้านบ้านที่เงียบเหงาเพราะไม่มีใครอยู่ บ้านของฉันที่คนอื่นอาจจะมองว่ามันแทบจะไม่ใช่บ้านเพราะมันเป็นเพียงเพิงไม้เก่าๆ เล็กๆ แต่ฉันก็เรียกมันว่าบ้านอยู่ดี เพราะมันบ้านที่ฉันอยู่มาได้ตั้งแต่เด็กจนโต

ฉันลืมแนะนำตัวเองใช่ไหมคะ ฉันชื่อเมษาค่ะ ฉันเรียนจบแค่ชั้นมอสามเท่านั้นซึ่งก็จบมาหลายปีแล้ว ตอนแรกยายอยากให้ฉันเรียนต่อแต่ฉันสงสารยายที่ต้องเก็บของเก่าหาเงินให้ฉันไปโรงเรียนถึงแม้ว่าค่าเทอมจะไม่ต้องเสียเพราะฉันเรียนโรงเรียนวัดแต่อย่างอื่นก็ต้องเสียอยู่ดีไม่ว่าจะเป็นค่าสมุดหนังสือค่าเสื้อผ้าค่าอาหารกลางวันเพราะที่โรงเรียนจะเลี้ยงอาหารกลางวันแค่เด็กประถมเท่านั้นส่วนเด็กมัธยมต้องซื้อกินเองแล้วไหนจะค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกจิปาถะด้วยเหตุนี้พอฉันจบมอสามฉันก็เลยไม่เรียนต่อไปฉันหางานทำตามร้านอาหารไปเป็นเด็กเสิร์ฟไปล้างจานไปแจกใบปลิวอะไรที่ทำแล้วได้เงินฉันทำหมดไม่เคยเกี่ยง หลังเลิกงานก็จะคอยเก็บขวดน้ำเก็บกระป๋องน้ำอัดลมไปให้ยายขายแม้ว่าฉันจะบอกกับยายว่าไม่ต้องเก็บของเก่าแล้วเพราะฉันจะทำงานหาเงินเลี้ยงยายเองแต่ยายก็ไม่ยอมยายบอกว่ายายทำงานมาทั้งชีวิตแล้วจะให้หยุดทำยายทำไม่ได้

แต่ด้วยช่วงที่เกิดโรคระบาดทำให้ร้านหรืองานที่ฉันเคยทำต้องปิดกิจการบางร้านก็ลดจำนวนพนักงาน งานแจกใบปลิวก็ด้วย ฉันก็เลยต้องกลับมาเก็บของเก่าช่วยยายตามเดิม แม้จะไม่พอกินแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ชีวิตของฉันยอมรับว่าลำบากมาตั้งแต่เด็กแต่ฉันก็ไม่เคยย่อท้อ ยายเคยบอกว่าเรายังโชคดีกว่าใครหลายคนเรามีบ้านอยู่มีที่ซุกหัวนอนไม่ต้องเร่ร่อนนอนใต้สะพานลอย มีมือมีเท้ามีอวัยวะครบสามสิบสองเพราะฉะนั้นเราก็ห้ามท้อทำอะไรได้ก็ต้องทำ พอคิดถึงคำพูดของยายฉันก็จะร้องไห้อีกแล้ว พรุ่งนี้ยายก็คงจะจากฉันไปจริงๆ แล้วสินะเพราะพรุ่งนี้คือวันเผาคงจะหลงเหลือไว้เพียงเถ้ากระดูกเท่านั้นที่เอาไว้ดูต่างหน้า

หลายวันต่อมา....

หลังจากจัดการเรื่องงานศพของยายเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ววันนี้ฉันว่าจะออกไปหางานทำเพราะหลายวันมานี้ฉันยุ่งอยู่กับงานศพทำให้เงินที่มีอยู่เริ่มจะหมด ฉันล้วงเงินในกระเป๋าออกมาดูตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวของฉันมีอยู่แค่ไม่กี่ร้อยบาท

ฉันเดินถือร่มในมืออีกข้างมีกระดาษกับปากกาเอาไว้จดเบอร์ที่อยู่ร้านที่แปะประกาศรับสมัครพนักงาน ฉันเดินมาครึ่งค่อนวันแต่ก็ยังไม่ได้งานเดินจนเริ่มเหนื่อยเพราะวันนี้อากาศร้อนมาก ฉันก็เลยเดินไปหาที่นั่งพักที่สวนสาธารณะใกล้ๆ

"เห้อวันนี้จะได้งานไหม" ฉันบ่นกับตัวเองอย่างท้อใจเพราะยังไม่ได้งาน ฉันหาที่นั่งได้แล้วก็เอามือทุบขาทั้งสองข้างของตัวเองเพราะเดินนานหลายกี่โลจนเริ่มเมื่อยแต่พอคิดถึงคำพูดของยายก็ทำให้ฉันมีแรงสู้ ฉันลุกขึ้นยืนแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อเรียกความเข้มแข็งให้กับตัวเองเพราะฉันสัญญากับยายไว้แล้วว่าฉันจะอยู่ให้ได้จะไม่ท้อแท้สิ้นหวังฉันจะไม่ทำให้ยายต้องเป็นห่วง ฉันมองซ้ายมองขวาว่าจะไปทางไหนดีก่อนจะเริ่มเดินหางานต่อแต่เดินมาได้ไม่กี่ก้าวสายตาของฉันก็ไปสะดุดกับบางอย่างพอเดินไปดูใกล้ๆปรากฏว่าเป็นคุณยายท่านนึงที่ก็ล้มฟุบอยู่ที่พื้นเหมือนจะเป็นลม ฉันรีบวิ่งเข้าไปดูทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel