บท
ตั้งค่า

เด็กหญิงพอใจ

เมษา

"แม่จ๋าหนูหิวข้าวจ๊ะ" เด็กน้อยเอามือขยี้ตาหลังจากตื่นนอนตอนกลางวันแกเดินมาหาฉันที่กำลังนั่งทำกับข้าวให้แกอยู่หน้าเตาฟืนภายในครัวเล็กๆหลังคามุงสังกะสี

"รอแป๊บนะลูกแม่กำลังทำไข่ตุ๋นให้หนูอยู่" ฉันหันไปบอกลูกสาวตัวน้อยวัยสามขวบที่มีชื่อว่าน้องพอใจ

"เย้ เย้ ไข่ตุ๋นของแม่อร่อยที่สุดหนูชอบ^^"

"ถ้าชอบหนูต้องทานให้หมดนะคะรู้มั้ย'

"เข้าใจค่า แต่แม่จ๋าหนูถามอะไรหน่อยสิจ๊ะ"

"ถามอะไรจ๊ะ" 

"กุ้งกับปลาหมึกนี่มันอร่อยมั้ยจ๊ะ อร่อยเหมือนไข่ตุ๋นที่แม่ทำให้หนูกินหรือเปล่า"

"ไข่ตุ๋นของแม่อร่อยกว่าเยอะเลยจ๊ะ^^" ฉันพูดปลอบใจลูกด้วยความสงสารเพราะตั้งแต่เกิดมาแกไม่เคยได้ทานของพวกนี้เลยสักครั้งก็เลยไม่รู้ว่ารสชาติของมันเป็นยังไง

"จริงเหรอจ๊ะแต่ทำไมพี่อิ่มถึงบอกว่าอร่อยล่ะจ๊ะ หนูอยากลองกินดูบ้างจังเลยจ๊ะ" พี่อิ่มที่น้องพอใจพูดถึงคือเด็กผู้หญิงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับน้องพอใจที่อยู่บ้านใกล้ๆกัน น้องพอใจมักจะไปเล่นด้วยเสมอ

"เอาไว้แม่ได้เงินจากร้อยพวงมาลัยแม่จะซื้อมาให้หนูกินนะจ๊ะ"

"แต่มันแพงมั้ยจ๊ะ ถ้าแพงพอใจไม่กินก็ได้นะจ๊ะ"

"ไม่แพงเท่าไหร่หรอกลูกแม่ซื้อให้หนูได้ถ้าหนูอยากกิน"

"เย้ ๆ ๆแม่ของพอใจใจดีที่สุดในโลกเล้ยย" ฉันยิ้มให้ลูกสาวที่ชูมือกระโดดด้วยความดีใจเมื่อได้ยินว่าฉันจะซื้อกุ้งปลาหมึกมาให้แกได้กิน แต่ในรอยยิ้มของฉันก็มีความเศร้าเสียใจซ่อนอยู่ที่ฉันไม่เคยมีอาหารดีๆให้ลูกได้กินเลย ดีที่สุดก็คือ หมูทอด ไก่ทอด ถ้าวันไหนไม่มีเงินเมนูก็จะเป็นพวกไข่ตุ๋น ไข่เจียว ไข่ดาว ไข่พะโล้ ผัดผัก  เป็นต้นโชคดีที่น้องพอใจแกชอบแกก็เลยไม่เคยบ่นเวลาฉันทำให้แกกิน แต่ถึงอย่างนั้นอาหารที่ฉันทำให้ลูกฉันจะพยายามทำให้ครบทั้งห้าหมู่ และในเมื่อแกอยากกินกุ้งปลาหมึกเย็นนี้ฉันจะไปขอเบิกเงินจากเจ้หงษ์เจ้าของแผงขายดอกไม้สดพวงมาลัยที่ฉันรับจ้างร้อยพวงมาลัยส่งให้แกตอนนี้น่าจะได้เกือบพันแล้วล่ะเพราะฉันจะเบิกเงินจากแกเป็นอาทิตย์  ถึงแม้จะได้ค่าร้อยแค่พวงละห้าบาทฉันก็ต้องทำเพราะมันเป็นหนทางเดียวที่ฉันพอจะทำได้ตอนนี้ เนื่องจากว่าฉันต้องดูแลน้องพอใจเพราะแกยังไม่ถึงเกณฑ์เข้าโรงเรียน ทำให้ฉันไปหางานทำอย่างอื่นไม่ได้จะเอาแกไปฝากตามสถานรับเลี้ยงเด็กก็แพงฉันจึงคิดว่ารอให้แกโตอีกนิดจะพาแกไปสมัครเรียนที่โรงเรียนวัดแถวบ้านที่ค่าเทอมไม่แพง ตอนนี้ฉันก็เลยต้องเก็บเงินบางส่วนเอาไว้เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายตอนพาแกไปสมัครเรียนปีหน้า

ในทุกๆเช้าฉันจะเอาลูกซ้อนจักรยานปั่นไปรับดอกมะลิมาจากร้านเจ้หงษ์จากนั้นก็นำกลับมาร้อยที่บ้าน ฉันจะนั่งร้อยตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นแล้วก็จะเอาไปส่งเจ้หงษ์ที่ร้านเป็นแบบนี้ทุกวันไม่เคยหยุดเพราะถ้าหยุดก็คือไม่ได้เงินมีบ่อยครั้งที่ฉันไม่สบายแต่ฉันก็ต้องทน ทนเพื่อลูกสาวเพียงคนเดียวที่ฉันรักสุดหัวใจ ทุกครั้งที่ฉันทัอแท้พอได้มองหน้าลูกฉันก็จะมีกำลังแรงใจที่จะต่อสู้แม้รายได้วันนึงจะไม่ได้มากมายเท่าไหร่แต่มันก็ทำให้ฉันได้มีเงินซื้อข้าวซื้อนมซื้อขนมให้ลูกกินจนอิ่มทุกมื้อ

บ้านฉันอาศัยอยู่เป็นบ้านหลังเล็กๆในสวน ซึ่งเป็นสวยกล้วยสวนผลไม้แต่ไม่ใช่สวนของฉันหรอกนะฉันไม่ได้ร่ำรวยขนาดมีสวนมีบ้านเป็นของตัวเอง เพียงแต่เจ้าของสวนท่านใจดีให้ฉันอาศัยอยู่ที่นี่ฟรีๆโดยไม่คิดค่าเช่า บ้านหลังนี้ฉันอยู่มาตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นฉันอาศัยอยู่กับยายสองคนแต่ตอนนี้ยายไม่อยู่แล้วท่านเสียไปหลายปีแล้วล่ะ ส่วนพ่อแม่ของฉันฉันไม่รู้ว่าท่านเป็นใครชื่ออะไรอยู่ที่ไหน ฉันรู้เพียงแค่ว่าฉันถูกนำมาทิ้งไว้ตั้งแต่แบเบาะแถมยังทิ้งไว้ข้างกองขยะจนยายมาเจอเข้ายายสงสารก็เลยเก็บฉันมาเลี้ยงตั้งแต่ตอนนั้น บุญคุณของยายฉันไม่ทันได้ตอบแทนท่านก็มาจากฉันไปแล้ว ทุกวันนี้ฉันยังคิดถึงท่านอยู่เสมอทุกวันพระฉันจะไปทำบุญให้กับยายเสมอ

ส่วนใครที่กำลังสงสัยว่าทำไมฉันกับลูกถึงอยู่กันตามลำพัง คือพ่อของน้องพอใจเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีลูกเพราะตอนที่ฉันจากมาฉันไม่รู้ว่าตัวเองกำลังท้องอยู่จนกระทั่งผ่านไปสามดือนอาการแพ้ท้องเริ่มปรากฏฉันจึงไปตรวจโรงพยาบาลชุมชนจนรู้ว่าตัวเองท้องได้สามเดือนตอนนั้นยอมรับว่าช็อคจนทำอะไรไม่ถูกแต่พอตั้งสติได้ฉันก็รู้สึกดีใจที่ต่อไปนี้ฉันจะไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวเพียงลำพังบนโลกใบนี้อีกแล้วฉันกำลังจะมีลูก แต่ถึงฉันจะท้องฉันก็ไม่ได้กลับไปหาพ่อของลูกเพราะไม่รู้จะกลับไปทำไมในเมื่อเขาไม่ได้รักฉันเขารังเกียจขยะแขยงฉันยิ่งกว่าอะไรบนโลกใบนี้ เขาถึงไล่ฉันออกออกมาจากชีวิตของเขาอย่างไม่ใยดีแล้วแบบนี้จะให้ฉันกลับไปหาเขาเพื่ออะไรกลับไปให้เขาเยาะเย้ยสมน้ำหน้าว่าไม่มีทางไปงั้นเหรอฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอก  ลูกคนเดียวฉันเลี้ยงเองได้และจะเลี้ยงให้ดีถึงแม้ว่าฉันจะจบแค่มอสามความรู้น้อยก็ตาม ฉันรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถทำให้ลูกอยู่ได้อย่างสุขสบายบนกองเงินกองทองเหมือนพ่อของแกแต่ฉันก็ไม่เคยให้ลูกอดข้าวอดน้ำ ต่อให้ฉันต้องอดฉันก็ทนได้ ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่เคยอดมาก่อน ฉันน่ะลำบากมาตั้งแต่เล็กแล้วเดินเก็บของเก่ากับยายทุกวันแต่ฉันก็มีความสุขเพราะได้ไปไหนมาไหนกับยายเราไม่เคยแยกจากห่างกันเลยสักวันใครจะมองจะดูถูกฉันกับยายยังไงฉันก็ไม่เคยใส่ใจหรือสนใจเพราะเราไม่ได้ไปแบมือขอทานใคร เราหาด้วยตัวของเราเอง มีก็อิ่มไม่มีก็อดจนเป็นความชินชา เพราะเหตุนี้ถึงทำให้ฉันอดทนเข้มแข็งมาได้จนถึงทุกวันนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel